ทำตลาดมาห้าปีแถมมีการแบ่งความหล่อที่หน้าตาให้แตกต่างกันสำหรับ Hyundai CRETA เจเนอเรชันที่สองที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากหลายๆประเทศที่เข้าขาย
ล่าสุดที่อินเดียเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับหน้าใหม่หน้าที่สองแต่สำหรับตลาดโลกเป็นหน้าที่สามเริ่มที่ฝากระโปรงหน้าสูงและแบนราบกว่าเดิม กระจังหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสีดำโครมทรงเหลี่ยมโดยไส้ในมีทั้งเส้นนอนและแนวตั้งถึงสามชั้นติดตราโลโก้ ข้างบนขอบฝากระโปรงติดตั้งชุดไฟ Horizon LED ยาวทั้งแผงมีทั้งไฟส่องเวลากลางวัน DRL และไฟเลี้ยวแบบวิ่งหรือ sequential ส่วนด้านล่างมีไฟหน้าหลัก Quad Bean LED ทั้งสองฝั่ง ไฟท้าย LED แบบตัวยูคว่ำยาวทั้งแผง พร้อมไฟเลี้ยวแบบวิ่งเช่นเดียวกับด้านหน้า กันชนหน้าหลังออกแบบใหม่เสริมคิ้วทรงเหลี่ยมสีเงินเสริมความเท่ไปอีกขั้น พร้อมราวหลังคา พาโนรามิคซันรูฟควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าและล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 205/65R16 และขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/60R17
ภายในใหม่หมดตั้งแต่ดีไซน์แผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัสมีจอคู่แบบไม่ลอยตัวทั้งขนาด 8 นิ้ว และ 10.25 นิ้วทั้งฝั่งมาตรวัดความเร็วดิจิทัลและจอสัมผัสระบบความบันเทิง ช่องแอร์ฝั่งคนนั่งที่ยาวขึ้น มีช่องแอร์ตรงกลางดีไซน์แนวนอน ปุ่มการทำงานออกแบบใหม่ พร้อมเส้นไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร Ambient Light เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto hold ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายและพื้นที่สัมภาระท้ายขนาด 416 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง 60/40 จะมีพื้นที่มากขึ้น 1,384 ลิตรและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสี่ก้านดีไซน์ล้ำ
เครื่องยนต์ Smartstream ขนาด 1.5 ลิตรมีด้วยกันถึงสามทางเลือกเริ่มที่เบนซิน MPI รหัส G4FL 4 สูบ 16 วาล์ว มอบพละกำลังสูงสุด 115 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิด 144 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ CVT ในชื่อ IVT Hyundai’s Intelligent Variable Transmission เบนซินเทอร์โบ GDI มอบพละกำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด และ ดีเซลเทอร์โบ CRDI 116 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 แบบ คือ อีโค Eco, นอมอล Normal, สปอร์ต Sport พร้อมโหมด Traction Control ให้เลือกตามแต่ละสภาพถนนได้แก่โหมดบนทราย (Sand), หิมะ (Snow) และโคลน (Mud)
พร้อมระบบความปลอดภัยอัฉริยะภายใต้ Hyundai SmartSense ADAS Level 2 ไม่ว่าจะเป็น ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision – Avoidance Assist (FCA) ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่ออยู่ใกล้รถคันหน้า Forward Collision – Avoidance Assist – Car (FCA-Car) ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อยู่ใกล้คนเดินถนน Forward Collision – Avoidance Assist – Pedestrian (FCA-Ped) ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function (FCA-JT) เตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind-spot Collision – Avoidance Assist (BCA)
ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA), ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist (LFA) กล้องมองภาพรอบคันพร้อมกล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด Surround view monitor (SVM) กล้องมองภาพจุดอับสายตา Blind-spot view monitor (BVM) เตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross – Traffic Collision – Avoidance Assist (RCCA) ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) เตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งผ่านด้านข้าง Safe Exit Warning (SEW) เตือนอาการเหนื่อยล้า Driver Attention Warning (DAW) ช่วยจำกัดความเร็ว MSLA เตือนให้เช็คผู้โดยสารด้านหลัง ROA ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go เบรก ABS ดิสก์เบรกสี่ล้อ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC ช่วยออกตัวในทางลาดชัน ถุงลมนิรภัยจำนวน 6 ตำแหน่ง แจ้งความดันลมยางอัตโนมัติ TPMS
Hyundai CRETA รุ่นปรับโฉมเปิดขายแล้วที่อินเดียเริ่มต้น INR1,099,900- 2,014,900 หรือราว 475,000-865,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้ารวมราคาจะอยู่ที่ 1,366,000-2,487,000 บาท ทั้งหมด 28 รุ่นย่อย
