หลังจากเปิดตัวที่ญี่ปุ่นสำหรับ ISUZU ELF EV ล่าสุดมาโชว์ตัวครั้งแรกในไทยที่งานแถลงนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ผ่านมา
ISUZU ELF EV เท่ทั้งคันแบบในร่างเจเนอรชันที่ 7 ตั้งแต่ ชุดไฟหน้าทรงแนวตั้งมาพร้อมไฟหน้า Bi-LED หรือไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ติดตั้งไฟ Daytime LED รูปตัว C ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแนวนอนทรงสองชั้นกับโลโก้ตัวอักษร ISUZU ขนาดใหญ่ World Cross Flow กันชนหน้ารูปตัว U รองรับชุดกระจังหน้าอย่างลงตัวพร้อมไฟตัดหมอก LED ดวงเล็ก กระจกมองข้างกับกระจกส่องมุมบานใหญ่ ด้านข้าง อาจมีความคล้ายกับเจนที่แล้ว ด้วยที่เปิดประตูแนวตั้งแบบดึงก้าน
ตัวรถขนาดใหญ่ตั้งแต่ความยาว 6,098 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,995 มิลลิเมตร ความสูง 2,214 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,395 มิลลิเมตร น้ำหนัก 3,200 กิโลกรัม หรือ 3.2 ตัน และ น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุก 7,500 กิโลกรัม หรือ 7.5 ตัน
ภายในตกแต่งใช้งานง่ายด้วยมาตรวัดขนาด 7 นิ้วมีทั้งมาตรวัดความเร็วและจอกลาง MID รวมการทำงานต่างๆของรถพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านปรับระดับสูงต่ำเข้า-ออกได้ เบาะนั่งออกแบบใหม่นั่งสบายขึ้นพร้อมระบบอุ่นเบาะและ lumbar support ไฟในห้องโดยสารขนาดใหญ่แบบ LED เพิ่มความสว่าง สะดวกสบายพร้อม USB Charger เบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold บนหลังคามีช่องเก็บของขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศ Full Mode Control ปรับระบบหมุนเวียนอากาศได้ 2 แบบ 6 ทิศทางทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ
ขุมพลังไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง 4X2 กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว HP11 กับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แพ็คละ 20 kWh ตามขนาดตัวถังรถ แบบ ห้าแพ็ครวมกัน 100 kWh ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร และวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 150 ถึง 200 กิโลเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง eco และ boost
รองรับมาตรฐานการชาร์จแบบ ChadeMo อีกทั้งมีระบบ Regenerative Braking ซึ่งสามารถชาร์จในระหว่างการเบรกกลับเข้าแบตเตอรี่และผู้ใช้งานสามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ 12 ระดับ และยังเตรียมมาตรฐานการชาร์จที่เหมาะสมกับแต่ละประเทศ เช่น แบบทั้งชาร์จเร็วกระแสตรง DC แบบ CCS2 และชาร์จกระแสสลับ AC ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพื่อรองรับการใช้งานในยุโรป เป็นต้น
มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระกับช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบ ระบบเบรก ดิสก์เบรก หน้าและหลัง พร้อมเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Holdและ ความปลอดภัยทั้ง ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Advanced Emergency Braking System (AEBS)) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อคนขับไม่ตอบสนองต่อการขับขี่ (Emergency Driving Stop System (EDSS)) แจ้งเตือนออกนอกเลน (Lane Departure Warning System (LDWS))
ช่วยเตือนขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert (RCTA)) ตรวจป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition (TSR)) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Full Range Adaptive Cruise Control (ACC)) ควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Keep Assist (LKA)) ควบคุมความเร็วตามป้ายจราจร (Intelligent speed assistance (ISA)) ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Driving Beam (ADB))
ในขณะเดียวกันกำลังพัฒนาเทคโนโลยีการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping System) ในระยะเวลาอันสั้นเพื่อลดระยะเวลาในการจอดเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้งยังสามารถเลือกแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่จำนวน 2 – 5 ก้อน เพื่อให้เหมาะกับระยะทางการขนส่ง โดยอีซูซุจะเป็นผู้ลงทุนและทดสอบความต้องการของลูกค้าในช่วงแรก
รวมทั้งหาพันธมิตรทางธุรกิจที่ต้องการลงทุนด้านนี้ด้วยในอนาคจะเริ่มทดสอบเทคโนโลยี Battery Swapping Station ในประเทศญี่ปุ่นช่วงปี 2025 และคาดว่าเริ่มทดสอบที่ไทยในช่วงปี 2025 โดยสามารถพบตัวจริงได้ที่งาน Bangkok Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม- 7 เมษายนนี้
