More

    MG4 VS Eco Car ใช้ยาวหลายปี ใครประหยัดกว่ากัน?

    ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนตามเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆทั้งในและต่างประเทศทำให้คนที่กำลังมองหารถใหม่ป้ายแดงมาใช้สักคัน

    MG

    เบนเข็มความสนใจจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% และจากนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากทางภาครัฐ ทำให้ความนิยมในไทยเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณทั้งในส่วนของยอดขายและยอดจดทะเบียน

    หนึ่งในนั้นมีค่ายรถสายพันธุ์ยูโรปที่ชื่อ MG รวมอยู่ด้วยและพระเอกที่นำพายอดขายรถกลุ่มอีวีของค่ายสูงสุด 5,615 คัน เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมาหนีไม่พ้น MG4 Electric

    ด้วยพลังไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะสูง แบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Permanent Magnet Synchronous Motor จากความจุแบตเตอี่ลิเธียมไออน 51 kWh ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,000-3,500 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุด 425 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC จาก แพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC นวัตกรรมเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่พัฒนาให้แบตเตอรี่ติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ แบบ 5-LINK SUSPENSION

    ด้านการใช้งานของ MG4 Electric ถ้าคุณใช้งานวันละ 78 กิโลเมตร คุณต้องจ่ายเงินไปวันละ 52 บาท รายเดือนออกมาเป็น 1,569 บาท ต่อปีถึง 18,825 บาท และภายใน 7 ปี กับระยะทางประมาณ 200,000 กิโลเมตรคุณจะต้องจ่ายเงินค่าชาร์จรถถึง 131,775 บาท โดยตกกิโลเมตรละ 0.7 สตางค์ รวมถึงในการบำรุงรักษารถ 5 ปี 100,000 กิโลเมตร ก็ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะถึง 7,475 บาท

    ต่างจากคู่แข่งกลุ่มเก๋งซับคอมแพ็คเริ่มที่ Toyota Yaris ATIV เครื่อง 1.2 ลิตร ถ้าคุณใช้งานวันละ 78 กิโลเมตรเท่ากับ MG4 แต่ต้องเติมน้ำมัน E20 ในราคาลิตรละ 32.64 บาท* คุณต้องจ่ายเงินไปวันละ 110 บาทรายเดือนต้องจ่ายค่าน้ำมันเฉลี่ย 3,290 บาทต่อเดือน ต่อปี 39,476 บาท ภายใน 7 ปีคุณต้องเสียเงินถึง 276,334 บาท โดยตกกิโลเมตรละ 1.40 บาท รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถตามระยะทางที่กำหนดทำให้คุณต้องจ่ายเงินถึง 30,106 บาท โดยเมื่อเทียบกับ MG4 Electric พบกว่าถ้าใช้ MG4 จะประหยัดเงินค่าน้ำมัน 1,721 บาทต่อเดือน และภายใน 7 ปีจะหยัดเงินถึง 144,559 บาท และประหยัดค่าซ่อมไปถึง 22,631 บาท

    ต่อกันที่ Honda City เครื่อง 1.0 ลิตร VTEC Turbo ต้องเติมน้ำมัน E20 ในราคาลิตรละเท่ากันกับตอนเติม ATIV และใช้งานเท่าๆกัน คุณต้องจ่ายเงินไปวันละ 107 บาท แต่ละเดือนต้องจ่ายค่าน้ำมันเฉลี่ย 3,221 บาทต่อเดือน ต่อปี 38,647 บาท ภายใน 7 ปีคุณต้องเสียเงินถึง 270,528 บาท โดยตกกิโลเมตรละเท่ากัน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถตามระยะทางที่กำหนดทำให้คุณต้องจ่ายเงินถึง 30,887 บาท โดยเมื่อเทียบกับ MG4 พบกว่าถ้าใช้ MG4 จะประหยัดเงินค่าน้ำมัน 1,652 บาทต่อเดือน และภายใน 7 ปีระยะทางประมาณ 200,000 กิโลเมตร จะหยัดเงินถึง 138,753 บาท และประหยัดค่าซ่อมไปถึง 23,412 บาท

    Nissanปิดท้ายกับ Nissan ALMERA เครื่อง 1.0 ลิตร Turbo ต้องเติมน้ำมัน E20 ในราคาลิตรละเท่ากันกับตอนเติม ATIV และ CITY ใช้งานเท่าๆกัน คุณต้องจ่ายเงินไปวันละ 110 บาท แต่ละเดือนต้องจ่ายค่าน้ำมันเฉลี่ย 3,290 บาทต่อเดือน ต่อปี 39,476 บาท

    ภายใน 7 ปีระยะทางประมาณ 200,000 กิโลเมตร คุณต้องเสียเงินถึง 276,334 บาท โดยราคาที่เสียไปเท่ากับ Toyota Yaris ATIV โดยตกกิโลเมตรละ 1.40 บาท ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถตามระยะทางที่กำหนดคุณต้องจ่ายเงินที่ต่ำกว่า ATIV และ CITY ถึง 15,106 บาท โดยเมื่อเทียบกับ MG4 พบกว่าถ้าใช้ MG4 จะประหยัดเงิน 1,721 บาทต่อเดือน และภายใน 7 ปีจะหยัดเงินถึง 144,559 บาท และประหยัดค่าซ่อมไปถึง 7,631 บาท

    รถญี่ปุ่นสามรุ่นดังรวมกัน ต้องเติมน้ำมัน E20 ในช่วงสามเดือนกว่าๆ แต่ละเดือนต้องจ่ายค่าน้ำมันเฉลี่ยเดือนละ 3,267 บาทต่อเดือน ต่อปีเฉลี่ย 39,200 บาท ภายใน 7 ปีคุณต้องเสียเงินเฉลี่ยถึง 274,399 บาท ตกกิโลเมตรละ 1.40 บาท รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถตามระยะทางที่กำหนดทำให้คุณต้องจ่ายเงินเฉลี่ยถึง 25,336 บาท

    ด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆไม่ว่าจะค่าชาร์จ ค่าเติมน้ำมัน ค่าบำรุงรักษารถล้วนต่างๆกันอย่างเห็นๆ และด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) เพิ่มความคุ้มค่ามากขึ้นเห็นแบบนี้รีบตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของ MG4 Electric สักคัน ยิ่งขับยิ่งคุ้ม ยิ่งประหยัดเงินมากขึ้นในราคาเริ่มต้น 769,000-869,000 บาท

     

    *ราคาน้ำมัน ณ วันที่ 5 มกราคม 2567

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts