ครึ่งปีแรก 2025 ผ่านไปแล้ว 10 ค่ายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของจีนก็เริ่มทยอยเปิดเผยยอดขายกันออกมา หลายค่ายโชว์การเติบโตที่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่พอลองมาดูอัตราส่วนเทียบกับเป้าหมายทั้งปี กลับพบความจริงที่น่าตกใจ มีเพียง Xpeng (เสี่ยวเผิง) เท่านั้นที่ทำยอดได้เกินครึ่ง (50%) ของเป้าหมาย ส่วนใหญ่ยังต่ำกว่า 40% เลยด้วยซ้ำ
10 อันดับยอดขาย NEVs สตาร์ทอัปในจีน
Brand |
ปริมาณการขายช่วงครึ่งปีแรก (คัน) | เป้าหมายการขายปี 2025 |
Xpeng |
197,189 |
380,000 |
Xiaomi |
Over 157,000 |
350,000 |
Leapmotor |
221,664 |
500,000-600,000 |
Deepal |
143,000 |
400,000 |
Li Auto |
203,938 | 640,000 |
Voyah |
56,128 | 200,000 |
Avatr |
59,084 |
220,000 |
Nio | 114,150 |
440,000 |
HIMA | 204,172 |
1,000,000 |
IM Motors | 18,430 |
100,000 |
Xpeng, Leapmotor, Li Auto และ HIMA เป็น 4 ค่ายที่ทำยอดขายช่วงครึ่งปีแรกได้เกิน 2 แสนคัน ขึ้นแท่นผู้ขาย NEV อันดับต้นๆ ของจีน อย่างไรก็ตาม อัตราการทำตามเป้าหมายของพวกเขากลับแตกต่างกันมาก สาเหตุหลักมาจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกไม่เท่ากัน
- Xpeng โดดเด่นสุดๆ เป็นแบรนด์เดียวที่ทำยอดได้เกิน 50% ของเป้าหมายทั้งปี โดยอยู่ที่ 51.89% จากเป้าหมาย 380,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นเป้าที่ค่อนข้าง “อนุรักษ์นิยม” กว่าปีก่อน แม้ว่าเป้าปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้วถึง 1 แสนคันก็ตาม ด้วยความนิยมของรุ่น Mona M03 และ P7+ ทำให้ยอดขายครึ่งปีแรกของ Xpeng สูงกว่ายอดขายทั้งปี 2024 ไปแล้ว! ถ้าสองรุ่นนี้ยังแรงไม่ตก Xpeng อาจจะขยับเป้าหมายขึ้นไปอีกก็ได้ แต่ด้วยความที่เน้นรถซีดานเป็นหลัก การรุกตลาด SUV ไฟฟ้าอย่างรุ่น G7 ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
- Leapmotor นำมาเป็นอันดับหนึ่งในภาพรวมยอดขาย NEV ช่วงครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นถึงขนาดที่ใหญ่ของแบรนด์จากซีรีส์ C ที่ได้รับความนิยมสูง จุดเด่นของ Leapmotor คือภาพลักษณ์ของรถยนต์นั่งสำหรับครอบครัวที่คุ้มค่า ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผล Leapmotor มีแผนจะเปิดตัวรถซีดานไฟฟ้า B01 ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อมาแข่งกับ Xpeng Mona M03 ที่น่าสนใจคือ Leapmotor ตั้งเป้าจะเปิดตัวซีรีส์ D ที่มีราคาราว 3 แสนหยวน (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) ในปีหน้า ซึ่งการจะเป็นผู้นำยอดขายด้วยซีรีส์ D นี้ จำเป็นต้องปรับการตลาดเพื่อเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคใหม่
- HIMA กับเป้าหมายอันทะเยอทะยานที่ 1 ล้านคันต่อปี ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก แม้ว่าการตั้งเป้าสูงจะสะท้อนความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ แต่ก็อาจสร้างความกดดันได้ Seres ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของ HIMA มีเป้าหมายที่สมจริงกว่าที่ 550,000-600,000 คัน ซึ่งดูแล้วน่าจะทำได้จากยอดขาย Aito ในปัจจุบัน HIMA พึ่งพา Aito อย่างเห็นได้ชัด และแม้ว่าพันธมิตรอีกสามรายจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ศักยภาพของแบรนด์ SAIC-Huawei ที่กำลังจะมาถึงอย่าง Shangjie ก็ยังคงเป็นปริศนา การจะไปให้ถึง 1 ล้านคัน HIMA จะต้องขายได้มากกว่า 130,000 คันต่อเดือนในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญจากยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนในปัจจุบันที่ 40,000-50,000 คัน
