YADEA ลงนาม MOU ร่วมกับสหกรณ์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภาฯ เพื่อผลักดันการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในหน่วยงานรัฐตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับประเทศ ปูทางไปสู่การเดินทางสีเขียว
YADEA (หยาเดีย) ผู้นำด้านรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและโซลูชันการเดินทางอัจฉริยะระดับโลก ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด เพื่อผลักดันการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นทางการ รองรับเป้าหมายระดับชาติ Thailand Carbon Neutrality 2030 ที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ YADEA กลายเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าต่างประเทศรายแรกที่ได้รับความไว้วางใจจากสหกรณ์ฯ
เป้าหมายของการร่วมมือครั้งนี้คือเพื่อผลักดันให้บุคลากรในวงงานรัฐสภาเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด นางสาวสิตาวีร์ ธีรวิรุฬห์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนให้ ส.ส. และข้าราชการเริ่มใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นกลุ่มแรก ผ่านนโยบายสนับสนุนพิเศษสำหรับสมาชิกสหกรณ์และบุคลากรรัฐสภา ซึ่งจะช่วยยกระดับ ‘การเดินทางสีเขียว’ ให้เป็นภารกิจระดับชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนทั่วประเทศหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
ก่อนหน้านี้ ในเดือนตุลาคม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้เข้าเยี่ยมชมบูธของ YADEA และให้การยอมรับต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านความปลอดภัย และนวัตกรรมของแบรนด์
ขณะที่นางสาวสิตาวีร์ ธีรวิรุฬห์ พร้อมคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ยังมีโอกาสเยี่ยมชมและทดลองขับ YADEA OVA ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ทันสมัยรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน และได้รับการนิยมจากกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นผู้หญิง มีการชื่นชมระบบป้องกันน้ำที่ถูกออกแบบมาได้เหมาะกับสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนของประเทศไทย
หลังจากที่ YADEA ลงนาม MOU กับสหกรณ์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภาฯ มีสมาชิกสหกรณ์และบุคลากรรัฐสภาหลายรายได้เริ่มใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า YADEA จริงในชีวิตประจำวันแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของแบรนด์ในด้านความน่าเชื่อถือ เทคโนโลยีอัจฉริยะ และความทนทานที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
YADEA ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นฐานผลิตสำคัญของแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ซึ่งมียอดขายสะสมกว่า 100 ล้านคัน และโดดเด่นด้านงานวิจัยและพัฒนาแบบครบวงจร ตั้งแต่มอเตอร์ แบตเตอรี่ ไปจนถึงระบบควบคุมต่าง ๆ โดยมีโรงงานอยู่ที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ใช้ระบบการผลิตอัจฉริยะมาตรฐานเดียวกับ Super Factory ในจีน โดยมีพนักงานไทยกว่า 80% และใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 70% พร้อมเป้าหมายขยายกำลังผลิตให้ถึง 600,000 คันต่อปีภายใน 3 ปี บ่งบอกถึงศักยภาพใหม่ของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค
นี่ถือเป็นการร่วมมือครั้งแรกระหว่างภาครัฐกับผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าระดับโลก ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการสนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาระมลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งอาจช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคใหม่ที่มีพลังงานสะอาดใช้ได้เร็วมากยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่: car2day.com
