เอเอเอสฯ รุกตลาดเอสยูวีอัลตราลักชูรีเต็มสูบ เปิดรับจอง Bentley Bentayga MY2024 พร้อมเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่กับเทคโนโลยีสุดล้ำ
เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดรับคำสั่งจองอัครยนตรกรรมอเนกประสงค์ Bentley Bentayga MY2024 มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่และเทคโนโลยีแห่งความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารรูปแบบใหม่สำหรับโมเดลแบบฐานล้อมาตรฐาน (Standard Wheelbase) โมเดลฐานล้อยาวพิเศษ (Extended Wheelbase) พร้อมเดินหน้ารุกตลาดรถยนต์แบบอเนกประสงค์ระดับอัลตราลักชูรีที่จะมอบทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร และสมรรถนะในการขับขี่ แต่ละรุ่นย่อยมีจุดเด่นที่แตกต่างกันเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ครอบครอง เริ่มที่รุ่น Bentayga EWB Mulliner รุ่นเรือธงจะมอบสุดยอดความหรูหราและความประณีตของงานฝีมือพร้อมกับเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับ Bentley Mulliner
รุ่น S SWB ตอบโจทย์ความสปอร์ตด้วยรูปลักษณ์และสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมเฉกเช่นยนตรกรรมแบบแกรนด์ทัวริ่ง รุ่น Azure สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ยังคงความร่วมสมัยและความหลากหลายของรูปแบบการตกแต่งเฉพาะตัวด้วยตัวเลือกล้ออัลลอยด์ขนาด 21 นิ้วพร้อมยาง 285/45R21 พร้อมกับรายละเอียดที่ประณีตกับ 3 รูปแบบในเฉดสีเทา เฉดสีดำ และเฉดสีเงินขัดเงาเพื่อให้เข้ากับความหรูหราของอัครยนตรกรรม รวมถึงกระจังหน้าดีไซน์ใหม่
รุ่นย่อยใหม่รุ่น A จะตอบโจทย์ความต้องการบนเส้นทางแห่งความหรูหราและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่จะมอบคุณสมบัติระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่น Azure กับรูปลักษณ์ภายนอกที่เน้นความหรูหราด้วยกระจังหน้าแนวตั้ง กระจังกันชนล่างสีดำ พร้อมการตกแต่งด้วยป้ายโลโก้รุ่น ‘A’ และล้ออัลลอยด์เฉดสีดำ-เงา ขนาด 21 นิ้ว และรุ่น EWB ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างโดดเด่นด้วยชุดแต่ง Styling Specification ที่มาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังที่ใหญ่ขึ้น ช่วยขยายแนวหลังคาและเพิ่มเสถียรภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ขณะที่ขับขี่ในย่านความเร็ว เสริมด้วยกระจกมองข้างคาร์บอนไฟเบอร์ผิวมันวาว และสเกิร์ตข้างตกแต่งด้วยโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ กันชนทั้ง 2 ข้างได้รับการเสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมด้วยสปลิตเตอร์ที่ด้านหน้าและดิฟฟิวเซอร์ที่ด้านหลัง
มิติตัวรถใหญ่สมฐานะเริ่มที่รุ่น SWB ความยาว 5,125 มิลลิเมตร ความสูง 1,728 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,995 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,440 กิโลกรัมและความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร ส่วนรุ่น EWB ความยาว 5,305 มิลลิเมตร ความสูง 1,739-1,774 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 3,175 มิลลิเมตร น้ำหนัก 3,250 กิโลกรัม ส่วนความกว้างและความจุถังน้ำมันเท่ากันเริ่มที่ความกว้าง 2,222 มิลลิเมตรและความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร
ภายในห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศยังได้รับการพัฒนาด้วยระบบใหม่ที่สามารถใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอนุภาคเพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในและภายนอกห้องโดยสาร โดยจะแสดงผลบนหน้าจออินโฟเทนเมนต์ 10.9 นิ้ว และเปิดใช้งาน ‘โหมดหมุนเวียน’ โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้มลภาวะจากภายนอกเข้าสู่ห้องโดยสาร ซึ่งระบบจะกลับสู่โหมดอากาศบริสุทธิ์โดยอัตโนมัติ และจะปิดการทำงานโดยทันทีเมื่อตรวจไม่พบผู้โดยสารด้านหลังเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศไปทางด้านหลังและช่วยลดการใช้พลังงาน พรมห้องโดยสารแบบมาตรฐานได้รับการพัฒนาให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยพรมห้องโดยสารใหม่ผลิตจากไนลอนรีไซเคิล 100% มอบความสบายเฉกเช่นเดียวกับพรมรุ่นก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้วัสดุไนลอนบริสุทธิ์ 100%
