More

    Toyota Land Cruiser First Edition รุ่นพิเศษขายญี่ปุ่นเพียง 8,000 คัน

    นอกจากจะเปิดตัวรุ่นปกติแล้ว Toyota ยังเปิดตัวรุ่นพิเศษจำนวนจำกัดเอาใจสายลุยที่ชอบความแตกต่างด้วย Toyota Land Cruiser First Edition

    Toyota

     

    Toyota Land Cruiser First Edition หล่อพิเศษในร่างเจเนอเรชันที่ 5 รหัส 250 ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าพร้อมตราตัวอักษร Toyota ไฟหน้า LED 3 ดวงทันสมัย ส่วนขอบบนเป็นไฟ DRL แบบ LED หรือแบบทรงกลม Bi-Beam LED แบบ Bi-PES type พร้อมไฟ DRL ล้อมกรอบไฟหน้าในรุ่น First Edition ZX พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ในชุดกันชนหน้าทูโทน

    กระจกมองข้างแนวตั้งทรงสปูน ราวหลังคา บันไดข้างแบบกัดลาย เสาอากาศครีบฉลาม หลังคาซันรูฟที่เลือกได้ทั้งแบบธรรมดาและพาโนรามิกบานใหญ่ ด้านท้ายคล้ายกับรุ่น 60 Series ไฟท้าย LED แนวตั้ง กรอบป้ายทะเบียนติดตรา Toyota พร้อมกันชนหลัง ล้ออัลลอยสีดำด้าน 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/70R18

    พื้นฐาน TNGA-F body-on-frame มีความแกร่งขึ้น +50% แพลตฟอร์มโดยรวมเพิ่มขึ้น +30% พร้อมตัวรถที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ความยาว 4,925 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,980 มิลลิเมตร ความสูง 1,870 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 221 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร และเมื่อเทียบกับเจนที่แล้วพบว่าตัวรถยาวกว่าเดิม 100 มิลลิเมตร กว้างกว่าเดิม 95 มิลลิเมตร สูงกว่าเดิม 20 มิลลิเมตร และฐานล้อยาวกว่า 60 มิลลิเมตร

    Toyota

    ภายในสามตอนเจ็ดที่นั่งสามารถปรับและพับได้ตามความต้องการขนของได้อย่างจุใจโดยเบาะตอนที่สองพับได้แบบ 40:60 พร้อมการตกแต่งพิเศษด้วยโทนภายสีน้ำตาลเข้มตั้งแต่ชุดเบาะนั่ง แผงประตู ฝังโลโก้ First Edition ที่พักแขนบริเวณคอนโซลกลาง พร้อมคิ้วสีเงินบริเวณแผงคอนโซลหน้าฝั่งคนนั่ง

    มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID สีตั้งแต่ขนาด 7 นิ้ว กับ ขนาดใหญ่สุด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่  12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงไร้สายทั้ง Apple Carplay และ Android Auto พร้อมช่องแอร์ใต้จอสัมผัส ติดตั้งลำโพงคุณภาพ 10 กับ 14 จุดจาก JBL จุดรอบคัน ที่เสียบชาร์จ USB-C 2 จุด USB-A 1 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย ที่วางแก้ว 13 จุด หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านติดตราอักษร Toyota

    Toyota

    เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift พร้อมพลังลากจูงมากถึง 3,500 กิโลกรัม และเบนซินยอดนิยมที่ยกมาจากเจนที่แล้วขนาด 2.7 ลิตร Dual VVT-I 2TR-FE 163 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 246 นิวตันเมตรที่ 3,900 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT

    มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ที่มีระบบ Multi-Terrain Select ตรวจพื้นถนนโดยมีโหมดลุยประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด พร้อมระบบเพืองท้ายกลางแบบ TORSEN LSD ที่ช่วยกระจายแรงบิด ระหว่างล้อหน้าและหลัง ให้สัมพันธ์กับสภาวะในการขับขี่โดยอัตโนมัติ เพื่อการทรงตัวและการยึดเกาะถนนดีเยี่ยม

    พร้อมช่วงล่าง Adaptive Variable Suspension (AVS) สามารถลุยได้ทั้งทางวิบากและทุกสภาพถนน รวมถึงปรับในส่วนพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ลดการกระตุกเมื่อขับบนถนนขรุขระ บังคับเลี้ยวแบบคมขึ้น เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น รวมถึงการลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 31 องศา มุมจาก Departure Angle 23 องศา และมุมคร่อม break-over angle 23 องศา

    พร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายหน้าและหลัง (ออปชันเสริม) Differential Lock มีฟังก์ชัน Stabilizer Disconnect Mechanism (SDM) ปรับตัวกันโคลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่แบบต่างๆ

    Toyotaความปลอดภัยรอบคัน Toyota Safety Sense ทั้ง ระบบควบคุมระยะห่างและความเร็วแปรผันตามทุกช่วงความเร็วด้วยเรดาร์ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติแบบตรวจจับคนข้ามถนนได้ Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane Departure System (LDS) ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering

    ไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะและช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Auto High Beam (AHB) ช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) ช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Proactive Driving Assist (PDA) หักหลบพวงมาลัยอัตโนมัติกันคนเดินทางเท้าเดินข้ามถนนแบบทะเล่อทะล่า Emergency Steering Assist (ESA) และถุงลมนิรภัย 9 จุด

    Toyotaสายลุยรุ่นพิเศษค่ายสามห่วงขายญี่ปุ่นทั้งหมดสามรุ่นย่อยสามเกรดหรูทั้งรุ่น VX และ ZX เริ่มต้น 5,900,000- 7,850,000 YEN หรือราว 1,409,000-1,875,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้าเป็นราคารวมภาษีนำเช้าของไทยอยู่ที่ 4,847,000-6,449,000 บาท จำนวนจำกัดเพียง 8,000 คัน เริ่มขายกรกฎาคมนี้

     

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts