More

    Toyota Hilux FCEV กระบะไฮโดรเจนจ่อทดสอบจริงทั่วโลก

    หลังจากเปิดตัวต้นแบบไปเมื่อช่วงปีกลายสำหรับ Toyota Hilux FCEV กระบะพลังไฮโดรเจนที่ยังเป็นต้นแบบและเป็นครั้งแรกของวงการรถเพื่อการพาณิชย์

    Toyota

    ล่าสุด Toyota UK เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยโดยผลิตเป็นรถต้นแบบก่อนที่เตรียมการที่จะผลิตเพื่อออกขายในอนาคตสำหรับ Toyota Hilux FCEV นำพื้นฐานรุ่น Smart Cab แค็ปตอนครึ่งยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อ หล่อเดิมตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมโครเมียม ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ รับกับกันชนหน้ากลมกลืมลงตัวพร้อมไฟตัดหมอกหน้า ล้ออัลลอยลายคุ้นตา 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/65R17 ไฟท้ายแบบ LED 3 Light Guiding ฝากระบะท้ายและกันชนหลังคงเดิม

    Toyota

    ด้านขุมพลังถอดเครื่องยนต์ดีเซลออกไปใส่ขุมพลังไฮโดรเจนที่ยกมาจาก Toyota Mirai เจเนอเรชันที่สองด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM ให้กำลังมากถึง 185 แรงม้าที่ 6,940 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 0-3,267 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD  ผนวกกับถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้งมากกว่า 587 (สเปกเดิมจากรุ่น Mirai วิ่งไกลสุด 647 กม.) โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที

    โดยกระบะพลังไฮโดรเจนนี้ทาง Toyota Motor Manufacturing UK ได้รับความช่วยเหลือจากทีม R&D ของ Toyota Motor Europe พร้อมด้วยพันธมิตรไม่ว่าจะเป็น Ricardo บริษัทด้านวิศวกรรมที่คอยสนันสนุนทางด้านเทคนิคของเซลล์เชื้อเพลิงและโครงแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ ladder-frame chassis, ETL ที่ช่วยพัฒนาระบบควบคุมความร้อน, D2H พัฒนาทางด้านอุณหพลศาสตร์วิศวกรรมด้านอุณหภูมิและด้านความร้อน และ Thatcham Research พัฒนาด้านความปลอดภัยและการรับประกันToyotaToyotaโดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลอังกฤษ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางภาครัฐ Advanced Propulsion Center (APC) ที่มีนโยบายริเริ่มพัฒนายานยนต์ที่จำหน่ายในอังกฤษสามารถปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ด้วยเงินลงทุนวิจัยและพัฒนาถึง 11.3 ล้านปอนด์หรือราว 483 ล้านบาท จากยานยนต์ที่เป็นแนวคิดกลายเป็นต้นแบบและขายจริงในอนาคต

    Toyota Hilux FECV ผลิตที่ Toyota Motor Manufacturing UK ประเทศอังกฤษในเมือง Derbyshire พร้อมที่จะผลิตอีก 9 คันภายในสิ้นปีนี้เพื่อเตรียมที่จะทดสอบการใช้งานจริงตามสภาพถนนทั่วโลกส่วนจะขายจริงในช่วงไหนนั้นต้องติดตาม

    ที่มา Carsales

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts