More

    BYD Dolphin 2025 โลมามาดใหม่วิ่งไกล 520 กม. ขายจีนเริ่ม 5 แสนบาท

    หลังจากที่เมืองไทยจัดหั่นราคาโหดสำหรับ BYD Dolphin เมื่อช่วงมิถุนายนที่ผ่านมาจนมีกระแสการตอบรับเพื่อต้อนรับการมาของรุ่นประกอบไทยในเร็วๆนี้

    BYDล่าสุดที่เมืองจีนประเทศต้นกำเนิดของน้องโลมาอย่าง BYD Dolphin เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2025 อย่างเป็นทางการโดยเป็นการปรับเล็กๆน้อยๆให้ตัวตนทันสมัยขึ้นรวมถึงปรับกำลังอีวีให้วิ่งไกลขึ้นเรี่ยวแรงมากขึ้น

    ภายนอก

    BYDยังคงเดิมด้วยหน้าตาทันสมัยด้วยสีทูโทนไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime แบบ LED กระจังหน้าทรงทึบติดตราตัวอักษร BYD ที่จับประตูดีไซน์ยกก้าน กระจกมองข้างมทรงสปูนปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Heated Mirror และหลังคาแบบ Panoramic Roof ไฟท้าย LED อัลลอยขนาด16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60 R16 และขนาดใหญ่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/50 R17 ติดตั้งกระจกแบบ privacy glass สำหรับประตูคู่หลังและรุ่นท็อปสุดมาพร้อมชุดแต่งสเกริ์ตรอบคัน

    ตัวรถสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม BYD e-platform 3.0 กับมิติตัวรถตั้งแต่ ความยาว 4,125 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,770 มิลลิเมตร ความสูง 1,570 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,780-1,825 กิโลกรัม และรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.25 เมตร

    ภายใน

    BYDมีที่เสียบชาร์จ USB Type-C และที่ชาร์จไร้สายความเร็ว 50 W เบาะนั่งทรงสปอร์ตคู่หน้าเพิ่มระบบระบายอากาศ พร้อมการตกแต่งสีสันพิเศษเช่น ชุดแต่งบนแผงคอนโซลหน้าที่ช่องแอร์ซ้าย-ขวา มีระบบโต้ตอบด้วยเสียงอัจฉริยะ สตาร์ทรถอัจฉริยะ กว้างสบายแบบ 5 ที่นั่ง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และคนนั่งปรับธรรมดาแบบสี่ทิศทาง เบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:60 เพิ่มปริมาตรได้สูงสุดถึง 1,310 ลิตรและมีพื้นที่ด้านหลังอีก อีก 345 ลิตร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน มือจับเปิดประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมา จอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 12.8 นิ้ว และมาตรวัดดิจิทัล 5.0 นิ้ว

    BYDFollow Me Home จะมาเพิ่มความปลอดภัยหลังจากจอดรถ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 พร้อม CN95 Filter ให้ผู้ใช้รถได้มีอากาศบริสุทธิ์ในทุกการขับขี่ พร้อมระบบเสียงดนตรีที่มีการออกแบบสัญญาณเสียงที่จำลองมาจากทะเล นอกจากนี้ ยังมีกลไกการล็อกมากถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ การล็อกและปลดล็อกด้วยกุญแจรีโมท, บัตร NFC, BYD Application, กุญแจไข และแบบไม่มีกุญแจ (Keyless Entry)

    ขุมพลัง

    BYDขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ permanent magnet synchronous motor มีกัน 2 รูปแบบพัฒนาใหม่ เริ่มที่รุ่นเริ่มต้นด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็น 44.928 kWh แรงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร เพิ่มระยะทางใหม่วิ่งไกลสุด 420 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW 0-100% ภายใน 7.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.9 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 12.3 วินาที (มาแทนรุ่นแบตเล็กสุด 32.2 kWh 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC)

    อีกรุ่นมีความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 60.48 kWh แรงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร เพิ่มระยะทางใหม่วิ่งไกลสุด 520 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW 0-100% ภายใน 7.5 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.5 วินาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7 วินาที (แทนรุ่นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 44.9 kWh แรงเท่าเดิม 177 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 401 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC)

    พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed พร้อมโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง Eco, Standard และ Sport พร้อมระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ ทุกรุ่นมาพร้อมช่วงล่างอิสระสี่ล้อใหม่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

    ความปลอดภัย

    BYDมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) และความปลอดภัยครบครัน ออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยง ได้แก่

    • ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and go
    • ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
    • ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW, RCW)
    • ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
    • ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB)
    • ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP)
    • ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA)
    • ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW)
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)

    BYD

    พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัย 6 จุด ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถล (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

    BYD Dolphin MY2025 เปิดขายจีน 4 รุ่นย่อยในราคาใหม่ถูกลงเร้าใจมากขึ้นเริ่มต้น 99,800-129,800 Yuan หรือราว 500,000-655,000 บาท ส่วนเวอร์ประกอบในไทยอาจมีการเปิดตัวพร้อมราคาเร็วๆนี้

    ที่มา Autohome

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts