More

    เจาะรถเด่น! Mazda 2 Facelift ปรับอีกครั้งสปอร์ตซิตี้คาร์มาไทยเร็วๆนี้

    เกือบ 10 ปี ที่ Mazda 2 เจเนอเรชันที่สี่ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งถึงแม้ไม่มีเจนใหม่เข้ามาสานต่อแต่ความนิยมที่มีกันมานานไม่เคยเสื่อมคลาย

    Mazda

    สำหรับเมืองไทยหลังเปิดตัวรุ่น Model Year ไปถึงเวลาแล้วที่จะเผยรุ่นปรับโฉมครั้งที่สองตามหลังญี่ปุ่นปรับครั้งนี้หล่อทั้งคันตั้งแต่กระจังหน้า Signature Wing ปรับดีไซน์แบบขอบดำเข้มสองแบบทั้งแบบตาข่ายสีดำ และ แบบครึ่งตาข่ายครึ่งปิดทึบสีเดียวกับตัวรถรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่คาดสีดำกันชนหลังคิ้วโครเมียม พร้อมไฟท้าย LED ตกแต่งใหม่ด้วยหลังคาสีดำ และ เสาอากาศครีบฉลามสีดำ ล้ออัลลอยกับกระทะล้อ มีการปรับในส่วนของกระทะล้อลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15 ส่วนล้ออัลลอยลายเดิม 15 นิ้วยังคงและลายใหม่ 16 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R16 ปลายท่อไอเสียขัดเงา สีภายนอกสีทูโทนหลังคาสีดำ ซึ่งจะเป็นออปชันของแต่ละรุ่น

    MazdaMazda

    ภายในดีไซน์เดิมแต่ปรับสีสันใหม่ตามแต่ละรุ่นกับโทนสีการตกแต่งหรูด้วยเบาะกึ่งหนังแท้สลับหนังกลับขาวขลิบเหลือง ตกแต่งโทนสีดำสีขาวตั้งแต่แผงคอนโซลหน้า แผงประตู แผงคอนโซลเกียร์ ช่องแอร์ขลิบสีเหลือง กุญแจรีโมทตกแต่งพิเศษด้วยสีเหลืองกับสีเงินเงาและพรมปูพื้น มีชุดแต่งแผงหน้าคอนโซลหน้าและคอนโซลเกียร์สามสีให้เลือก คือ สีขาว Pure White, สีดำ Mirror Black หรือสีมินท์ Mint ขึ้นอยู่กับสีภายนอกและยังเพิ่มการตกแต่งภายในสีดำเย็บด้ายสีแดงช่องระบายอากาศโดยรอบและแผงคอนโซลหน้าสีแดงตัดสีดำ

    พร้อมออปชันเดิมทั้งเบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันความจำ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ รวมถึงระบบความบันเทิง Mazda Connect รองรับ Apple Carplay และ Android Auto บนจอสัมผัส 7 นิ้ว ที่ชาร์จมือถือไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน และ Paddle Shift

    Mazda

    เมืองไทยยังใช้บริการสองขุมพลังเดิมทั้งดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D รหัส S5-DPTS 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที เบนซิน SKYACTIV-G รหัส P3 1.3 ลิตร 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด Activematic ติดตั้งระบบ i stop (idling stop system) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i ELOOP เปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้

    พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่นและความปลอดภัย i-Activsense ไม่่ว่าจะเป็น ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทางและระบบเซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังด้านละ 4 จุด เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Advanced Blind Spot Monitor (ABSM) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เบรก 4W-ABS EBD กับดิสก์กึ่งดรัมและดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมการทรงตัว DSC  ควบคุมการลื่นไถล TCS  ช่วยออกตัวทางชัน HLA  ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS

    Mazda

    Mazda

    Mazda 2 Facelift ยังมีสีภายนอกรถชุดเดิมทั้งสีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีเทา โพลีทัล เกรย์ (Polymetal Gray) ในรุ่น 4 ประตู, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver) และสีบรอนซ์ Platinum Quartz มาครบทั้งสองตัวถังทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก Sports ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น 1.3 E, 1.3 C, 1.3 S Leather, 1.3 SP และ 1.5 XDLเตรียมเปิดตัวที่ไทยเร็วๆนี้คาดอาจมาในช่วง Big Motor Sale 2023

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts