เรามักได้ยินเรื่องการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียเกี่ยวกับรถยนต์ชนกับรถไฟบริเวณจุดตัดของถนนอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะข่าวใหญ่ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นกับรถบัสของคณะกฐินที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 19 คน บาดเจ็บ 42 คน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นบริเวณนอกเมืองที่ไม่ใช่เส้นทางหลัก เนื่องจากการไม่มีเครื่องกั้นทางรถไฟหรือให้สัญญาณเตือนให้ระวังรถไฟและความประมาทของผู้ขับขี่ จึงทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกิดขึ้นจำนวนมาก เพื่อเป็นการป้องกันให้ผู้ใช้รถมีความปลอดภัยมาขึ้น เรามีข้อแนะนำในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟดังนี้
เจอจุดตัดนอกเมืองให้สังเกตป้ายเตือนและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ในการขับผ่านถนนที่เป็นจุดตัดทางรถไฟจะมีป้ายเตือนบอกในกรณีไม่มีแผงกั้นและสัญญาณเสียงระวังรถไฟเราควรลดความเร็วและชะลอความเร็วและหยุดรถห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตรเพื่อสำรวจเส้นทางด้านหน้ารวมถึงสำรวจทางเดินรถไฟว่ามีรถไฟแล่นผ่านหรือไม่
ขับผ่านจุดตัดทางรถไฟในเมือง มีแผงกั้นแต่ก็ห้ามใจร้อน
การขับผ่านจุดตัดทางรถไฟที่มีแผงกั้น เราควรลดระดับความเร็วของรถให้อยู่ในระดับที่สามารถหยุดได้ทันทีเมื่อมีสัญญาณเตือนรถไฟหรือเจ้าหน้าที่นำเครื่องกีดขวางมากั้นทางรถไฟ โดยควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร หรือในระยะที่ปลอดภัย ที่สำคัญห้ามเร่งความเร็วขับผ่านทางรถไฟเมื่อได้ยินสัญญาณเตือน เนื่องจากรถไฟที่ขับมาไม่สามารถหยุดได้อย่างทันท่วงที เราควรรอจนกว่าขบวนรถไฟผ่านไปหรือเจ้าหน้าที่เปิดแผงกั้นออก ถึงจะขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟได้
กลางคืน จุดอับสายตา ทางโค้ง จุดอันตรายที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ในช่วงเวลากลางคืนรวมถึงทางโค้งนับเป็นจุดอันตรายที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่เราผ่านจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้นและสัญญาณเสียงระวังรถไฟ เราจะมองเห็นเฉพาะบริเวณด้านหน้ารถที่มีไฟส่องสว่างเท่านั้น แต่จะไม่เห็นรถไฟที่มักจะแล่นมาทางด้านข้าง เพื่อความปลอดภัยเราต้องชะลอความเร็วแล้วสำรวจทางรถไฟทั้งด้านซ้ายและขวาว่ามีรถไฟผ่านมาหรือไม่และค่อยขับรถผ่าน และไม่ควรหยุดรถคร่อมรางรถไฟเป็นอันขาด เพราะหากรถไฟวิ่งผ่านมาจะไม่สามารถเคลื่อนรถหนีได้ทัน
