ประเทศไทยคือที่แรกของโลกที่เปิดตัวและจำหน่ายก่อนใครสำหรับสำหรับปิกอัพจากเมืองฮิโรชิม่า Mazda BT-50 ปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปี
Mazda BT-50 ปิกอัพปรับหล่อครั้งนี้มีการแนะนำเครื่องใหม่ 2.2 ลิตรตามแฝดพี่ ISUZU D-MAX
ภายนอกมาพร้อมแนวคิด “Dignity into Power พลังแกร่ง สะท้อนตัวตน” นำเสนอปิกอัพที่มีภาพลักษณ์แกร่ง เข้มดุดันเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มองหาปิกอัพมาพร้อมอรรถประโยชน์การใช้งานแต่ก็ยังต้องการปิกอัพที่มีดีไซน์สง่างามสไตล์ญี่ปุ่น
ภายนอกหล่อสง่างามตามแนวทาง Kodo design – Soul of Motion ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าออกแบบใหม่ ไฟหน้า LED คู่ dual-beam LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัวแอลแนวนอนกระจังหน้าซิกเนเจอร์วิงออกแบบใหม่พร้อมตราโลโก้ที่ใหญ่ขึ้นขอบกระจังหน้าใหญ่ขึ้นและขลิบสีแดงติดตรา BT-50 สำหรับรุ่นแต่งหล่อจากโรงงาน
กันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ชุดแต่งสีดำทั้งในกระจังหน้าที่เปิดประตูกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวที่เปิดฝากระบะท้าย ด้านท้ายออกแบบใหม่ด้วยไฟท้าย LED พร้อมฝากระบะท้ายดีไซน์ใหม่เล่นดีไซน์ร่องแนวนอน 3 ช่องแบบแยกกับตราขนาดใหญ่กันชนหลังดีไซน์ดูเรียวขึ้นอย่างชัดเจน
ล้อและยางที่มีให้เลือกตั้งแต่ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65 R17 ลายเข้มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18
พิเศษในรุ่นย่อยใหม่ XTR มาพร้อมชุดแต่งสีดำรอบคันไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งกันชนหน้า สปอร์ตบาร์ กระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ มือจับเปิดประตู และล้ออัลลอย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักของรถปิกอัพในปัจจุบันที่ต้องการรถปิกอัพสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และยังสะท้อนบุคคลิกอันโดดเด่นได้อย่างลงตัว มิติตัวรถปรับเล็กน้อยตั้งแต่
- ความยาว 5,280 มิลลิเมตร
- ความกว้างลดลงเหลือ 1,870 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,785 มิลลิเมตรในรุ่น Freestyle Cab และ 1,790-1,810 มิลลิเมตรในรุ่น Double Cab
- ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร
- ความกว้างฐานล้อหน้าและล้อหลังเท่ากัน 1,570 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 235 มิลลิเมตรในรุ่น รุ่น Freestyle Cab และ 240 มิลลิเมตร ในรุ่น Double Cab
- ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร
ภายในใหม่โทนสีเข้มพร้อมออปชันใหม่ทั้งชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทางปรับระดับได้ 4 ทิศทางแบบ Tilt & Telescopic หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 และ 9 นิ้ว มีระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display
รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเสียงรอบทิศทางตั้งแต่ 4 ลำโพง 6 ลำโพง และสูงสุด 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound ปุ่ม Push Start
เบาะนั่งคู่หน้าลดความเมื่อยล้าพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับมีปุ่มดันหลังด้วยไฟฟ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศมาทั้งแบบหมุนและอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา หุ้มด้วยวัสดุผ้า กึ่งหนังแท้ และกึ่งหนังแท้ผสมกับหนังกลับพร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
แรงเร้าใจด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo มีกันถึงสองทางเลือกเริ่มที่ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX E5 แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด REVTRONIC พร้อม Paddle Shift
เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าติดตั้ง Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ทำงานได้ทั้ง 2H 4H และ 4L
และขุมพลังใหม่ตามแฝดผู้พี่ด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS ขนาด 2.2 ลิตร รุ่น RZ4F-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้พลังแรงเพิ่มขึ้นสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่พร้อม REVTRONIC และ Paddle Shift ให้อัตราทดต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว ตอบสนองฉับไว แม่นยำ ราบเรียบ นุ่มนวล ทำให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้นเลือกได้เฉพาะขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
ความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เวอร์ชันใหม่ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่า ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคันครบครันในรุ่น XTR ด้วย
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง ACC ( Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
- เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning
- หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)
- เตือนเมื่อออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
- ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
- ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
- ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advance Blind Spot Monitoring)
- ใหม่!! ช่วยเบรกขณะถอยหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
(ไม่มี ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist) และเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake))
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน BA ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องกันการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับเบาะหลังในรุ่น 4 ประตู ระบบ BOS (Brake Override System) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด และคู่หน้า
ESS (Emergency Stop Signal) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind spot monitoring ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับระบบ Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensing Wiper พร้อม Integrated Wiper Blade ระบบฉีดน้ำบนก้านปัดแบบ Blade Type สะอาดหมดจด Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
Mazda BT-50 รุ่นปรับโฉมประกอบที่โรงงาน ISUZU Motors ประเทศไทย สำโรง มาพร้อม 3 สีใหม่ได้แก่สีแดงเวอร์มิลเลี่ยน ลาโตซอล เรด (Vermilion Latosol Red) สีขาวมุกจีโอด ไวท์ เพิร์ล (Geode White Pearl) และ สีน้ำเงินเซลลิ่ง บลู (Sailing Blue) พร้อม 2 สีเดิมทั้ง สีขาว ไอซ์ ไวท์ (Ice White) และสีเทา คอนกรีต เกรย์ (Concrete Gray) มาพร้อม 4 รุ่นย่อยดังนี้
- รุ่น Freestyle Cab 2.2 XS HI-RACER 6MT ราคา 762,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- รุ่น Double Cab 2.2 XT HI-RACER 8AT ราคา 992,000 บาท (ราคาเดิม)
- รุ่น Double Cab 3.0 XTR HI-RACER 6AT ราคา 1,242,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 70,000 บาท)
- รุ่น Double Cab 3.0 XTR 4WD 6AT ราคา 1,352,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 80,000 บาท)