ห้องโดยสารที่แยกออกจากกันทำให้เกิดเสียงที่สมบูรณ์แบบจากเครื่องเสียงรุ่นใหม่ล่าสุด ‘Bang & Olufsen for Bentley’ ที่มาพร้อมกับการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของลำโพง B&O ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมตกแต่งด้วยรูลำโพงในขนาดและมุมต่างๆ ตามรูปแบบ Fibonacci ที่ออกแบบขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมติดตั้งและตกแต่งอย่างหรูหราบนแผงประตูห้องโดยสารแต่ละบาน โดยรูลำโพงที่ทำมุมจะถูกจัดวางให้แน่นที่สุดเพื่อให้ได้เสียงที่ใส และเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับพื้นผิวที่รังสรรค์ด้วยเฉดสีขาว-มุกแบบใส คุณสมบัติเบาะโดยสารแบบ Airline Seat Specification ที่มาพร้อมกับระบบตรวจวัดอุณหภูมิแบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีการปรับท่าทางได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้ครอบครอง Bentayga EWB เป็นออปชันมาตรฐานและเป็นตัวเลือกใน Bentayga SWB ทุกรุ่นย่อย
รุ่น A ผู้ครอบครองสามารถเลือกเฉดสีของหนังและรูปแบบของการเล่นเฉดสีได้ถึง 15 รูปแบบ พร้อมด้วยคุณสมบัติด้านความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารสำหรับเบาะโดยสารด้านหน้า อาทิ ฟังก์ชันการนวด เบาะโดยสารแบบปรับอุณหภูมิและระบายอากาศ รวมถึงการตกแต่งด้วยการเดินเส้นด้ายตัดกันตลอดห้องโดยสาร และการตกแต่งด้วยวีเนียร์ที่มีให้เลือกสรรในแบบ Crown Cut Walnut แบบ Dark Burr Walnut และแบบ Koa ยังมาพร้อมกับพรมปูพื้นห้องโดยสารแบบใหม่ Wilton หรูหรากว่าด้วยการใช้ขนสัตว์บริสุทธิ์ 100% ขนนุ่มจะให้ความรู้สึกที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยการเลือกใช้ผ้าขนสัตว์หลากหลายชนิดที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อความสะอาดและความบริสุทธิ์ของสีที่ผ่านการทดสอบและให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านคุณภาพ พร้อมกับการใช้วิธีการย้อมเส้นด้ายที่จะช่วยให้ควบคุมคุณภาพของการย้อมสีได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้การจับคู่สีตามที่ต้องการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในระหว่างกระบวนการผลิตจะไม่มีการใช้สารฟอกขาว ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้คือพรมสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสวยงามจากขนสัตว์แท้
พร้อมขุมพลังให้เลือกด้วยเครื่องยนต์รุ่น V8 เบนซินเทอร์โบคู่ขนาด 4.0 ลิตรมอบพละกำลัง 550 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิด 770 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุด 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเบนซิน V6 เทอร์โบ TFSI Plug In Hybrrid ขนาด 3.0 ลิตรมอบพละกำลัง 340 แรงม้าที่ 5,300-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันมตรที่ 1,340 -5,300 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่เมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังรวม 462 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 254 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทั้งสองขนาดให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.6 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Permanent all-wheel drive กับกระจายแรงบิดล้อหน้า-ล้อหลัง แบบ 40:60 สมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นมาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ในรุ่น S SWB และ รุ่น Azure SWB ซึ่งแต่เดิมระบบนี้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น Bentayga EWB เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ในทุกย่านความเร็ว โดยระบบจะทำการปรับทิศทางการเคลื่อนที่ของล้อหลัง ควบคู่ไปกับการบังคับเลี้ยวล้อหน้าโดยผู้ขับขี่ ลดวงเลี้ยวได้เกือบ 1 เมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมของตัวรถในย่านความเร็วสูง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถแซง เปลี่ยนเลน หรือเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ส่วนในย่านความเร็วต่ำ ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อจะช่วยลดวงเลี้ยวและเพิ่มความคล่องตัวในพื้นที่แคบ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถทำการจอดรถได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ ได้รับการพัฒนาด้วยการติดตั้งระบบช่วยจอดอัจฉริยะและระบบช่วยจอดระยะไกล มุมมองรอบทิศทางแบบ 3 มิติ และระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังมีระบบ Adaptive Cruise Control ระบบ Lane Departure Warning และระบบ Bentley Safeguard ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเข้ามา สำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่จะแสดงผลอยู่บนแผงหน้าจอของผู้ขับขี่ ซึ่งมี 3 รูปแบบใหม่ พร้อมด้วยอีกหนึ่งรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แผงหน้าจอคนขับใหม่ยังสามารถแสดงภาพบนถนนแบบเรียลไทม์ การแสดงภาพวัตถุแบบ 3 มิติ พร้อมภาพของตัวรถและไฟด้านนอก และสถานะของคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่
ผู้ครอบครองยังสามารถรังสรรค์เฉดสีภายนอกใหม่ได้ถึง 8 เฉดสีในทุกรุ่นอาทิ เฉดสีฟ้า-เขียว Topaz ที่เป็นการผสมผสานอย่างเข้มข้นของสีน้ำเงินและสีเขียว ทำให้เกิดเฉดสีแห่งอัญมณีเทอควอยซ์ที่เปล่งประกาย ช่วยเพิ่มความหลากหลายของสีสันที่มีอยู่เดิมกว่า 112 เฉดสี นอกเหนือจากเฉดสีมาตรฐานและเฉดสีพิเศษ Bentley Mulliner ยังได้คัดสรรเฉดสีซาตินระดับพรีเมียมใหม่เป็นตัวเลือกของเฉดสีที่ให้พื้นผิวด้านอีก 7 เฉดสี ได้แก่ เฉดสีดำ Royal Ebony, เฉดสีฟ้า Light Sapphire, เฉดสีส้ม Orange Flame, เฉดสีเขียว Alpine Green และ British Racing Green, เฉดสีแดง Cricket Ball และ Candy Red
เอเอเอสฯ เปิดรับคำสั่งจอง Bentley Bentayga MY2024 พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดที่ ‘นานที่สุด’ ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สำหรับรถยนต์แบบเครื่องยนต์ไฮบริด และการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต พร้อมมอบบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม นอกจากนี้ ยังมอบเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้ถือบัตร ttb reserve ธนาคารทหารไทยธนชาต รับคะแนนสะสมพิเศษ 200,000 คะแนน เมื่อจองทุกรุ่น ตั้งแต่ 2,000,000 บาท พร้อมรับดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 0% กับธนาคารกสิกรไทย หรือ เลือกรับข้อเสนอพิเศษจากทางบริษัทฯ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารและบริษัทฯ กำหนด โดยมีทั้งหมด 12 รุ่นย่อยในราคาดังนี้
– โมเดลฐานล้อมาตรฐาน (Standard Wheelbase) ประกอบไปด้วย
- SWB Hybrid ราคาเริ่มต้น 13,700,000 บาท
- SWB V8 ราคาเริ่มต้น 18,100,000 บาท
- SWB A Hybrid ราคาเริ่มต้น 14,600,000 บาท
- SWB A V8 ราคาเริ่มต้น 19,100,000 บาท
- SWB S Hybrid ราคาเริ่มต้น 15,100,000 บาท
- SWB S V8 ราคาเริ่มต้น 21,500,000 บาท
- SWB Azure Hybrid ราคาเริ่มต้น 16,000,000 บาท
- SWB Azure V8 ราคาเริ่มต้น 21,800,000 บาท
– โมเดลฐานล้อยาวพิเศษ (Extended Wheelbase) มีเฉพาะรุ่น V8 ประกอบไปด้วย
- EWB V8 ราคาเริ่มต้น 20,800,000 บาท
- EWB A V8 ราคาเริ่มต้น 21,300,000 บาท
- EWB Azure V8 ราคาเริ่มต้น 23,300,000 บาท
- EWB Mulliner V8 ราคาเริ่มต้น 27,600,000 บาท
