นอกจาก NETA L ที่จะเปิดตัวปีนี้แล้วยังมีรุ่นใหม่อีกรุ่นหนึ่งที่จะเปิดตัวในช่วงต้นปีกับ NETA EP41 ซึ่งยังไม่มีการเปิดชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ
หน้าตานั้นเป็นการนำพื้นฐานสปอร์ตซีดานอย่าง NETA S ผ่าครึ่งคันหลังเสริมท้ายเป็น 5 ประตูเอสเตททรงเท่ หน้าตาอาจคล้ายกับรุ่น S ตั้งแต่ชุดไฟหน้า LED สองชั้นเริ่มที่ ไฟ DRL LED ขนาดเล็ก ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED คู่ ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตปิดทึบ พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านข้างดีไซน์อาจคล้ายๆกับ TESLA กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูเรียบเนียน Pop Out กระจกโอเปร่าขนาดใหญ่ เสา C กับ D ขยายใหญ่ ด้านหลังมาพร้อมสปอยเลอร์และไฟเบรกดวงที่สามมีที่ปัน้ำฝนด้านหลังและไฟท้าย LED แนวยาวรูปตัว T และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R19
ภายในอาจยกมาจาก NETA S ทั้ง คอนโซลหน้าที่อุดมไปด้วยชุดจอต่างๆทั้งหมด เริ่มที่ จอแสดงข้อมูลบนคอนโซลหน้า Head Up Display มาตรวัดดิจิตอล หลังพวงมาลัย จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ และยังมีจอเล็กๆฝั่งคนนั่งมาด้วย พร้อมลำโพงรอบคัน 21 จุดโดยส่วนหนึ่งติดตั้งบนหลังคาและหมอนรองศีรษะ กำลังขับ 1,216 วัตต์ เบาะนั่งหุ้มหนัง Alcantara พร้อมระบบอุ่นเบาะ ปรับความเย็นที่เบาะและนวดได้ และการตกแต่งภายในแบบ หนังสัมผัส ลายไม้ และสีเงินตกแต่งอย่างลงตัว มาในแบบ Smart Cockpit System พร้อม Snapdragon Chip เจเนอเรชันที่ 3
ขุมพลังยกมาจาก NETA S ทั้งไฟฟ้าล้วนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้พลังมากถึง 462 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตรจากชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 91 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน CLTC) โดยชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ได้ 35 นาที ส่วนรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังจากชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 85.11 kWh ให้กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งคู๋ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อช่วโมง พร้อม NETA Pilot 4.0 เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autonomous Driving L4 และมีขุมพลัง EREV หรือ Series Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป 1.5 ลิตร ปั่นไฟและแบตเตอรี่กับมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเท่านั้น โดยให้ระยะทางไกลสุด 1,160 กิโลเมตร จะใช้เซ็นเซอร์ AT128 LiDAR ของค่าย Hesai
NETA EP41 เตรียมเปิดตัวที่จีนเดือนเมษายนนี้ที่งาน Beijing Auto Show 2024 และส่งมอบช่วงกลางปีนี้
ที่มา Carnewschina
