หลังจากเปิดตัว Toyota Hilux H2 กระบะไฮโดรเจนรุ่นแรกของค่ายใช้ในเชิงพาณิชย์เพื่อนำมาทดสอบในสภาพถนนจริงและล่าสุดกับ Toyota HIACE H2
รถตู้หลังคาสูงคันนี้นำพื้นฐานของ Toyota Commuter ถอดขุมพลังดีเซลขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,400 ถึง 2,600 รอบต่อนาที เลือกได้ทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 สปีด มาเป็นขุมพลังเบนซินแบบ HICEV หรือ Hydrogen Internal Combustion Engine Vehicle ผสมกับการทำงานของไฮโดรเจน ต่างจากรุ่น Hilux H2 ที่เป็นแบบ FCEV หรือ Fuel Cell Electric Vehicle คือ รถยนต์ไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิงจากมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor กับแบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion ขับเคลื่อน
ด้วยขุมพลังเบซินเทอร์โบคู่ขนาด 3.5 ลิตร V6 รหัส V35A-FTS จาก Lexus LX600 พัฒนาใหม่ดัดแปลงหัวฉีดเชื้อเพลิงที่ออกแบบเฉพาะทำงานร่วมกับถังไฮโดรเจนถังละ 47 ลิตร รวม 3 ถังใต้ท้องรถรวมความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร วิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้ง 200 กิโลเมตร (รุ่น MIRAI วิ่งไกล 647 กิโลเมตร และรุ่น Hilux H2 วิ่งไกล 587 กิโลเมตร) โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 10 นาที เทียบกำลังเดิมเครื่องขนาด 3.5 ลิตร V6 กำลังลดลงกว่าเดิม 60 % สูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 354 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด (สเปกเดิมให้กำลัง 415 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 2,000 ถึง 3,600 รอบต่อนาที)
หน้าตาไม่ต่างจาก Toyota Commuter ตั้งแต่กระจังหน้าขนาดใหญ่ 2 ชั้น ส่วนล่างของกระจังหน้าทาด้วยสีน้ำเงิน ไฟหน้าฮาโลเจนแบบตาเพชรมัลติรีเฟลกเตอร์ กันชนหน้ากับกันชนหลังและที่เปิดประตูทาด้วยสีดำ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ประตูสไลด์เปิดได้ด้านซ้ายด้านเดียว ไฟท้ายขนาดใหญ่ประตูท้ายเปิดฝาขึ้น ฝาถังน้ำมันกลายช่องเติมไฮโดรเจนและล้ออัลลอยทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 235/65 R16 มิติตัวรถแบบหลังราสูงเริ่มที่ความยาว 5,915 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,950 มิลลิเมตร ความสูง 2,280 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,860 มิลลิเมตร และความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร
ภายในเหมือนเดิมตั้งแต่เบาะนั่งคนขับสามารถปรับ lumbar support หรือปรับแผ่นหลังคนขับด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตอบโจทย์การใช้งานด้วยห้องโดยสาร 12 ที่นั่งรวมคนขับคอนโซลหน้าใช้งานง่ายและสะดวก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนัง มาตรวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 4.2 นิ้ว เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth และวิทยุ AM/FM ช่องเสียบ USB ทั้งด้านหน้าและหลัง คันเกียร์ออกแบบใกล้กับคนขับและเบรกมือแบบคันโยกข้างเบาะคนขับ
ความปลอดภัยเต็มพิกัดกับ Toyota Safety Sense ทั้งระบบเตือนก่อนการชน (Pre-Collision System), เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและคนปั่นจักรยานในเวลากลางวัน (Autonomous emergency braking with pedestrian and daytime cyclist detection), เตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ (Lane departure alert), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane-keep assist), ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam), อ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA), เตือนการชนขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert (RCTA), เตือนมุมบอดด้านข้าง (Blind spot monitoring), เตือนมีผู้โดยสารหลงเหลือด้านหน้าและหลัง (passenger occupant detection) กล้องมองภาพด้านหลังและเซนเฃอร์กะระยะการจอดด้านหลัง, ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด และมากสุด 9 จุด
Toyota HIACE H2 ดัดแปลง ติดตั้ง และพัฒนาโดย Toyota Australia จากประสบการณ์ที่เข้าใจผู้ใช้รถรวมถึงสภาพแวดล้อมที่หลากหลายทาง Toyota ได้ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นของออสเตรเลียด้านก่อสร้างและด้านการรักษาความปลอดภัย เพื่อประเมินตัวรถทั้งเรื่องสมรรถนะ ความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์บนสภาวะการใช้งานจริงทั่วออสเตรเลียโดยรถตู้ต้นแบบนี้ยังไม่มีการผลิตออกขายทั่วไปในช่วงเวลานี้
ที่มา Drive
