More

    ลุ้นมาไทย! TESLA Cybertruck อสูรร้ายบนท้องถนน..พลังอีวีโหด 857 ม้า

    เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่อเมริกาสำหรับกระบะอีวีรุ่นแรกของค่าย TESLA อย่าง TESLA Cybertruck ที่เรียกว่าเป็นรถกระบะสายฮาร์ดคอร์ก็ว่าได้

    TESLA

    หน้าตามาอย่างโหดเหลี่ยมทั้งคันในร่างกระบะสี่ประตูด้วยไฟหน้า LED พาดยาวทั้งแผงด้านหน้าเรียวดูเด่นแบบ Light Bar ให้แสงสว่างแก่เส้นทางของคุณได้ไกลออกไปถึง 480 เมตรพร้อมกระจังหน้าแบบทึบชุดกันชนหน้าดีไซน์กลมกลืนทำให้ด้านหน้าตัวรถมีพลังอันแข็งแกร่งดุดันด้านข้างเด่นด้วยกระจกรถทรงสี่เหลี่ยมตามหลักเราขาคณิตพร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน ล้ออัลลอยสีดำเข้มขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 285/65R20 รับกับซุ้มล้อทรงสามเหลี่ยม ด้านท้ายเหลี่ยมชัดเจนด้วยไฟท้าย LED แนวยาว

    ภายในกระบะท้ายสามารถทำงานนอกสถานที่ได้ด้วย เต้ารับไฟฟ้าขนาด 120V และ 240V บริเวณกระบะและในห้องโดยสาร ในช่วงที่ไฟฟ้าส่วนกลางดับ จ่ายไฟฟ้าโดยตรงให้บ้านของคุณได้สูงสุดถึง 11.5 KW เพื่อให้มีแสงสว่าง พร้อมพื้นที่กระบะท้ายทำจากวัสดุคอมโพสิทที่แข็งแรงเป็นพิเศษไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรองและใหญ่พอสำหรับวัสดุก่อสร้างขนาด 4 นิ้ว X8 นิ้ว ด้วยน้ำหนักบรรทุก 1,134 กิโลกรัม สามารถอำนวยความสะดวกหลากรูปแบบทั้งจุของได้เต็มสตรีมด้วยความจุทั้งหมด 3,427 ลิตรทั้งกระบะท้ายและยาวไปถึงการพับเบาะ โดยมพื้นที่กระบะท้ายเพียวๆ 1,897 ลิตร และพับเบาะแถวที่สองเพิ่มพื้นที่อีก 1,530 ลิตร หรือดัดแปลงกางเต็นท์ได้ตามใจชอบรองรับการนอนได้ 2 คน ได้อย่างสบายและพร้อมและติดตั้งเพียงไม่กี่นาที

    ตัวรถมีความยาว 5,682.9 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,413.3 มิลลิเมตร ความสูง 1,790.8 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,995-3,104 กิโลกรัม และระยะต่ำสุดจากพื้นในโหมดยกตัว 433 มิลลิเมนตร โดยโครงสร้างตัวรถทำจากเหล็กกล้าไร้สนิมช่วยลดการเกิดรอยบุบ ความเสียหายในระยะยาว ซ่อมแซมง่ายและรวดเร็วและกระจกเกราะสามารถต้านทานแรงกระแทกของลูกเบสบอลได้ที่ความเร็ว 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมงTesla

    ภายในกลายเป็นโรงหนังติดล้อด้วยหน้าจอสัมผัสสองจุดหน้า-หลัง โดยด้านหน้ามีขนาดใหญ่ 18.5 นิ้วในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายในรถ และด้านหลังขนาด 9.4 นิ้ว มาแนวใหม่แบบอินฟินิตี้ (หน้าจอสัมผัสไร้ขอบ) พร้อมลำโพงรอบๆภายในถึง 15 จุดและซับวูฟเฟอร์แบบเฉพาะ 2 ตัว ให้เสียงที่กระหึ่มพร้อมความสบายแบบ 5 ที่นั่ง มุมมองจากห้องโดยสารที่กว้างขวางผ่านหลังคาพาโนรามิกรูฟกระจกรอบด้าน ชาร์จสมบูรณ์แบบด้วยที่ชาร์จมือถือไร้สาย แล็ปท็อป หรือเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วจากที่นั่งด้านหน้า เบาะหลัง หรือเตียงด้วยการชาร์จแบบไร้สายด้วย ช่องเสียบ USB-C ขนาด 65W และ 120V/240V  พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงสปอร์ตและ แผ่นกรองอากาศ HEPA ควบคุมความสะอาดของอากาศภายในห้องปกป้องเศษฝุ่นละลองได้ถึง 99.97% และติดตั้งกระจกกันเสียงช่วยทำให้ห้องโดยสารเงียบเหมือนอยู่ในอวกาศ

    Teslaขุมพลังแน่นอนว่าเป็นไฟฟ้าล้วนที่มีด้วยกันถึงสามทางเลือกตั้งแต่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเริ่มต้นให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า แรงบิด 10,081 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 547 กิโลเมตร ชาร์จกระแสสสับ DC กำลังสูงสุด 250  kW ภายในเวลา 15 นาที เพิ่มระยะทางสูงถึง 235 กิโลเมตร

    ขยับมาอีกรุ่นกับรุ่นแรงสุดขับเคลื่อนสี่ล้อ Cyberbeast ให้กำลังสูงสุด 857 แรงม้า แรงบิด 13,960 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 2.7 วินาที ในโหมด BEAST ความเร็วสูงสุด 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 515 กิโลเมตร ชาร์จกระแสสสับ DC กำลังสูงสุด 250  kW ภายในเวลา 15 นาที เพิ่มระยะทางสูงถึง 206 กิโลเมตร และทั้งสองรุ่นมีกำลังลากสูงสุด 4,990 กิโลกรัม

    ใหม่สุดกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังที่จะวางขายในปี 2025 ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังลากสูงสุด 3,402 กิโลกรัม

    TESLATESLA

    จากต้นแบบเมื่อปี 2019 สู่เวอร์ชันขายจริงประกาศราคาจำหน่ายสองรุ่นย่อยที่สหรัฐอเมริกาเริ่มต้น $60,990 ถึง $99,990 หรือราว 2,129,000 ถึง 3,493,000 บาท ส่งมอบต้นปีหน้าและ ล่าสุดได้เผยสเปกลงในเว็บไซต์ TESLA ประเทศไทยอย่างเป็นทางการและอาจมีนัยว่าเตรียมเข้ามาขายซึ่งจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ต้องติดตาม

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts