More

    อเมริกาได้ใช้ก่อน! 2025 Toyota 4Runner สายลุยทรงดุค่ายสามห่วง

    หลังปล่อยภาพทีเซอร์ให้ชาวมะกันได้หลงใหลจนอยากพบตัวจริง ในที่สุดได้ฤกษ์เปิดตัวเอสยูวีไซซ์กลางเจเนอเรชันที่หกอย่างเป็นทางการกับ Toyota 4Runner

    Toyotaครั้งนี้ไว้ใจได้ในการลุยเพราะยังใช้แชสซีสขั้นบันได หรือ Ladder Frame จากแพลตฟอร์ม TNGA-F ที่โด่งดังและใช้กันหลายรุ่นทั้ง Toyota Land Cruiser Prado, Toyota Land Cruiser 300 ,Toyota Hilux และ Toyota Fortuner เจนใหม่จะได้ใข้แพลตฟอร์มนี้ ตั้งแต่ความยาว 4,950 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,976 มิลลิเมตร ความสูง 1,798 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,844 มิลลิเมตร

    สำหรับ Toyota 4Runner ใช้พื้นฐานเดียวกับ Toyota Tacoma เพียงเติมหลังคารถยาวไปถึงด้านท้ายแบบรถทรงกล่องหล่อทั้งคันตั้งแต่ชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัว L แนวนอนในโคมเดียวกันรับกับกระจังหน้าใหญ่แบบติดโลโก้ตัวอักษร Toyota ในรุ่น TRD Pro และรุ่น TRAILHUNTER ส่วนรุ่นอื่นๆได้ตราโลโก้สามห่วง ในกรอบใหญ่ทรงหกเหลี่ยมหน้ายักษ์ พร้อมกันชนหน้าเสริมการ์ดในตัวพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ และไฟตัดหมอกหน้า LED

    Toyotaฝากระโปรงหน้ารถมีสคูปดักอากาศแบบขึ้นรูปสวยงามในรุ่น TRD Pro ด้านข้างบึกบึนพร้อมคิ้วขอบล้อมีช่องระบายอากาศที่ด้านหน้า ออกแบบเส้นสายชายล่างประตูรูปตัว A จนถึงเสา D แบบเฉียบขาด หลังคารถพร้อมแร็คหลังคา ด้านท้ายมีไฟ LED รูปตัว C ขนาดพอดีตัวฝาท้าย พร้อมกระจกหลังสามารถปรับขึ้นลงได้ด้วยระบบไฟฟ้า และกันชนหลังขึ้นรูปทรงเสน่ห์

    ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 245/70R17 กับขนาด 265/70R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65R18 และ 265/70R18 และขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/60R20 เลือกยางได้ทั้งแบบ all-season all-terrain และ R/T จาก Goodyear® Territory

    รุ่น TRAILHUNTER มาพร้อมไฟหน้า LED ปักชื่อรุ่นและตราโลโก้เฉพาะติดด้านท้ายพร้อมกันชนหลัง ล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะรุ่นและชุดแต่งช่วงล่างจาก Old Man Emu กับ RIGID แร็คหลังคาพิเศษจาก ARB แถบไฟแนวนอน LED light bar ขนาด 20 นิ้ว ฝังในช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้า

    Toyota

    ภายในดุดันกับชุดแผงคอนโซลหน้าสุดเท่พร้อมมาตรวัดความเร็วกับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่มีทั้งขนาด 7 นิ้วและมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสระบบความบันเทิงมีทั้งขนาด 8 นิ้วกับ 14 นิ้วให้เลือกองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย

    พร้อมลำโพง JBL 10 ตำแหน่ง รวมซับวูฟเฟอร์ JBL® FLEX ลำโพงบลูทูธที่สามารถถอดและพกพาได้ทำงานได้ถึง 6 เซนติเมตร และจมอยู่ในน้ำได้ลึกถึง 90 เซนติเมตร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงดุ ที่ชาร์จมือถือไร้สายและเบาะนั่งที่โอบกระชับแบบ IsoDynamic Performance Seat เพื่อการควบคุมการขับขี่ทางโหดที่สะดวกขึ้น และเบาะหลังพับได้ 60/40

    Toyota

    ขุมพลังใช้ร่วมกันกับ Tacoma เริ่มที่เบนซินเทอร์โบ i-FORCE  ขนาด 2.4 ลิตร รหัส T24A-FTS ให้กำลัง 282 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบต่อนาที และเบนซิน Full Hybrid ด้วย i-Force MAX Hybrid Engine ให้กำลังเท่ากัน พร้อมชุดแบตเตอรี่เล็ก nickel-metal hydride ด้วยความจุ 1.87 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 48 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 320 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร ทั้งสองขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift

    เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อมีล็อกเฟืองท้ายอัตโนมัติ automatic limited-slip differential (Auto LSD) และขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part Time แบบมีเกียร์ฝาก พร้อม Auto LSD และป้องกันล้อหมุนฟรีในทางออฟโรด Active Traction Control (A-TRAC)

    ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ที่มีระบบ Multi-Terrain Select ตรวจพื้นถนนโดยมีโหมดลุยประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด และจอแสดงภาพการทำงานขณะขับขี่บนทางโหดในชุดจอสัมผัส Multi-Terrain Monitor รวมถึงการลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 32 องศา มุมจาก Departure Angle 24 องศา

    Toyotaพร้อมปรับช่วงล่างใหม่รวมถึงสมรรถนะสามารถลุยได้ทั้งทางวิบากและทุกสภาพถนน รวมถึงปรับในส่วนพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ลดการกระตุกเมื่อขับบนถนนขรุขระ บังคับเลี้ยวแบบคมขึ้น เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น พร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายหน้าและหลัง (ออปชันเสริม) Differential Lock มีฟังก์ชัน Stabilizer Disconnect Mechanism (SDM) ปรับตัวกันโคลงให้เหมาะสมกับสถาการณ์การขับขี่แบบต่างๆและความปลอดภัยรอบคัน Toyota Safety Sense 3.0 ทั้ง

    ระบบควบคุมระยะห่างและความเร็วแปรผันตามทุกช่วงความเร็วด้วยเรดาร์ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ Full-speed เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติแบบตรวจจับคนข้ามถนนได้ Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA)

    ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane Departure System (LDS) ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering ไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะและช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Auto High Beam (AHB) ช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) ช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Proactive Driving Assist (PDA) หักหลบพวงมาลัยอัตโนมัติกันคนเดินทางเท้าเดินข้ามถนนแบบทะเล่อทะล่า Emergency Steering Assist (ESA)

    Toyotaจำหน่ายทั้งหมด 9 รุ่นย่อยตั้งแต่รุ่น SR5, TRD Sport, TRD Sport Premium, TRD Off Road, TRD Off Road Premium, Limited, Platinum, TRD Pro, และ TRAILHUNTER พร้อมเผยราคาและส่งมอบในช่วงปลายปีนี้อาจเป็นช่วงเดือน กันยายน เป็นต้นไป ส่วนออสเตรเลียกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำมาขายหลังหายจากตลาด 15 ปี

    ที่มา Carsales

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts