พึ่งจะเผยกระบะสายโหดพร้อมฟาดฟันกับ Ford Ranger Raptor โดยเฉพาะ สำหรับ Performance Pickup อย่าง Toyota Hilux GR Sport
แต่ว่ากลุ่มตลาดละตินอเมริกา อย่างบราซิล อาร์เจนติน่า พร้อมที่จะเผยโดยทำตลาดมานานกว่า 5 ปี และออกมาเป็นเวอร์ชันที่สี่ ซึ่งรวมถึงกลุ่มตลาดโซนยุโรป ดุดันแบบเดียวกับออเตรเลียด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมใหม่สีดำเข้มมีปีกซ้าย-ขวา พร้อมตราอักษร Toyota กับตรา GR รับกับไฟหน้า Bi-LED กับไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกันพร้อม Follow Me Home และควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กันชนหน้าออกแบบใหม่รองรับความกว้างของตัวรถที่ใหญ่กว่ารุ่นปกติด้วยสีเดียวกับตัวรถ คิ้วขอบไฟตัดหมอกหน้า LED ออกแบบใหม่สีดำเข้ม รับกับคิ้วใต้กันชนหน้าสีเงินขนาดใหญ่กลมกลืนกับตัวรถพร้อมแผ่นกันกระแทกใต้เครื่องยนต์
ด้านข้างใหญ่โตขึ้นกับกับคิ้วขอบล้อทรงจัมโบ้สีดำรองรับการขยายของความกว้างช่วงล้อทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ล้ออัลลอยสีดำลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R17 จากยาง Bridgestone Dueler all-terrain กับบันไดข้างออกแบบแนวแท่งสีดำใหม่ลุยดุดันขึ้น ยางบังโคลนสี่ด้านออกแบบใหม่สมส่วนขึ้นพร้อมออปชันเดิมตั้งแต่ ไฟท้ายแบบ LED แบบเลข 3 Light Guiding ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวตกแต่งสีดำเมทาลิค สัญลักษณ์ GR Sport ที่บริเวณด้านท้าย หลังคารถสีดำ และสปอร์ตบาร์ดีไซน์พิเศษ กับเสาอากาศเสาสั้น สำหรับสเปกละติน
ภายในต่างจากสเปกไทยด้วยโทนดำตกแต่งด้วยสีเงินรมดำแถบสีแดงผสมลายคาร์บอน เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับแบบเจาะรูสีดำขลิบแดงเดินด้ายแดง พนักพิงศีรษะติดตรา GR ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางในด้านคนขับ แผงคอนโซลหน้าและแผงช่องแอร์หน้า ตกแต่งด้วยสีเงินรมดำ และสีดำเมทาลิค ส่วนแผงประตูขึ้นรูปสีดำบุหนังพร้อมแถบสีเงินรมดำและสีดำเมทาลิค พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังเดินด้ายแดง ตกแต่ง Center Mark สีแดงส่วนบนของพวงมาลัย กุญแจ Smart Key ปุ่ม Push Start ติดตราโลโก้ GR ทั้งหมด แป้นคันเร่งและแป้นเบรกตกแต่งด้วยสีเงินสปอร์ต
มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT เครื่องเสียงจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto ลำโพง JBL 6 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ช่องต่อไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V เพื่อความสบายในการเสียบใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า ไฟสร้างบรรยากาศสีน้ำเงินที่แผงประตู และพิเศษกับเข็มขัดนิรภัยเส้นสีแดงเพิ่มความดุกร้าวมากขึ้น
ขุมพลังยกมาจากสเปกแอฟริกาใต้กับพลังดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.8 ลิตร 1GD-FTV 224 แรงม้าที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที ของเดิมเป็น 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ / นาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift และ Paddle Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time แบบ Shift-On-The-Fly ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ A-TRC และระบบเฟืองท้าย Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
พร้อมช่วงล่างพัฒนาใหม่ลุยขั้นโหดสุด ปรับช่วงล่างอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงหน้าให้ทนทานขึ้นเพิ่มความแข็งของสปริงโช้คหน้าด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน 5 แผ่น โช้คแอพซอพเบอร์แบบโมโนทูบแบบใหม่ พร้อมดิสก์เบรกหน้า คาลิเปอร์สีแดง 4 พอต ขนาด 338 มม. และดิสก์เบรกหลัง คาลิเปอร์ 1 พอตขนาด 312 มม. เพิ่มสมรรถนะในการปีนป่ายด้วยมุมเงยหรือ Approach angle 30 องศา และมุมจาก หรือ Departure angle 26 องศา มีการขยายในทุกส่วนเมื่อเทียบกันพบว่าความยาวตัวรถลดลง 5 มม. ความกว้างมากขึ้น 120 มม. สูงขึ้นจากเดิม 15 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้ากว้างกว่าเดิม 140 มม. ความกว้างช่วงล้อหลังกว้างกว่าเดิม 155 มม.
Toyota Hilux GR Sport สเปกลาตินอเมริกา ประกอบที่โรงงาน Toyota Argentina S.A. ที่ Zárate เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยส่งไปขายในกลุ่มลาตินอเมริกา และโรงงาน Toyota South Africa Motors (Proprietary) Limited (TSAM) ที่เมืองเดอร์บัน จังหวัดควาซูลู-นาตัล ประเทศแอฟริกาใต้ ส่งขายกลุ่มยุโรป คาดอาจเปิดตัวใกล้เคียงกับออสเตรเลีย ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 และอาจรวมถึงเมืองไทยด้วย
ที่มา Motor 1