- Xiaomi Auto (เสียวหมี่ ออโต้) แม้จะยังไม่ถึง 2 แสนคัน แต่ก็ทำยอดได้เกือบ 50% ของเป้าหมายในครึ่งปีแรก ด้วยรถยนต์แค่รุ่น SU7 และโรงงานเฟสแรกเท่านั้น ผลงานนี้คงเป็นที่อิจฉาของคู่แข่ง ด้วยการเปิดตัว Xiaomi YU7 ใหม่ และโรงงานเฟสสองที่เริ่มดำเนินการแล้ว Xiaomi Auto มีโอกาสสูงที่จะบรรลุเป้าหมายทั้งปีที่ 350,000 คันในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับแบรนด์ NEV ที่มียอดขายครึ่งปีแรกต่ำกว่า 2 แสนคัน และอัตราการทำตามเป้าหมายต่ำกว่า 40% สาเหตุมีตั้งแต่การตั้งเป้าที่ทะเยอทะยานเกินไป ไปจนถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
- Deepal และ Nio ทั้งสองค่ายมียอดขายเกิน 1 แสนคันในครึ่งปีแรก Deepal อาจจะมั่นใจเกินไปหลังจากทำได้ 87.11% (243,894 คัน) ของเป้าหมาย 280,000 คันเมื่อปีที่แล้ว จึงตั้งเป้าไว้ 400,000 คันสำหรับปี 2025 ยอดขายปัจจุบันชี้ให้เห็นว่ามีเพียง Deepal S05 และ S07 เท่านั้นที่สามารถแข่งขันได้ดี ส่วนรุ่น L07, SL03 (ซีดาน) และ G318 (ออฟโรด SUV) ยังห่างไกลจากการเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด Deepal S09 ที่เพิ่งเปิดตัว แม้จะมีความสามารถโดยรวมที่แข็งแกร่งและมียอดจองล่วงหน้า 21,168 คัน แต่ก็ยังต้องพิสูจน์ความสำเร็จในระยะยาวในตลาด
- Nio กับเป้าหมาย 440,000 คัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 230,000 คันเมื่อปีที่แล้วอย่างมาก มีรายงานว่าเป้าหมายนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่บริษัทจะทำกำไรได้ในไตรมาส 4 แม้ว่ายอดขายครึ่งปีแรกของ Nio จะมีการเติบโตมากกว่า 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ความเร็วนี้ยังไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน หาก Nio ยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 230,000 คันเท่าปีที่แล้ว อัตราการทำตามเป้าหมายจะอยู่ที่ 49.63% แบรนด์ย่อย Onvo กับรุ่น L60 ที่ติดอันดับ 3 ในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าล้วนราคา 200,000-300,000 หยวน (ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท) ในเดือนพฤษภาคม มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนยอดขาย อย่างไรก็ตาม Onvo ยังคงต้องต่อสู้กับ Tesla Model Y และยังไม่มีความได้เปรียบที่ชัดเจนเหนือคู่แข่งในประเทศรายอื่นๆ ส่วนรุ่น Onvo L90 ที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า ก็มีภาระยอดขายที่หนักกว่าเช่นกัน อิทธิพลของแบรนด์ Onvo ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยพึ่งพา Nio เป็นอย่างมาก
- สำหรับ Voyah และ IM Motors ซึ่งมีเป้าหมายยอดขายที่ไม่สูงเกินไป แต่อัตราการทำตามเป้าหมายยังต่ำ ปัจจัยต่างๆ เช่น การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ และการรับรู้แบรนด์ เป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการสร้างรุ่นที่ขายดี อย่างไรก็ตาม Voyah กำลังแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากการร่วมมือกับ Huawei อย่างลึกซึ้งขึ้น Voyah Dreamer มียอดขายเกือบ 30,000 คันในช่วงห้าเดือนแรกของปี ซึ่งดึงดูดผู้ใช้ที่เป็นครอบครัวและผู้ประกอบธุรกิจที่กำลังมองหาการเดินทางที่มีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีของ Huawei และจุดแข็งของตัวเอง
Source: CarNewsChina