ประสบการณ์นั้นเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่งกับการแข่งขัน Formula 1 นักแข่งที่มีประสบการณ์สูงย่อมที่จะมีเทคนิคลูกไม้แพรวพราวในการรับมือกับปัญหาและสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าทีมแข่งเองต่างก็ต้องการนักแข่งที่มีประสบการณ์ด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยในการพัฒนาและปรับปรุงรถของพวกเขา
Formula 1 ฤดูกาล 2023 จะมีนักแข่งที่มีประสบการณ์บนแทร็คโชกโชนที่สุดในประวัติศาสตร์ และจะมีรูกี้ที่ไม่เคยได้ลงสนามเลยรวมอยู่ด้วย แต่ทีมเมทคู่ไหนที่มีประสบการณ์มากที่สุด? เราจะมารวมจำนวนสนามที่พวกเขาเหล่านั้นเคยลงแข่งขันเข้าด้วยกันดู
Aston Martin : Fernando Alonso (355) + Lance Stroll (122) = 477
ถ้าหาก Sebastian Vettel ยังคงอยู่กับทีม Aston Martin ก็จะยังคงเป็นจ่าฝูงของคู่ทีมเมทที่มีประสบการณ์มากที่สุด แต่การมาของ Alonso ทำให้ตัวเลขค่าประสบการณ์นั้นเพิ่มขึ้นไปอีก
แชมป์โลก 2 สมัย นั้นเดบิวต์ F1 ตั้งแต่ปี 2001 ด้วยวัย 19 ปี กับทีมแข่ง Minardi และถึงแม้ว่าระหว่างปีเดบิวต์จนถึงปัจจุบัน เขาพลาดไม่ได้ลงแข่งขันทั้งหมด 3 ฤดูกาล แต่นักแข่งสแปนิชก็เก็บชั่วโมงบินแซง Kimi Raikkonen ขึ้นมาเป็นผู้นำเรียบร้อย โดยเขาลงแข่งขันมาแล้ว 355 สนาม
สำหรับ Stroll กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 7 ของตัวเอง ลูกชายเจ้าของทีมแข่ง Aston Martin มีประสบการณ์บนแทร็คมาแล้ว 122 สนาม ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุเพียง 24 ปี เท่านั้น โดยเขาเดบิวต์ไปเมื่อปี 2017 ด้วยวัย 18 ปี
Red Bull : Max Verstappen (163) + Sergio Perez (235) = 398
คู่หู Aston Martin นั้นเดบิวต์ F1 ด้วยอายุที่ไม่ถึง 20 ปี แต่ไม่มีใครที่จะทำลายสถิติเดบิวต์ด้วยอายุน้อยที่สุดของ Verstappen ลงได้อีกแล้ว แชมป์โลก 2 สมัย คนล่าสุด เริ่มต้นแข่งขัน F1 ด้วยวัย 17 ปี ในปี 2015 ทำให้ในตอนนี้เขาลงแข่งขันมาแล้ว 8 ฤดูกาล ด้วยกัน กับจำนวน 163 สนาม ใต้เข็มขัดของเขา
ทางด้านคู่หูของ Verstappen นั้นเป็นนักแข่งที่มีประสบการณ์มากที่สุดเป็นอันดับ 3 บนกริดปัจจุบัน Perez นั้นเดบิวต์ F1 กับ Sauber ไปเมื่อปี 2011 โดยนักแข่งเม็กซิกันได้ร่อนเร่พเนจรมาแล้วหลายทีม ทั้ง McLaren, Force India + Racing Point ก่อนที่จะมาจบที่ Red Bull ในปัจจุบัน
Mercedes : Lewis Hamilton (310) + George Russell (82) = 392
Hamilton ได้ก้าวข้ามกำแพง 300 มาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่มันกลับกลายเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากที่สุดของแชมป์โลก 7 สมัย เมื่อเขานั้นไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลยตลอดฤดูกาล ซึ่งทำให้มันกลายเป็นครั้งแรกของเขาที่แข่งขันมาแล้วต้องพบเจอกับฤดูกาลที่ไม่มีชัยชนะ
ทีมเมทของ Hamilton พึ่งจะได้ร่วมงานกันปีนี้เป็นปีที่ 2 Russell นั้นพึ่งย้ายมาจาก Williams ทีมแข่งที่เขาใช้เวลา 3 ปี ในการฝึกปรือวิทยายุทธ นั่นทำให้ฤดูกาลที่ 4 ของเขาใน F1 เมื่อปี 2022 แชมป์โลก F2 2018 คว้าโพลและชัยชนะครั้งแรกในชีวิตการเป็นนักแข่ง F1 อีกทั้งยังทำคะแนนสะสมได้มากกว่า Hamilton เสียอีก
Haas : Kevin Magnussen (141) + Nico Hulkenberg (181) = 322
Haas นั้นอาจจะจมอยู่ท้ายตารางคู่นักแข่งที่มีประสบการณ์มากที่สุด หากพวกเขาต่อสัญญากับ Mick Schumacher ออกไป อย่างไรก็ตาม ทางทีมเน้นย้ำอย่างหนักแน่นว่าต้องการนักแข่งที่มีประสบการณ์มาช่วยปรับปรุงพัฒนาทีม นั่นจึงเป็นที่มาของการดึงตัว Hulkenberg ผู้ที่มีประสบการณ์แข่งขันมาแล้ว 181 สนาม ซึ่งเดบิวต์มาตั้งแต่ปี 2010 ในขณะที่ Magnussen ได้กลับมาซบ Haas อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยต่อยอดประสบการณ์ที่มีมาแล้ว 141 สนาม ของเขาออกไป
ทางทีมเลือกนักแข่งในปีนี้โดยมุ่งเน้นไปที่จำนวนประสบการณ์ของนักแข่งเป็นหลัก แตกต่างจาก 2 ปีที่แล้วที่พวกเขาเลือกเงินเป็นหลักและฝากความหวังไว้กับ 2 รูกี้ จนทำให้ทีมต้องจมอยู่ท้ายตาราง นั่นทำให้น่าสนใจว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ของทีมจะช่วยให้พวกเขากลับขึ้นไปอยู่กลางตารางอีกครั้งได้หรือไม่ โดย Haas นั้นเคยมีผลงานที่ดีที่สุดในปี 2018 กับอันดับ 5
Ferrari : Charles Leclerc (102) + Carlos Sainz (162) = 264
ตามธรรมเนียมเดิมของ Ferrari นั้น พวกเขามักจะไม่เลือกนักแข่งที่อายุน้อย เนื่องจากมันเต็มไปด้วยความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม คู่หู Leclerc และ Sainz ได้ทำลายธรรมเนียมนั้นของ Ferrari และกลายเป็นคู่หูทีมเมทที่อายุน้อยที่สุดของค่ายม้าลำพอง
Leclerc และ Sainz กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 ด้วยกันในฐานะทีมเมท และถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังอายุน้อย แต่ทั้งคู่ต่างได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองมาแล้ว อีกทั้งยังเก็บประสบการณ์ภายใต้เข็มขัดมาอย่างเต็มเปี่ยมด้วยการลงแข่งขันมามากกว่า 100 สนาม ทั้งคู่ ซึ่งพวกเขากำลังพา Ferrari ให้มีผลงานดีขึ้นเรื่อย ๆ (ถ้าไม่นับการวางกลยุทธ์ที่ชอบขัดขาตัวเอง)
Alfa Romeo : Valtteri Bottas (200) + Zhou Guanyu (22) = 222
Zhou เป็นรูกี้เพียงคนเดียวที่เดบิวต์ F1 ในปีที่แล้ว และเขาทำได้ดีเสียด้วย นักแข่งจีนเก็บแต้มได้ตั้งแต่สนามแรกที่ลงแข่งขัน และสามารถทำผลงานได้แมตช์กับ Bottas ผู้ซึ่งก้าวเข้าสู่ย่าน 200 ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาควรจะมีคะแนนเก็บมากกว่านี้ หากรถของเขาไม่พบปัญหาทางเทคนิคมากมายอย่างที่เราเห็น
สำหรับ Bottas นั้นเดบิวต์กับ Williams ในปี 2014 จากนั้นย้ายไปสู่ค่าย Mercedes ในปี 2017 และร่วมมือกับ Hamilton คว้าแชมป์โลกให้กับต้นสังกัดมาแล้วมากมาย จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว นักแข่งฟินน์ย้ายมาเข้าสังกัด Alfa Romeo จับคู่กับ Zhou เป็นครั้งแรก และกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 ด้วยกัน โดยที่ทางทีมตั้งเป้าจะขึ้นไปป่วนเหล่าท็อป 5 ให้ได้
Alpine : Esteban Ocon (111) + Pierre Gasly (108) = 219
