More

    HYPTEC HL มาครบทั้ง EV และ EREV ขายจีนเริ่ม 1.239 ล้านบาท

    ค่าย HYPTEC บุกตลาดรถอัลตร้าลักชัวรีอย่างเต็มรูปแบบในชื่อ HYPTEC HL รถใหม่ลำดับที่ 4 ล่าสุดเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

    จุดมุ่งหมายของ HYPTEC HL ท้าชนเอสยูวีตัวเอ้ทั้ง Mercedes-Benz GLS (Mercedes-Maybach GLS) BMW X7 และ NIO ES8 ด้วยความยาว 5.1 เมตร

    หน้าตาโดดเด่นด้วยไฟวิ่ง LED Interactive ตรงชุดกระจังหน้าทรงทึบ ส่งมาในรูปแบบข้อความ รูปภาพและอื่นๆ พร้อมคิ้วสีเงินคาดใต้ช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้าชุดไฟหน้า LED ประกอบด้วยชุดไฟ DRL ส่วนบนและไฟหน้าส่วนล่างพร้อมกรอบสีเงินรูปตัววีสองฝั่งปะโลโก้เก๋บนชุดไฟวิ่ง

    ด้านข้างมาเด่นด้วยหลังคากระจกพาโนรามิกพร้อมราวหลังคาสีเงินติดตั้งเซนเซอร์ LiDAR บนหลังคารถส่วนหน้า กรอบกระจกทั้งบานตกแต่งด้วยเส้นสีเงิน กระจกมองข้างทรงสปูนพรัอมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูยืดหดได้ คิ้วชายล่างสีเงินลากยาวอยู่ในตำแหน่งเดียวกับคิ้วชายล่างกันชนหน้า

    HYPTEC HL

    กลมกลืนลงตัวด้วยไฟท้ายรูปตัวที LED แนวยาวเรียบเนียนพร้อมฝาท้ายและกันชนหลังทรงหรูติดตั้งคิ้วสีเงินเป็นหนึ่งเดียวกับด้านข้างและด้านหน้า ล้ออัลลอยลายซี่หลายๆก้านขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R21 แน่นอนว่าตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม AEP 3.0 เริ่มที่ ความยาว 5,126 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,990 มิลลิเมตร ความสูง 1,750 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,088 มิลลิเมตร

    HYPTEC HLภายในสไตล์หรูด้วยห้องโดนยสารอัจฉริยะ ADIGO 6.0 smart cockpit  เริ่มที่คอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมจอลอยตัว 2 ตัวเริ่มที่มาตรวัดความเร็วดิจิทัล LCD ขนาด 8.8 นิ้ว มีจอแสดงผลอินโฟเทนเมนต์ส่วนกลางขนาดใหญ่ 17.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า HUD ขนาด 27 นิ้ว แถมมีจอเพดานชัดแบบ 3K ขนาด 17.3 นิ้ว ประมวลการทำงานจอรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295P ผสานกับโมเดล AI DeepSeek-R1 เพื่อรับรู้การโต้ตอบสั่งงานด้วยเสียง

    ลำโพงอะคูสติกรอบคันจากแบรนด์ HYPTEC 24 จุด หลังคาหุ้มด้วยหนังคุณภาพ พวงมาลัยดีไซน์เรียบมีสไตล์ 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชันท้ายตัดพร้อมเกียร์คอหลังพวงมาลัยไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light แผ่นชาร์จไร้สาย 2 แผ่นกำลังชาร์จ 50W คอนโซลกลางช่องเก็บของขนาดใหญ่ด้านล่าง

    HYPTEC HL

    นอกจากนี้เบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูง NAPPA แบบ 6 ที่นั่ง 2+2+2 และ 5 ที่นั่ง ผู้โดยสารด้านหน้าสามารถพับลงให้แบนและปรับให้เข้ากับพื้นที่ที่ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังยืดออกได้อย่างแท้จริง เบาะนวดสำหรับที่นั่งด้านหน้าเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกความสะดวกสบายตามความต้องการ

    เบาะนั่งตอนที่ 2 ระดับเฟิร์สคลาส (First Class Seats) ปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง นวดได้ 18 จุดทั่วทั้งตัวเบาะ เพิ่มความสะดวกสบายหรูหราในทุกสัมผัส เพิ่มที่วางเท้าเล็กๆ จากด้านหลังของเบาะหน้าได้ พร้อมโหมด VIP สามารถเลื่อนและพับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าไปข้างหน้าได้ ทำให้เกิดพื้นที่ว่างสูงสุดสำหรับเบาะแถว 2

    มีปุ่มการทำงานทั้งปรับเสียง ปิดกระจกหน้าต่าง ลำโพงฝังในพนักพิงศีรษะ เพื่อสร้างบรรยากาศการนอนหลับที่สบายแบบ Zero Gravity ออกแบบตามสรีระของผู้โดยสารปรับได้ถึง 127.5 องศาและตอนที่ 3 นั่งได้ 2 ที่นั่ง เงียบขึ้นสบายขึ้นด้วย วัสดุดูดซับเสียงมากกว่า 60 ชิ้นและกระจกกันเสียง พร้อมเทคโนโลยี RNC (Road Noise Cancellation) ช่วยลดเสียงรบกวนจากข้างนอกได้กว่า 2.7 dB

    HYPTEC

    ขุมพลังมีการเปิดเผยแล้วว่ามาทั้งไฟฟาล้วนหรือ EV ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตรให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 6.5 วินาที วิ่งไกล 670 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 646 กิโลเมตร (NEDC) ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 95.90 kWh รองรับรองรับการชาร์จเร็ว DC แบบ 3C ชาร์จสูงสุด 300kW 30-80% ภายใน 15 นาที และชาร์จช้า AC ในรุ่น Standard Range RWD

    รุ่น Long Range RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตรให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 6.5 วินาที วิ่งไกลมากกว่ารุ่น Standard Range ถึง 750 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 724 กิโลเมตร (NEDC) ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 108.35 kWh รองรับการชาร์จเร็ว DC แบบ 5C 30-80% ชาร์จสูงสุด 560kW ภายใน 10 นาที และชาร์จช้า AC

    รุ่น Performance AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้กำลังรวม 517 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร แบ่งเป็นมอเตอร์ล้อหน้า 177 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตรให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 4.5 วินาที วิ่งไกล 700 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 675 กิโลเมตร (NEDC) ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 108.35 kWh รองรับการชาร์จเร็ว DC แบบ 5C 30-80% ชาร์จสูงสุด 560kW ภายใน 10 นาที และชาร์จช้า AC

    HYPTEC

    และขุมพลังไฟฟ้าแบบขยายระยะทาง Extended Range หรือ EREV วิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ 350 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 289 กิโลเมตร (NEDC) และวิ่งรวม 1,200 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ถัง และชาร์จ 1 ครั้ง หรือ 1,158 กิโลเมตร (NEDC)

    เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตรให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ 7.5 วินาที ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 60.33 kWh จาก CATL Freevoy รองรับการชาร์จเร็ว DC แบบ 5C 30-80% ชาร์จสูงสุด 300kW ภายใน 10 นาที และชาร์จช้า AC จากพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร พร้อมถังน้ำมัน 53 ลิตร

    ทุกขุมพลังสร้างบนแพลตฟอร์มแรงดันไฟฟ้าสูง 800V รองรับการชาร์จกระแสตรงในระดับ 5C ใช้เวลาการชาร์จในเวลาสั้นลงด้วยกำลังการชาร์จเพิ่มเป็น 5 เท่า

    พร้อมช่วงล่างถุงลมและ CDC มีระบบขับขี่อัจฉริยะ ADiGO Pilot NDA4.0 ขับเคลื่อนด้วย AI ทำงานร่วมกบเซนเซอร์ LiDAR บนหลังคาประกอบด้วย เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว กล้อง 11 ตัว และเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เพื่อให้เกิดความสามารถในการช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงโดยไม่ต้องพึ่งพาแผนที่ความละเอียดสูง

    พร้อมความสามารถของฟังก์ชันอื่นๆได้แก่ การตรวจจับสิ่งกีดขวางแบบคงที่ static obstacle detection ช่วยจอดรถในที่แคบ narrow space parking assistance ช่วยจอดรถอัตโนมัติ autonomous valet parking ช่วยจอดรถระยะไกล remote parking assistance และเตือนมุมอับสายตา blind spot monitoring.

    HYPTEC HL

    HYPTEC HL เปิดขายจีน 8 รุ่นย่อยแบ่งเป็นรุ่น BEV 5 รุ่นและรุ่น EREV 3 รุ่นในราคาเริ่มต้น 269,800–319,800 YUAN หรือราว 1,239,000-1,469,000 บาท โดยมีสีภายนอกถึง 4 สี ได้แก่สีน้ำเงิน Nautical Blue, สีเทา Ice Rock Gray, สีเขียว Deep Sea Green และสีดำ Night Shadow Black ส่วนจะมีแนวโน้มทำเวอร์ชันพวงมาลัยสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกหรือไม่ต้องติดตาม

    ที่มา CARNEWSCHINA

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts