หลังจากเปิดตัวที่ไทยที่แรกเมื่อ 18 มิถุนายนสำหรับ ISUZU MU-X รุ่นปรับโฉมจนประสบความสำเร็จในตลาดรถพีพีวี 7 ที่นั่งขึ้นอันดับ 1 ได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุดออสเตรเลียเผยด้ภาพหลุดไม่พรางตัวที่มามาจากหน่วยงานภาครัฐของออสเตรเลียที่ได้ระบุข้อมูลจำเพาะหลักและเปิดเผยของรุ่นที่กำลังจะออกสู่ตลาดสำหรับ ISUZU MU-X
หน้าตาไม่ต่าวจากเวอร์ชันไทยภายนอกจดภายในใหม่ทั้งคันเริ่มที่ภายนอกปรับใหม่ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าออกแบบเส้นสายหนาลงตัวพร้อมกระจังหน้าเขี้ยวสองชั้น โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า Bi-LED แบบ Dynamic Blade มีไฟ Daytime แบบ LED ในตัวโคมไฟหน้า เร้าใจด้วยชุดกันชนหน้าใหม่! แบบ Fighter Jet ดุดันพร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยเสาอากาศแบบเสาสั้นบนหลังคารถส่วนหน้า ราวหลังคาบิ๊วอินสีดำดีไซน์กลมกลืนกับหลังคา กระจกมองข้างไฟเลี้ยว LED ปรับ-พับด้วยไฟฟ้า บันไดข้าง สบายยิ่งกว่าด้วยฝาท้าย Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection
พร้อมชุดกันชนหลังทรงเดิมออกแบบลิ้นสปอยเลอร์หลังใหม่ ไฟท้าย LED ใหม่!แบบ Dynamic Blade พร้อมผสานดีไซน์สปอร์ตของชุดไฟท้ายด้วยเส้น Embrace Line ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านแม็กแบบ 3D พร้อมยาง 265/50 R20 ใล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 และล้อลายเดิมขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65 R17
ภายในเหมือนไทยทั้ง มาตรวัดเรืองแสง Integrated MID 7 นิ้ว เชื่อมต่อข้อมูลกับจอสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้วรองรับการใช้งานทั้งระบบเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แสดงผลหลายฟังก์ชันทั้งแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง ทิศทางการเลี้ยวของล้อ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น พร้อมลำโพงรวมทวิตเตอร์หน้า-หลัง 8 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์ใหม่ปรับได้ 4 ทิศทาง
เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold ความสะดวกสบายครบครันมี Ambient Light และ Dome Light หรูมีระดับ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หลัง Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger Type C และช่องต่อ DC 12V
เบาะนั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง พร้อมเบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับเอนได้ถึง 22 องศา พับได้ 60/40 แบบพับม้วนเดียวจบและเบาะนั่งตอน 3 สบายพับได้แบบ 50/50 พร้อมพื้นที่สัมภาระด้านท้ายมากถึง 311 ลิตร และพับเบาะตอน 3 มีพื้นที่ความจุมากถึง 1,119 ลิตร และเมื่อพับตอน 2 กับตอน 3 ด้วยกันจะมีพื้นที่ความจุมากถึง 2,138 ลิตร มากที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ฟังก์ชันเอาใจคนรักความสะดวกสบายด้วยกุญแจรีโมท ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start เฉพาะรุ่น RS และ Ultimate และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร
ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร Welcome Light ล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร Walk Away Auto Lock เปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสาร สามารถดักฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5
ทางด้านออสเตรเลียนอกจากภายในโทนสีดำอาจมีโทนสี Truffle Brown-Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่!สี Truffle Brown ที่นั่งสบายเหนือกว่าโอบรับสรีระ คอนโซลดีไซน์ใหม่! สี Truffle Brown-Black พรีเมียมด้วยวัสดุ Piano Black-Satin Silver บรรยากาศภายในหรูหราไฟสร้างบรรยากาศสีขาว White Ambient Light
ขุมพลังสำหรับออสเตรเลียยังคงเดิมยังไม่มีการแนะนำเครื่องใหม่ 2.2 ลิตรออกมาด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีและเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS 1.9 Ddi Blue Power รุ่น RZ4E-TC กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800–2,600 รอบต่อนาที
คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift เลือกได้ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ พร้อม Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L ระบบเฟืองท้ายแบบ Electronic Diff-lock ควบคุมด้วยไฟฟ้า
ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร พร้อมช่วงล่างคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายเหนือกว่าคล่องตัวทั้งในเมือง และนอกเมือง
พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ขับรถอย่างปลอดภัย IDAS (ISUZU’s Intelligent Driver Assistance System) เวอร์ชันใหม่เพิ่ม ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) และกล้องรอบคัน 360O Surround View Camera ให้ภาพคมชัดแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถพร้อม กล้องมองหลังกับเส้นกะระยะ Lane Guide ใหม่
ISUZU MU-X รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับครั้งใหญ่มาทั้งหมด 3 เกรด ทั้งเกรด LS-M, LS-U และ LS-T ทั้งหมด 8 รุ่นย่อย เตรียมเปิดขายที่ออสเตรเลียเร็วๆนี้คาดว่าพบกันปีหน้า
และล่าสุดทีมงาน Car2Day บังเอิญพบรถเทลเลอร์ขนส่ง MU-X ใหม่แถวชลบุรีและจุดสังเกตไม่มีเสาอากาศครีบฉลามบนหลังคามีความเป็นไปได้สูงว่าเตรียมส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลียโดยเป็นตลาดใหญ่ของ ISUZU และการเข้าไปจำหน่ายทดแทน Holden Rodeo ที่เลิกราไปภายใต้ ISUZU UTE จนถึงวันนี้มียอดขายสะสมมากกว่า 350,000 คัน แบ่งเป็นรุ่น D-MAX มากกว่า 250,000 คัน และ MU-X มากกว่า 100,000 คัน
ปิกอัพ D-MAX เป็นรุ่นแรกของ ISUZU UTE ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2008 ซึ่งห่างจากการวางจำหน่ายในประเทศไทยถึง 6 ปี และ MU-X ปลายปี 2013 ขึ้นแท่นรถขายดีสูงสุดในออสเตรเลีย โดยข้อมูลจากเดือนตุลาคมนี้แบ่งเป็น D-MAX ขายไปแล้ว 250,789 คัน และตั้งเป้าที่จะทำลายสถิติในปีด้วยยอดส่งมอบ 25,644 คันตั้งแต่เดือนมกราคม แบ่งเป็นรถ 4×2 จำนวน 5,411 คัน และรถ 4×4 จำนวน 20,233 คัน
Junta Matsu กรรมการผู้จัดการของ ISUZU UTE Australia กล่าวว่า นับเป็นเครื่องพิสูจน์การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้เราได้รับการยอมรับจากลูกค้าอันทรงคุณค่าของเรา
“จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในปี 2008 สู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาด รถยนต์ ISUZU D-MAX และ MU-X กว่า 350,000 คันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนในออสเตรเลียเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารถยนต์ของเราพัฒนาไปไกลแค่ไหนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและได้เข้ามาอยู่ในใจของเหล่าประชาคมอีซูซุชาวออสซี่หลายแสนคนที่ให้ความอุปการะมาตลอด
“เราภูมิใจในสิ่งที่เราบรรลุในปีนี้และเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนในปีนี้ที่โอกาสต่างๆกำลังท้าทายที่จะให้เราบรรลุผลให้สำเร็จ”
แม้ว่า ISUZU UTE กำลัจะกำลังเฉลิมฉลองยอดขายแต่ยังต้องตามให้ทันคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันโดยยอดขาย D-MAX ตลอด 10 เดือนปีนี้ทำได้ 25,644 น้อยกว่า Ford Ranger ซึ่งเป็นรถที่ขายดีที่สุดโดยรวมในออสเตรเลียถึงครึ่งหนึ่งและยังน้อยกว่า Toyota HiLUX ที่ส่งมอบได้ 46,594 คันในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย
ขณะเดียวกัน MU-X มียอดส่งมอบแล้ว 15,584 คันในปีนี้ เป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม รองจาก Ford Everest (มียอดส่งมอบ 21,281 คัน) อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ Toyota Land Cruiser Prado 250 Series ใหม่ อาจทำให้แซงหน้าทั้งสองรุ่นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าแม้เตรียมที่จะเปิดตัว MU-X รุ่นปรับโฉมและ D-MAX ที่กำลังจะมีเครื่องใหม่ 2.2 ลิตรในอนาคต