ในปีนี้ Alpine มีคู่นักแข่งที่เรียกได้ว่า เติบโตและไต่เต้าด้วยกันจนขึ้นมาถึง F1 นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Ocon และ Gasly นั้นมีจำนวนสนามที่ลงแข่งขันใกล้เคียงกันอย่างที่เราเห็น โดย Ocon ได้รับโอกาสลงแข่งขัน F1 ครั้งแรกในปี 2016 แทนที่ Rio Haryanto ในทีม Manor ในขณะที่ Gasly เข้ามาแทนที่ Daniil Kvyat ที่ Toro Rosso ในปีถัดมา
McLaren : Lando Norris (82) + Oscar Piastri (0) = 82
เรามาถึงคู่นักแข่งที่อายุน้อยที่สุดบนกริด แต่กลับไม่ใช่คู่ที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดแต่อย่างใด เพราะ Norris นั้นกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 5 กับ McLaren นักแข่งวัย 23 ปี ได้เดบิวต์กับต้นสังกัดไปเมื่อปี 2019 และขึ้นโพเดียมมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง
ทางด้าน Piastri นั้นจะเดบิวต์ F1 เป็นครั้งแรกในปีนี้ ดาวรุ่งจากออสเตรเลียพึ่งจะมีอายุเพียง 21 ปี โดยในตอนที่ Alonso เดบิวต์ F1 นั้น เขายังไม่เกิดเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม นักแข่งหนุ่มออสซีก็ได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือเป็นอย่างสูง โดยเขาคว้าแชมป์โลก F3 และ F2 ในปี 2020 และ 2021 ตามลำดับ ทั้ง ๆ ที่เป็นปีแรกที่เขาลงแข่งขัน ก่อนที่จะต้องร้างราจากสนามโดยการเป็นนักขับสำรองให้กับ Alpine 1 ปี จนกระทั่ง McLaren เซ็นสัญญาดึงตัวเขามาร่วมทีมในปีนี้
Williams : Alex Albon (59) + Logan Sargeant (0) = 59
เมื่อ Sargeant จะลงแข่งขัน F1 ในปี 2023 เป็นครั้งแรก ดังนั้น ค่าประสบการณ์นี้จึงขึ้นอยู่กับ Albon เพียงคนเดียว นักแข่งลูกครึ่งไทยสตาร์ทการแข่งขันมาแล้ว 59 สนาม โดยพึ่งเข้าร่วมสังกัด Williams ในปีที่แล้ว หลังจากที่เขาต้องกลายเป็นนักขับสำรองไป 1 ปี เพื่อหลีกทางให้กับ Perez ที่ถูก Red Bull ดึงตัวมา
ทางด้าน Sargeant เป็นนักแข่งในโครงการปั้นนักขับเยาวชนของ Williams เขาได้รับการดึงตัวขึ้นมาจาก F2 ที่ซึ่งเขาจบฤดูกาลในอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เขาจะกลายเป็นนักแข่งอเมริกันคนแรกที่ได้ขับ F1 ต่อจาก Alexander Rossi ที่ลงขับให้กับ Manor เมื่อปี 2015
AlphaTauri : Yuki Tsunoda (42) + Nyck de Vries (1) = 43
คู่นักแข่งที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดบนกริด F1 2023 ไม่น่าแปลกใจที่มันตกเป็นของคู่หูจาก AlphaTauri ทีมแข่งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเตรียมนักแข่งก่อนที่จะขึ้นไปสู่ทีมแม่ Red Bull อยู่แล้ว โดย Tsunoda กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 พร้อมจำนวนประสบการณ์ 42 สนาม ภายใต้เข็มขัด ในขณะที่ De Vries สร้างความประทับใจให้กับผู้คนด้วยการเก็บแต้มได้ทันทีที่ลงแข่งขัน ซึ่งมันเป็นการแข่งขันเพียงสนามเดียวของเขากับ Williams ในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาดูอายุของ De Vries นักแข่งดัตช์เองก็ถือว่าเจนสนามมอเตอร์สปอร์ตและมีอายุที่ไม่น้อยแล้ว เขาจะมีอายุ 28 ปี ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ในขณะที่เขามีดีกรีทั้งแชมป์โลก F2 และ Formula E ภายใต้เข็มขัด
อ้างอิง : planetf1.com
