More

    Audi A7 Sportback 55 TFSI e เก๋งสปอร์ตพลังเสียบปลั๊ก

    Audi ค่ายรถหรูจากเมืองอินโกลชตัดต์ เยอรมนี ทำตลาดในไทยจริงจังด้วยการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องของกลุ่มรถไฟฟ้า 100% และรถปลั๊กอินไฮบริด

     

    ล่าสุดเปิดตัวรุ่นใหม่ Audi A7 Sportback 55 TFSI e Gran Turismo 4 ประตู พลังปลั๊กอินไฮบริด รูปลักษณ์ไดนามิก ลุคสปอร์ตด้วยชุดแต่งภายนอกแบบ S line Black Edition และล้อลายใหม่ Audi Sport 5-double arm style ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/40R20 พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า-หลัง (Light staging) พร้อมไฟ Projector LED สัญลักษณ์ S ที่ประตูหน้าพร้อมชุดแต่ง S line มิติตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,969 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,908 มิลลิเมตร ความสูง 1,421 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,926 มิลลิเมตร  และความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร

    Audi

    เบาะนั่งคู่หน้าหนัง Valcona แบบ Sports plus ตกแต่งด้วยลาย Diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด ตกแต่งด้วยหนัง Perforated พร้อมสัญลักษณ์ S line ตกแต่งภายในด้วยลาย Dark Matte Brushed Aluminum หลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า แป้นเบรก แป้นคันเร่ง และที่พักเท้าตกแต่งด้วย Stainless steel ภายในรถนั้นไม่ได้มีแต่ความสวยหรู แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ดีเยี่ยม เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน ช่อง USB-C สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ระบบเครื่่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ และไฟเรืองแสงในห้องโดยสารมากถึง 30 สี (Contour/ambient lighting) ระบบช่วยปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารก่อนเริ่มการขับขี่ (Stationary air conditioning)

    Audiพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลัง หนึ่งเดียวในเซกเมนต์ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ultra technology พร้อมเทคโนโลยีที่ให้ความไดนามิกในการขับขี่ เกาะถนนได้ดีเยี่ยม กำลังขับรวมได้สูงถึง 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร จากขุมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบชาร์จ TFSI รหัส DRY 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้าที่ 5,250-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,500 รอบต่อนาที กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 17.9 kWh มาพร้อมกับ on board charger ขนาด 7.4 kWh ความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 5.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ในโหมดไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระยะทางวิ่งไกลสุดอ้างอิงตามผลการทดสอบมาตรฐาน WLTP ถึง 69 กิโลเมตร) ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ S tronic 7 สปีด

    Audi

    มาพร้อมระบบ Recuperation ที่สร้างพลังงานไฟฟ้ากลับคืนสู่แบตเตอรี่ขณะขับขี่ ทรงรถ Gran Turismo 4 ประตู หนึ่งเดียวในเซกเมนต์พรีเมียมที่นำเสนอระบบปลั๊กอินไฮบริดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro การขับขี่ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ในทุกๆวัน ไม่ว่าจะอยู่ในตัวเมืองหรือการเดินทางระยะทางไกล การผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัวและสปอร์ตในคันเดียว ด้วยโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันทั้ง 4 โหมด รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดนี้จึงใช้งานง่ายและเหมาะกับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันระบบชาร์จที่มาพร้อมกับ Audi A7 Sportback 55 TFSI e quattro เป็นมาตรฐาน หัวชาร์จแบบ Type 2 สำหรับใช้กับเครื่องชาร์จสาธารณะ พร้อมแท่นชาร์จ Compact Charger ที่ใช้สำหรับการชาร์จไฟบ้านและอุตสาหกรรมระบบจะมีการแสดงสถานะ LED เพื่อความปลอดภัย รองรับการชาร์จไฟได้สูงสุด 7.4 กิโลวัตต์ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนั้น สำหรับการชาร์จด้วยไฟบ้านขนาด 220 โวลต์ ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่เปล่าให้เต็มได้ภายในเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง AudiAudi A7 Sportback 55 TFSI e quattro S line รุ่นใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด พร้อมสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น ตกแต่งภายนอกด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ เสริมความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง Black Edition และล้อลายใหม่ ทั้งยังปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ มาให้ราคาที่คุ้มค่า ครอบครองได้ง่ายขึ้น เปิดให้จองแล้วในราคาเริ่มต้น 4,799,000 บาท และ A7 Sportback 55 TFSI e quattro S line Black Edition ราคา 5,099,000 บาท สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี Metallic Glacier White, Metallic Floret Silver, Metallic Mythos Black, Metallic Chronos Grey, และสีใหม่ Metallic Firmament Blue และ Metallic Grenadine Red

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts