More

    7 ถนน ห้าม 10 ล้อขึ้นไปวิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 12-18 เม.ย.66

    ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ประกาศห้ามรถ 10 ล้อขึ้นไป วิ่งในถนนสายหลัก ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ตั้งแต่วันที่ 12-18 เมษายน หวั่นเกิดปัญหาด้านการจราจรและเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุกับประชาชน

     

    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนนบางสาย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2566 พ.ศ. 2566 ลงนามโดยพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร

    สาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ด้วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2566 มีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวันตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2566 ถึงวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2566 (รวม 5 วัน) ซึ่งจะมีประชาชนใช้รถใช้ถนนเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจร และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น

    สิบล้อ

    ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร จึงจำเป็นต้องออกประกาศข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนนบางสาย เพื่อให้เหมาะสมกับการจัดการจราจรในช่วงเทศกาลดังกล่าว

    ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 139 (1) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ประกอบกับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 62/2566 เรื่อง แต่งตั้งหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 25 มกราคม 2566 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงออกข้อบังคับไว้ ดังนี้

    ข้อ 1.ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักรว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนนบางสาย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2566 พ.ศ. 2566”

    ข้อ 2.กำหนดการห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินรถในถนนบางสาย ตั้งแต่วันพุธที่ 12 เมษายน 2566 ถึงวันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2566 และตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 2566 ถึงวันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ในถนนดังต่อไปนี้ ได้แก่

    สิบล้อ

    7 เส้นทาง ห้ามเดินรถ รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ตั้งแต่ 12-14 และ 16-18 เม.ย.66

    1. ถนนมิตรภาพ ทับกวาง – สีคิ้ว (ทล.2) ตั้งแต่ กม.15+600 ถึง กม.102 ทับกวาง จ.สระบุรี – สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ระยะทาง 87 กม.
    2. ถนนกบินทร์บุรี – ปักธงชัย (ทล.304) ตั้งแต่ กม.165 ถึง กม.222 กบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว ระยะทาง 57 กม.
    3. ถนนบุรีรัมย์ – อรัญประเทศ (ทล.348) ตั้งแต่ กม.71 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ถึง กม.83 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ระยะทาง 12 กม.
    4. ถนนพหลโยธิน เข้าเมืองนครสวรรค์ (ทล.1) ตั้งแต่ กม.332 ถึง กม.347 กลางแดด – นครสวรรค์ตก จ.นครสวรรค์ ระยะทาง 15 กม.
    5. ถนนรังสิโยทัย ปากน้ำโพ – บางม่วง (ทล.117) ตั้งแต่ กม.0 ถึง กม.7 ปากน้ำโพ – บางม่วง จ.นครสวรรค์ ระยะทาง 7 กม.
    6. ถนนพหลโยธิน เข้าเมืองสระบุรี (ทล.1) ตั้งแต่ กม.99+800 ถึง กม.106+150 หนองยาว จ.สระบุรี ระยะทาง 7 กม.
    7. ถนนเลี่ยงเมืองสระบุรีฝั่งตะวันตก บายพาสเสาไห้ (ทล.362) ตั้งแต่ กม.0 ถึง กม.9+288 ปากเพรียว จ.สระบุรี ระยะทาง 9 กม.

    สิบล้อ

    ส่วนในกรณีรถบรรทุกบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในถนนดังกล่าวข้างต้นในช่วงเวลาดังกล่าว ภายในจังหวัดเดียวกัน ให้หัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนั้น ๆ เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต หากเป็นการขอเดินรถตั้งแต่สองจังหวัดขึ้นไป ให้ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต


     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts