อีกหนึ่งรุ่นจากค่าย GWM ที่มอบข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจ กับ HAVAL H6 HEV รุ่นท็อป ULTRA แบบไม่ต้องรองาน Motor Show ลดโหดหั่นราคาจากเดิมสองแสนบาท
มาในราคาใหม่ 1,149,000 บาท จากราคาเดิม 1,349,000 บาท (สำหรับออกรถด้วยเงินสด) หรือ ดอกเบี้ย 0% พร้อมช่วยผ่อนมูลค่าสูงสุด 90,000 บาท พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1 มูลค่าสูงสุด 25,000 บาท และโปรแกรมบำรุงรักษารถ GWM Pro Service Inclusive – GPSI ฟรี 5 ปี ถึงวันที่ 7 เมษายนนี้
HAVAL H6 HEV รุ่น ULTRA ยกหน้าตามาจากรุ่น H6 ULTRA PHEV มาทั้งหมดตั้งแต่กระจังหน้าทรง Star Matrix ขนาดใหญ่สีดำดุดันและแข็งแกร่งคล้ายกับ Peugeot 3008 ด้านท้ายติดตั้งประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้นและระบบ Kick Sensor
บนพื้นฐานออปชันเดิมตั้งแต่ ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์ล้ำสมัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) ไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาวพาดจากซ้ายจรดขวามาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย เติมเต็มความหรูหราด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟสุดหรู ขนาด 1.2 เมตร ราวหลังคาสีเงิน และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19
มีมิติตัวรถขนาดกว้างขวางตั้งแต่ความยาว 4,683 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,886 มิลลิเมตร ความสูง 1,730 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร นำหนักรถ 1,720 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 61 ลิตร
ภายในคงเดิมด้วยสีทูโทนดำ-เทา ที่เข้ากันอย่างลงตัวด้วยชุดโครเมี่ยมภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” ที่มีชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันและความหรูหราให้กับห้องโดยสาร รวมไปถึงการเชื่อมต่อหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า
ลำโพง 8 จุดรอบคันพร้อม Treble Woofer และ DTS พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger กุญแจ Smart Key ระบบ Push Start แผงมาตรวัดดิจิตอลลอยตัว HD Multi Information Display 10.25 นิ้ว จอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านพร้อม Paddle Shift
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางในส่วนคนขับและปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางในส่วนคนนั่ง เบาะหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ช่องเสียบ USB ตัวเบาะหลังยังพับได้ 40/60 มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย และสร้างบรรยากาศอบอุ่นภายในห้องโดยสารด้วยไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร Ambient Light
ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions) ทั้ง การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) และ GWM Application: ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ
เบนซินเทอร์โบแปรผันซูเปอร์ชาร์จ VGT 1.5 ลิตร GW4B15 GDIT EVO 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร
พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด ECO, Normal, Sport, Snow ช่วงล่างปรับแต่งใหม่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่มาพร้อมความสบายสำหรับผู้โดยสารตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว บนพื้นฐานระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและหลังแบบอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย Driver Assistance and Safety Systems มาครบทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) เพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง ช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-RCTB) ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ตรวจความดันลมยาง (TPMS) ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) เซนเซอร์กระยะการจอดรถหน้าและหลังฝั่งละ 4 จุดและถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน โดยมีสีภายนอกถึง 5 สี ทั้งสีขาว ดำ เทา น้ำเงิน แดง