More

    Honda Accord e:HEV เก๋งหล่อพลังไฮบริด เริ่ม 1.529 ล้านบาท

    ที่สุดซาลูนทรงสปอร์ตเจเนอเรชันใหม่อย่าง Honda Accord เปิดตัวที่เมืองไทยเพื่อยกระดับส่งมอบคุณค่าใหม่สู่การมอบประสบการณ์เดินทางในทุกเส้นทาง

    Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 หน้าตาหล่อคล้ายรถทรง Fastback 5 ประตูทั้งๆที่ความจริงมันคือ 4 ประตูซีดานผสานด้วยความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวหรูหราประณีตไว้อย่างลงตัวตั้งแต่ กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมไส้ในรังผึ้งโดดเด่นด้วยแพตเทิร์นที่มีมิติ สะกดทุกสายตา ไฟหน้า LED แนวยาว พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED  ชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ไฟท้าย LED แนวยาวล้อมฝาท้ายที่คล้ายๆรถยุโรป ด้านข้างโดยเฉพาะเส้นสายที่ชายประตูล่างรวมถึงกระจกโอเปร่าสไตล์เด่น เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ และฟังก์ชันกระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (รุ่น e:HEV EL) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R17 (รุ่น e:HEV E) และขนาด 18 นิ้วพร้อมยางขนาด 235/45R18 (รุ่น e:HEV EL)

    ในรุ่น RS มาพรอมออปชันพิเศษกับระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card และหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)  กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ สีดำแบบสปอร์ตกระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง  ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีดำแบบแมตต์พร้อมยางขนาด 235/45R18 ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก ช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน เสริมความ Contrast และพรีเมียมยิ่งขึ้น เสาอากาศครีบฉลามสีดำแบบสปอร์ต สปอยเลอร์หลังสีดำแบบสปอร์ต และไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential

    มิติตัวรถใหญ่ขึ้นทุกมิติตั้งแต่ความยาว 4,962 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,862  มิลลิเมตร ความสูง 1,449 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,827-2,828 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,560-1,606 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 48.5 ลิตร

    Honda

    ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย โดยได้รับการออกแบบเพื่อมอบทัศนวิสัยที่ดี โดยเน้นการส่งมอบคุณภาพระดับพรีเมียมด้วยมาตรวัดดิจิทัลพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว เป็นรุ่นแรกของค่ายที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมามีระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์รองรับ Android Auto Apple CarPlay อัปเดตออนไลน์ over-the-air ลำโพง BOSE 12 จุด ชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลรถยนต์ Honda Connect มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Key เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการทำงานที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

    ดีไซน์แผงคอนโซลหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Honda ตกแต่งด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ผิวสัมผัสหุ้มหนัง ครั้งแรกับปุ่ม Experience Selection Dial สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สัมผัสกับประสบการณ์การควบคุมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 ผู้ใช้งาน

    พร้อมออปชันใหม่ๆทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ช่องแอร์ด้านหลัง ปุ่ม Push Start ไฟส่องสว่างภายในแบบ LED Map Lights เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold ที่ชาร์จมือถือไร้สาย และช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ตำแหน่ง เบาะนั่งหุ่มวัสดุกึ่งหนังแท้โดยด้านคนขับและคนนั่งปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทางและระบบความจำตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่เลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลังพื้นที่สัมภาระท้ายมากถึง 473 ลิตร แถมยังขยายพื้นที่วางในส่วนผู้โดยสารด้านหลังมากถึง 1,036 มิลลิเมตร มากกว่า Honda Accord เจนที่แล้วถึง 10 มิลลิเมตร

    พิเศษในรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS  มาพร้อมออปชันเสริมทั้งปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า  ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster ไฟสร้างบรรยากาศภายในแบบปรับเฉดสีได้ (Multi-color Ambient Light) ครั้งแรกใน Accord เจนใหม่ โดยสามารถเลือกโหมดการเปลี่ยนสีของไฟได้ ดังนี้ โหมด Recommended Color จะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้โดยอัตโนมัติตามชุดสีที่เลือกขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และโหมด Theme Color ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับไฟสีที่ต้องการได้โดยมีสีให้เลือก 10 เฉดสี ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ขนาด 11.5 นิ้ว

    ในรุ่น e:HEV RS ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมเบาะหนังตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano BlackHonda

    ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างไร้ข้อจำกัด กับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV Full Hybrid e:HEV ด้วยเบนซิน I-VTEC 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC รหัส LFB1 ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD)ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ให้กำลัง 184แรงม้าที่ 5,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 335 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาทีในภาคมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว และแบตเตอรี่ Lithium-Ion ให้กำลังรวมเมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน 207 แรงม้า ขับเคลื่อนความเร้าใจทุกการขับขี่ตอบสนองดั่งใจ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันที่เยี่ยมถึง 25 กม./ลิตร ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20

    จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) โหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดทั้งโหมด ECON, Normal, Sport และ Individual สวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Switch) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงอารมณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้าโดยมีการเพิ่ม Charge Mode เข้ามาเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นโหมดที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในขณะที่รถวิ่งด้วยน้ำมันวิ่ง 1 นาทีที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะสามารถชาร์จไฟเพิ่มเพื่อสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบ EV เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มแรงขับเคลื่อนของ EV ในช่วงความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะแก่การวิ่งในย่านชุมชน เพื่อยืดระยะของการวิ่งด้วย EV ให้ยาวนานขึ้นพร้อมช่วงล่างอิสระสี่ล้อHonda

    มั่นใจยิ่งขึ้นในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยอื่นๆ และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครันทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

    ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) โดยระบบยังสามารถปรับลักษณะการเร่งความเร็วได้ตามโหมด ACC ที่เลือกถือเป็นครั้งแรกใน Accord เจนใหม่ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) และครั้งแรกกับเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ใหม่ ระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System: MMS)

    ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่งรอบคันได้แก่ ถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง และ ใหม่ ถุงลมหัวเข่าคู่หน้า ช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ใหม่ ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และ ใหม่ ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหลัง ควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) และแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ในรุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS มาพร้อมออปชันความปลอดภัยเฉพาะทั้ง ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด

    รุ่น e:HEV RS มาพร้อมระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) และไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC) พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับเสียงรบกวนจากพื้นถนน (Road noise ANC)Honda

    Honda Accord e:HEV มีสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) พร้อมภายในสีดำ และสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

    • รุ่น e:HEV RS           ราคา  1,799,000 บาท
    • รุ่น e:HEV EL            ราคา 1,669,000 บาท
    • รุ่น e:HEV E              ราคา 1,529,000 บาท

    เมื่อจองและรับรถภายใน 31 ธันวาคม นี้รับ Honda Exclusive Care” ประกอบด้วย ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อีกทั้งฟรีแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง ค่าอะไหล่ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และฟรี Honda Ultimate Care ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts