แฟนๆสายลุยดีใจกันทั่วหน้าเมื่อ เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเตรียมเปิดตัวรถใหม่ JEEP Grand Cherokee เจนที่ 5
และเป็นการกลับมาทำตลาดกลุ่มเอสยูวีหรูอีกครั้ง เป็นรถใหม่ลำดับที่สามขายไทยต่อจากรุ่น Wrangler และรุ่น Gladiator รุ่นที่นำเข้ามาขายจากโรงงาน ดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ เป็นรุ่น Jeep Grand Cherokee 4Xe หน้าตาไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปล้วนตั้งแต่ ไฟหน้าแนวนอนแบบ Full LED พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแนวตั้ง 7 ช่อง ตัวตนเด่นที่ไม่มีใครเลียนแบบกลมกลืนกับกันชนหน้าไฟตัดหมอกหน้า ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 275/45TR21 ไฟท้ายแนวนอน LED และช่องเสียบปลั๊กที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย
บอดี้รถมาพร้อมความใหญ่โตด้วยขยายความยาวมาถึง 4,914 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,149 มิลลิเมตร ความสูง 1,801 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,964 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,536 กิโลกรัม ความสูงจากใต้ท้องรถ 194-276 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 72 ลิตร
ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่งพร้อมการตกแต่งหรูกับเบาะนั่งหนังแท้ Palermo คู่หน้าปรับไฟฟ้า 16 ทิศทางรองรับความสบายตลอดการขับขี่ด้วยการนวดและอุ่นเบาะ แผงคอนโซลหน้าที่หรูหรากับออปชันทัยสมัยทั้ง จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว พร้อมระบบความบันเทิงแบบ Uconnect 5 รองรับ Apple CarPlay กับ Android Auto แบบไร้สาย มาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว จอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า 10 นิ้ว จอเสริมแสดงข้อมูลข้างคนนั่งอีก 10.25 นิ้ว มาพร้อมเสียงเพลงอันไพเราะจากลำโพง 19 จุดจากค่าย McIntosh กำลังขับ 950 วัตต์ เสริมสร้างบรรยากาศภายในด้วยไฟ Ambient Light แบบ LED เย็นทั้งคันกับแอร์แเยกส่วนอุณหภูมิ 4 โซน และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังที่ขายไทยเป็น Plug In Hybrid ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลังมากถึง 274 แรงม้าที่ 5,250 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว และแบตเตอรี่ lithium ionที่มีความจุ 17.3 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันได้ความแรงมากถึง 380 แรงม้าที่ 5,250 รอบต่อนาที แรงบิด 637 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที โดยวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าถึง 52 กิโลเมตร และวิ่งไกลในโหมดน้ำมันและไฟฟ้ารวมกัน 700 กิโลเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.3 วินาทีคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Quadra-Trac II 4×4 พร้อมเฟืองท้ายหลังแบบ rear electronic limited slip-differential (eLSD)
พร้อมการขับขี่เลือกได้สามทางเลือกทั้งขับแบบ eSAVE Mode, Hybrid Mode และ Electric Mode พร้อมโหมดการขับเคลื่อน 5 อย่างทั้ง Auto, Sport, Rock, Snow, Mud/Sand กับช่วงล่างถุงลมแบบ Quadra-Lift adaptive air suspension ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Active Driving Assist ที่มีความสามารถในการทำงานอัตโนมัติระดับ 2 พร้อมความปลอดภัยเต็มคันทั้ง ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ Full-Speed Collision Warning with Active Braking and Pedestrian/Cyclist Detection เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Path detectionแควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง Active Lane Management ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LaneSense Lane Departure Warning with Lane Keep Assist ช่วยหยุดรถ Advanced Brake Assist ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา Blind-spot Monitoring กล้องมองภาพ ParkView rear back-up camera เซนเซอร์ช่วยจอด ParkSense rear park assist sensors with stop เบรกมือไฟฟ้า Switch-activated electric park brake และวัดความดันลมยาง Tire-pressure monitoring
JEEP Grand Cherokee 4Xe เปิดตัวก่อนเข้างาน Motor Expo 2023 ในวันที่ 23 พฤศจิกายนและจะไปโชว์ตัวระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคมนี้ ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยสเปกไทยจะนำรุ่นไหนมาจำหน่ายต้องติดตาม
