ทั่วโลกและเมืองไทยใจจดจ่อกับการรอคอยของ Hilux เจนใหม่เพราะอยู่ในช่วงการพัฒนาก่อนมาจริงในปีหน้าแต่ตอนมีข่าวล่ามาฝากกับ Toyota Hilux REVO
จากสื่อออสเตรเลียรายงานว่าอาจมีการปรับโฉมอีกครั้งในร่างเจเนอเรชันที่ 8 ปรับโฉมครั้งที่สามและเป็นการปรับครั้งสุดท้ายเพราะอยู่ในยุครถปลายรุ่นและเมืองไทยมีแนวโน้มสูงที่จะปรับเช่นกันหน้าตาอาจคล้ายกับสองรถต้นแบบทั้ง Toyota Hilux REVO e และ Toyota Hilux FCEV ที่ทาง Car2Day เคยขับสั้นๆที่บุรีรัมย์ช่วงปีกลายเริ่มที่ กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมเวอร์ชันใหม่ปะตราโลโก้สามห่วง กันชนหน้าออกแบบใหม่รับกับกระจังหน้า พร้อมกรอบไฟตัดหมอกหน้า LED รูปตัวแอลสีดำดีไซน์ทันสมัยกว่า ออกแบบใหม่
พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟหน้า Bi-Beam LED กับไฟ LED Daytime ในโคมดียวกันพร้อมระบบ Follow Me Home ควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตุ ไฟท้ายแบบ LED แบบเลข 3 Light Guiding ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยลายเข้มสีดำขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/65R17 และขนาด 215/55R17 ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง A/T และยาง H/T ขนาด 265/60R18 และกระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 205/70R15C และ 17 นิ้วพร้อมยาง 225/70R17C
ภายในอาจมีการปรับเล็กน้อยบนออปชันเดิมทั้งแผงคอนโซลหน้าและแผงช่องแอร์หน้าตกแต่งหรูหรา แผงประตูขึ้นรูป พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนัง กุญแจ Smart Key ปุ่ม Push Start เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ช่องต่อไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V เบาะนั่งคนขับควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าปรับระดับ 8 ทิศทาง และมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล TFT ขนาด 4.2 นิ้ว เครื่องเสียงจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto ลำโพง 6 จุด
จับตาขุมพลังที่จะเปิดตัวในไทยมีความเป็นไปได้ว่าจะมีดีเซลเทอร์โบแปรผัน Mild Hybrid 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาทีพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 48V ในชุดเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับ DC-DC Converter ทำหน้าที่แปลงความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อไปใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ ประจุเข้าแบตเตอรี่ 48V และเลี้ยงระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ เสริมพละกำลังการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ส่งแรงทันใจโดยเฉพาะในช่วงออกตัวและจังหวะเร่งแซงให้ดีกว่าแต่ความประหยัดเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 10% เมื่อเทียบกับเครื่อง 2.8 เดิม ประหยัดสุด 13.16 กิโลเมตรต่อลิตร เท่านั้นยังไม่พอติดตั้งระบบหยุดการทำงานเครื่องชั่วคราวขณะเหยียบเบรกหรือ Start-Stop System คู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ลูกใหม่
พลังดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.8 ลิตร 1GD-FTV High-Power 224 แรงม้าที่ 3,000 รอบต่อนาที แรงบิด 550 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift และ Paddle Shift ในรุ่นเกียร์ธรรมดา IMT 6 สปีด 2.8 ลิตร Mid-Power ให้พลัง 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบตต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,400 – 3,400 รอบต่อนาที ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.4 ลิตร 2GD-FTV High-Power 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shiftและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในรุ่นยกสูงและรุ่น Z-Edition เกียร์อัตโนมัติ และ 2.4 พลัง Mid-Power 150 แรงม้า 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตันเมตรที่ 1,400-2,800 รอบต่อนาที สำหรับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในรุ่น Z-Edition เกียร์ธรรมดา
มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐาน ขับเคลื่อนสองล้อยกสูง PRERUNNER และขับเคลื่อนสี่ล้อ Part Time แบบ Shift-On-The-Fly ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ A-TRC และระบบเฟืองท้าย Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า มีระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมทุกช่วงความเร็วลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
ระบบความปลอดภัยทั้ง ระบบการควบคุมการทรงตัว VSC ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ความปลอดภัยขั้นเทพ Toyota Safety Sense ทั้งช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM ช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) แบบ Dynamic Radar Cruise Control เซ็นเซอร์อัจฉริยะ (Intelligent Clearance Sonar) กล้องมอภาพรอบคัน
ตามข้อมูลอ้างอิงของสื่อออสเตรเลียรายงานว่า Toyota Hilux REVO เตรียมจะเปิดเร็วๆนี้ เท่ากับว่าเมืองไทยมีสิทธิ์เปิดตัวพร้อมกับ Toyota Hilux REVO GR Sport อาจเป็นช่วงต้นปีนี้ ก่อนงาน Bangkok Motor Show 2024
ภาพประกอบ Toyota Hilux REVO e และ Toyota Hilux FCEV
ที่มา Carsales
