หลังจากเปิดตัว XPENG X9 เอ็มพีวีรุ่นหรูพลังอีวีที่ล่าสุดเปิดตัวรุ่นเริ่มต้นใหม่วิ่งไกล 610 กิโลเมตรในชื่อรุ่นย่อย 610 Max
XPENG X9 ลักชัวรีแวนสายหรูโดดเด่นด้วยการสร้างสมดุลระหว่างฟังก์ชันการทำงานและ “สุนทรียศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี” รวมไปถึงทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์แปลกใหม่ไม่เหมือนเดิมความใส่ใจในรายละเอียดนี้ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.227
ภายนอก Exterior
นอกเหนือจากหลักอากาศพลศาสตร์แล้วตัวรถดีไซน์อย่างสวยงามมาพร้อมชุดไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED ใต้ฝากระโปรงแบบมีขอบพร้อมตราโลโก้ประจำค่าย ถัดลงมาเป็นชุดไฟหน้า LED ดีไซน์กลมกลืนรับกับชุดกันชนหน้าปิดทึบและช่องระบายอากาศแบบรังผึ้ง
มือจับประตูแบบฝังเรียบ ไฟท้าย LED แนวยาวทรงสปอร์ตรับกับหลังคาลาดแบบ Hatchback และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20 สร้างจากแพลตฟอร์ม SEPA 2.0 platform จากโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีมิติขนาดใหญ่ตั้งแต่
- ความยาว 5,293 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,988 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,785 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,160 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
ก้าวเข้าสู่ภายในเห็นห้องโดยสารหรูหราพร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัลแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์แบบลอยตัวขนาด 17.3 นิ้ว และลายไม้ที่ล้อมรอบดูหรูหรา เชื่อมต่อด้วยที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย 2 ตำแหน่ง ประมวลผลเร็วด้วย Qualcomm Snapdragon SA8295P และลำโพงรอบคัน 23 จุดกำลังขับ 2,180 W พร้อมเส้นสายตกแต่งด้วยสีเงิน และจอทีวีติดเพดานขนาดใหญ่บนหลังคารถขนาด 21.4 นิ้ว
ไฮไลท์ที่สุดก็คือภายในสบายแบบ 7 ที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 12 ทิศทาง และคนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 ที่สามารถปรับเอนได้ทั้งพนักพิงและที่พักเท้า ออกแบบให้เข้ากับรูปร่างของชาวจีนละชาวเอเชีย เพื่อความสบายยิ่งขึ้น ทำให้ผู้โดยสารแถวที่ 2 สามารถผ่อนคลายปรับได้ 10 ทิศทาง
หากต้องการอะไรดับกระหาย ก็มี “ตู้เย็น” ในตัวพร้อมการตั้งค่าอุณหภูมิระหว่าง 0-50° C พร้อมระบบฟอกอากาศที่ทำให้หายใจได้อย่างสะดวก เครื่องปรับอากาศ เบาะนั่งแถวที่ 2 ยังติดตั้งบนแถบเลื่อนไฟฟ้า ในขณะที่แถวที่ 3 พับราบเพื่อให้เห็นพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 2,554 ลิตร และตอนไม่พับเบาะมีพื้นที่ 755 ลิตร และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟคู่
สมรรถนะ Performance
รุ่นย่อยใหม่ 610 MAX มาพร้อมระบบส่งกำลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังถึง 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) 84.5 วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ได้ 610 กิโลเมตร หรือ 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเร็ว DC 20 นาที 10-80% พร้อมโหมดการขับขี่ โหมดน้ำหนักพวงมาลัยไฟฟ้าและโหมด Brake pedal คันเร่งและเบรกในแป้นเดียว แต่ละโหมดมาถึง 3 โหมดทั้ง Comfort/Standard/Sport และฟังก์ชันชาร์จกลับ Energy recovery มีทั้งโหมด Low/Medium/High/X-Pedal มีระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกันสะเทือนแบบถุงลมมาตรฐาน
ความปลอดภัย Safety
มีระบบ XPENG Navigation Guided Pilot (XNGP) หรือ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ประกอบด้วย Sensors รอบคันกับ LiDAR 2 ตัว รวมไปถึง Computing Power มากสุดถึง 508 TOPS (Trillion Operations Per Second) จากชิปประมวลผลความเร็วสูงของ Dual NVIDIA DRIVE Orin Supercomputing Platform ผ่านมาตรฐาน C-NCAP ระดับ 5 ดาว มาครบทั้ง
- ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC adaptive cruise control
- ช่วยควบคุมให้อยู่กลางเลน LCC Lane Centering Assist
- ช่วยเปลี่ยนเลนอัจฉริยะ ALC intelligent lane change assistance
- จำกัดความเร็วอัจฉริยะ SAS Intelligent Speed Limit Assist
- ช่วยจอดรถอัจฉริยะ AEP Intelligent Parking Assist
- ช่วยถอยจอดรถอัจฉริยะ EAP Super Intelligent Parking Assist
- เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDW lane departure warning
- ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง LKA lane keeping assist
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK Emergency lane keeping assist
- เตือนมุมอับสายตาของรถยนต์ BSD blind spot monitoring and early warning
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA lane change warning
- เตือนการเปิดประตู DOW door opening warning
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW forward collision warning
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB automatic emergency braking
- ปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ IHB smart high beam อ่านป้ายจราจร TSR traffic sign recognition
- ช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากรถคันอื่นที่เคลื่อนที่ใกล้เข้ามาจากด้านหลัง RCW rear collision warning
- ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA rear cross traffic warning
- ช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า FDM forward distance prompt
XPENG X9 ขายแล้วที่จีนด้วยรุ่นใหม่ 610 MAX (FWD) เริ่มต้น 379,800 YUAN หรือราว 1,774,000 บาทขายพร้อมอีก 4 รุ่นย่อยทั้ง 610 Pro (FWD), 702 Pro (FWD), 702 Max (FWD) และรุ่นท็อป 640 Performance Max (AWD) ในราคาเริ่มต้น 359,800-419,800 Yuan หรือราว 1,679,000-1,959,000 บาท
ทางด้านตลาดรถพวงมาลัยขวาเมืองไทยพบกันตุลาคม ส่วนฮ่องกงเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี2024 คาดว่าเปิดตัวไล่เลี่ยกับไทยและส่งมอบไตรมาส 1 ปี 2025
ที่มา AUTOHOME