หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาสำหรับ AION ประเดิมตลาดประเทศไทยกับ AION Y Plus ค่าตัวสุดแสนอะเมซิ่งทะลุล้าน
แต่ด้วยผลการตอบรับไม่ค่อยน่าพอใจรวมถึงเริ่มต้นยอดจดทะเบียน 31 คัน เดือนกันยายนที่ผ่านมาทำให้ GAC AION ตัดสินใจหั่นราคาลดลงจากเดิม 100,000 บาท ในราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น 490 Elite ราคาใหม่ 969,900 บาท (เดิม 1,069,900 บาท)
พร้อมรายการส่งเสริมการขายดังนี้รับประกันคุณภาพตัวรถ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร รับประกันชิ้นส่วนไฟฟ้า (มอเตอร์ แบตเตอรี่ อุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้า) ระยะเวลา 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี บริการจดแจ้งเลขทะเบียนรถ ฟรี แถม Home charger พร้อมบริการติดตั้งฟรี ประกันชั้น 1 เป็นเวลา 1 ปี สินเชื่อรถยนต์อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.88% หรือ ผ่อนชำระนานสูงสุด 84 เดือน จำกัดสิทธิ์เพียง 1000 คันแรกสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยลูกค้าที่ซื้อรถไปก่อนหน้านี้สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่และที่ปรึกษาการขายเพื่อรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว
แฟนๆที่จองรุ่นเริ่มต้น 490 Elite มีรถพร้อมส่งส่วนรุ่นท็อป 550 Ultra รถจะมาถึงช่วงต้นปีหน้าและยังคงใช้ราคาเดิม 1,299,900 บาทจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
AION Y Plus เอสยูวีไฟฟ้าภายนอกหล่อด้วยกระจังหน้าทรงไดนามิก ชุดไฟหน้า LED ดีไซน์มีปีก Angel Wing พร้อมช่องระบายรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วหุ้มยางขนาด 215/55 R17 และขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R18 ไฟท้าย LED แนวยาว พร้อมหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟและราวหลังคาสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP ชั้นนำของอุตสาหกรรม พร้อมความยาวตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,535 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,870 มิลลิเมตร ความสูง 1,650 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 150 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,735-1,765 กิโลกรัม
ภายในโดดเด่นทันสมัยด้วยธีมการออกแบบภายใน 5 แบบ และการตั้งค่าความสว่างควบคู่กับไฟแอมเบียนต์ไลท์ที่ปรับได้ 32 แบบ โดยรอบที่ซิงโครไนซ์กับจังหวะดนตรี นำเสนอการผสมผสานดีไซน์ที่แตกต่างกันถึง 35 แบบเพื่อความสวยงามที่โดดเด่น เบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งเบาะโดยสารด้านหน้าสามารถพับราบได้เต็มที่เปลี่ยนเป็นเตียงคู่ขนาด 1.8 เมตร รวมถึงการพับเบาะหลังแบบ 60/40 ได้อย่างง่ายดายผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถสบายไปกับพื้นที่วางขาขนาดกว้างพิเศษเทียบกับคลาสเดียวกันซึ่งกว้างถึง 1,022 มิลลิเมตร ประตูหลังที่มีมุมเปิดกว้างเกือบ 90 องศา ทำให้การเข้าออกรถสะดวกยิ่งขึ้นเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ทั้งการขับขี่และกับผู้ใช้
พร้อมออปชันเด่นไม่ว่าจะเป็น จอคู่ควบคุมจอมาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้วและจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการอัปเดต OTA แบบ ADiGO SPACE คอยช่วยแสดงข้อมูลสำหรับทุกการขับขี่ พร้อมระบบนำทาง และฟังก์ชันที่อัจฉริยะ เพื่อประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ง่ายดาย พร้อมลำโพง 6 จุด พิเศษสำหรับสเปกไทยในรุ่นท็อป 550 Ultra มีระบบเสียงอัจฉริยะใหม่ที่รองรับการใช้งานสองภาษา ไทย-อังกฤษ
ด้วยแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานโดยสเปกไทยที่จำหน่ายมีสองทางเลือกด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร มีให้เลือกตั้งแต่รุ่น Standard Range แบตเตอรี่แบบ Lithium Ion Phosphate ความจุแบตเตอรี่ 63.2 kWh ให้กำลังวิ่งไกลสุด 490 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ขยับขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่นกับ Long Range กับแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium ความจุแบตเตอรี่ 68.3 kWh วิ่งไกลสุด 550 กม./ชาร์จหนี่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
ประสิทธิภาพการขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 92% และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุดเพียง 13.9 กิโลวัตต์ต่อ 100 กม. หรือ 7.19 กิโลเมตรต่อกิโลวัตต์ พร้อมโหมดการขับขี่สี่โหมดทั้งแบบแป้นเดียว i-pedal ซึ่งช่วยเพิ่มระยะการขับขี่สูงสุดถึง 23% และยังมีโหมด Sport, Normal, ECO ด้านการชาร์จแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จ 80 kW 10-80% ภายใน 45 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับ 7kw 0-100% ภายใน 8-9 ชั่วโมง
มอบความสะดวกสบายเพิ่มเติมในระหว่างการเดินทางด้วยระบบความปลอดภัยเต็มคันตั้งแต่ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist System TJA, ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Assist System ICA ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive cruise control ACC, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Brake Assist System AEB, ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning FCW, ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist LKA, ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane departure warning system LDW, การจอดรถอัจฉริยะ Intelligent Parking, เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า Car-following functions และกล้องพาโนรามารอบคัน 360 องศา
AION Y Plus มีสีภายนอกเลือกได้ 7 สี ดังนี้ สีทองลักกี้โกลด์ (สีทองนำโชค) Lucky Gold, สีเขียวไวท์ทาลิตี้ (สีเขียวชีวิตชีวา) Vitality Green, สีขาวเพียวไวท์ (สีขาวบริสุทธิ์) Pure White, สีดำแกรเมอร์ แบล็ก (สีดำลึกลับ) Glamour Black, สีเทาลิเบอร์ตี้ แอช (สีเทาอิสรภาพ) Liberty Ash และสีเทาอิลิแกนท์ เกรย์ (สีเทาเรียบหรู) Elegant Grey และสีทูโทนหลังคาดำอีก 3 สี ได้แก่ สีทองลักกี้โกลด์ Lucky Gold, สีเขียวไวท์ทาลิตี้ Vitality Greenและ สีขาวเพียวไวท์ Pure White
สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการในไทยภายใต้ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) ได้จัดตั้งโชว์รูมแล้ว 30 แห่ง โดยอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 25 แห่ง ตั้งเป้าว่าจะสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ 50 แห่งแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้รวมถึงตั้งเป้ายอดขายช่วงแรก 3,000 คันภายในปี 2023 และเตรียมที่จะมีโรงงานผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพื่อจำหน่ายในไทยและส่งออกภายใต้ ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ด้วยงบลงทุนประมาณ 6,400 ล้านบาทกับพื้นที่ 1,000 ไร่ ในพื้นที่ EEC จ.ระยอง ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 100,000 คัน/ปี แล้วเสร็จช่วงปีหน้า
