หลังจากเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศทั้งสีโมโนโทนและทูโทนกันไปสำหรับ Mercedes-Maybach S 580 e ขวัญใจกลุ่มนักธุรกิจเซเลปชื่อดัง
Mercedes-Maybach S 580 e มาพร้อมสีใหม่สีทูโทน High-tech Silver/Selenite Grey และยังเป็นรถประกอบในประเทศไทย
เก๋งใหญ่สุดในค่ายมาในมาดหรูอัลตร้าลักชัวรีซีดานรหัส Z223 หน้าตาสะท้อนเอกลักษณ์ความสง่างามตามแบบฉบับของ Mercedes-Maybach เริ่มที่กระจังหน้าโครเมียม Radiator grille ขนาดใหญ่ล้อมกรอบแปะตราตัวอักษร Maybach ไส้ในของกระจังหน้ามาในแนวตั้ง 27 ซี่โครเมียมสีเงินพร้อมแนวเส้นตรงยาวบนฝากระโปรงหน้าหลังโลโก้ตราดาวแบบโครเมียมสีเงิน Hood Trim Strip ติดตั้งไฟหน้า LED แบบ Digital Light พร้อมกันชนหน้าและช่องระบายอากาศโครเมียมดีไซน์พิเศษ
ด้านข้างหรูหราด้วยคิ้วโครเมียมที่ขอบกระจกทั้งหมดและกรอบเสาประตูที่เปิดประตูซ่อนรูปเนียบ Seamless Doorhandles ช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง และช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตูทำได้อย่างสะดวกสบายเพียงใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู ตราสัญลักษณ์ Maybach ตรงเสา C กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED มีไฟส่องใต้พื้นแบบตราโลโก้ Maybach กระจกแบบ laminated glass ช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีอินฟาเรดและเสียงสะท้อนจากภายนอก
ไฟท้าย LED เทคโนโลยี fibre-optic ครอบทับด้วยกรอบโครเมียมใต้ป้ายทะเบียน ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซน์เท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่งล้อมกรอบโครเมียมดีไซน์เฉพาะ พิเศษกับล้ออัลลอย forge wheels ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางหน้า 255/40 R20 และยางหลัง 285/35R20 ตัวรถใหญ่ขึ้นทุกมิติตั้งแต่
- ความยาว 5,469 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,921 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,510 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,396 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,111-2,740 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมันลดลงเหลือ 67 ลิตร (เดิม76 ลิตร)
- ความจุสัมภาระท้ายลดลงเหลือ 325 ลิตร (เดิม 505 ลิตร)
ภายในอัปเกรดให้หรูขึ้นตั้งแต่ในห้องโดยสารสร้างบรรยากาศอบอุ่นผ่านประสบการณ์ดิจิทัลที่ตอบรับความต้องการของผู้โดยสารในทุกที่นั่งจะพบแผงคอนโซลกลางแบบ black crystal-look finish พร้อมหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลาง OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ ตกแต่งบริเวณโครงหลังคาอย่างปราณีตด้วย DINAMICA MICROFIBRE คุณภาพสูง ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง NAPPA พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control
เบาะนั่งดีไซน์หรูหราหุ้มหนัง Exclusive NAPPA ที่ตกแต่งแบบ diamond design และระบบนั่งด้านหลังแบบ First-Class พร้อมฟังก์ชันการนวดที่สามารถเปลี่ยนทุกความเหนื่อยล้าให้เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE ฟังก์ชันปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบฟอกอากาศแบบ HEPA filter และระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ติดตั้งระบบความบันเทิงและการสื่อสารมาอย่างล้ำสมัยโดยควบคุมและสั่งการทุกอย่างราวกับมีผู้ช่วยส่วนตัวด้วยระบบ MBUX Interior Assistant อันชาญฉลาดเพื่อผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX ที่เชื่อมต่อ music streaming service ระบบแผนที่นำทาง และระบบตรวจสอบสภาพการจราจร Live Traffic Information
มาพร้อมการติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system ที่จะช่วยยกระดับสุนทรียภาพแห่งการเดินทางอย่างไร้ขีดจำกัด ผสานการทำงานกับ Ambient lighting ในการสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารด้วยระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารกว่า 64 เฉดสี ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึง 2 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สี twinkle-star และสี rosé gold ที่มีเฉพาะในยนตรกรรมจาก Mercedes-Maybach เท่านั้น
พร้อมจอหลัง MBUX High-End Rear Seat Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Tablet หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วบริเวณที่ท้าวแขนเบาะหลัง ควบคุมความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังโดยเฉพาะ
ขุมพลังเป็นเบนซินเทอร์โบ 3.0 ลิตร M256 6 สูบเรียงพร้อม single-turbo twin-scroll 367 แรงม้าที่ 5,500-6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังและชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 28.6 kWh ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 510 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที
โหมดไฟฟ้าสามารถวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้งมากกว่า 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและความเร็วสูงสุดรวม 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ด้านการชาร์จถ้าชาร์จเร็ว DC กระแสตรง รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ชาร์จได้ 30 นาที และ AC กระแสสลับ รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW ได้ 2.30 ชั่วโมง
ความพิเศษในรูปแบบใหม่ของรถยนต์คันนี้คือ การเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการเดินทางไปกับโปรแกรมการขับขี่แบบ “Maybach” ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความผ่อนคลายขณะเดินทางให้แก่ผู้โดยสารด้านหลังโดยเฉพาะ โดยจะเน้นการเคลื่อนที่ของระบบช่วงล่างและควบคุมแรงสั่นสะเทือนของรถยนต์เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มสบายที่สุด
ในขณะเดียวกันก็สามารถปรับการควบคุมคันเร่งเพื่อการออกตัวอย่างนุ่มนวลในขณะที่โปรแกรมการขับขี่แบบ “COMFORT” ก็จะช่วยมอบสมดุลแห่งการขับขี่อันสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังมีอีกหลากหลายโหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการด้วยระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT
เทคโนโลยีความปลอดภัยนั้นจัดมาให้อย่างเต็มพิกัดตามแบบฉบับรถยนต์ระดับไฮเอนด์ลักชัวรีทั้ง
- ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- ช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance package
- รักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC)
- ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist)
- ช่วยควบคุมพวงมาลัยและเตือนเมื่อปล่อยมือ (Active Steering Assist with hands-off warning)
- ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบรถยนต์จักรยานและคนข้ามถนน (Active Brake Assist)
- ช่วยเตือนเมือมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist)
- แจ้งเตือนขณะเปิดประตูรถ (Exit warning)
- ตรวจจับเครื่องหมายจราจร (Traffic Sign Assist)
- ช่วยยเตือนอาการเหนือยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
- ปองกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system
- ป้องกันก่อนเกิดเหตุสําหรับด้านข้าง PRE-SAFE® impulse side system และผู้โดยสารด้านหลัง PRE-SAFE® rear system
นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist ถุงลมนิรภับรอบคัน 13 จุด ทั้งคู่หน้า 2 จุด คู่หลัง 2 จุด ด้านข้าง 4 จุด ม่านนิรภัย 4 จุด และถุงลมนิรภัยระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า 1 จุด ถุงลมติดตังภายในเข็มขัดนิรภัยแบบ BELTBAG สัญญาณเตือนเข็มขัดนิรภัยบนหน้าจอ สําหรับผู้โดยสารด้านหลัง (Rear belt status) ควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
ช่วยการทรงตัวขณะเร่งแซงในทางโค้ง (Curve Dynamic Assist) รักษาสมดุลของตัวรถเมือมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) ป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration Skid Control) เบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) ช่วยเบรก BAS (Brake Assist System) ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) รักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) และระบบจํากัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เตือนเพือนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
ช่วยจอด Active Parking Assist พร้อมกล้อง 360° ที่จะช่วยนำรถเข้าจอดได้อย่างง่ายดายผ่านการส่งสัญญาณเสียงและการแสดงภาพรอบทิศทางผ่านกล้อง 360° ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อช่วยควบคุมการจอดรถได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus ผสานการทำงานด้วยระบบปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System) ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light) และตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ Tire pressure monitoring system
Mercedes-Maybach S 580 e สีทูโทนประกอบในประเทศมาในราคา 11,300,000 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดและจับจองได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบเอ็กซ์คลูซีฟทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ เบนซ์บีเคเค กรุ๊ป, ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์, สตาร์แฟลก และทีทีซี มอเตอร์ พร้อมนำเสนอ Mercedes-Maybach Lifestyle Concierge Service จากผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก “Quinessentially” เสริมความเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของ Mercedes-Maybach ตลอด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกรถ