หลังจากเปิดตัว Volvo EX90 เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหญ่แห่งค่ายแดนไวกิ้งที่กำลังได้รับการตอบรับที่ดีจากสาวกรถยุโรปและพร้อมที่จำหน่ายในแต่ละประเทศ
ซึ่งรวมถึงเมืองไทยสอดรับกับนโยบาย Volvo ไทยที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวในปี 2025 และที่งาน Shanghai Auto Show 2023 เปิดตัวทางเลือกใหม่ที่ขั้นกว่ากับ Volvo EX90 Excellenceที่ภายนอกไม่ต่างจากรุ่น EX90 ปกติ แต่มีการตกแต่งด้วยตัวรถสีทูโทนพร้อมล้ออัลลอยลายทูโทนพิเศษขนาด 22 นิ้ว 8 ก้าน กับออปชันเดิมตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ Iron Mark พร้อมขอบฝากระโปรงหน้าที่หนากว่าเดิม ไฟหน้า LED ใหม่ดีไซน์เอกลักษณ์ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) ด้านข้างกับที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกลมกลืนกับตัวถังรถ รวมถึงหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ มีสคูปเล็กๆบนหลังคาซึ่งเป็นการทำงานของระบบ LiDAR ไฟท้าย LED รูปตัวซี
ภายในดัดแปลงความสบายจาก 3 ตอน 7 ที่นั่ง ด้วยเบาะตอนที่สอง และตอนที่สาม ได้ถูกถอดออกไปเป็นเบาะนั่งตอนที่สองแบบ VIP First Class 2 ที่นั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหัวหมอนขนาดเล็กเสริมพนักพิงด้านหลังแบบ comfortable soft pillowsเสริมความสบายในการเดินทางอย่างเต็มคาราเบล คั่นกลางด้วย ตู้เย็นไซซ์มินิและคอนโซลกลางพร้อมปุ่มการทำงานฟังก์ชันต่างๆ และที่ขาดไม่ได้กับเจ้าประจำค่าย Orrefors Sweden รังสรรค์สวิตช์ทำจากคริสตัลควบคุมการฉีดน้ำหอมให้บรรยากาศหอมสดชื่นพร้อมสวิตช์ อุ่นเบาะและนวดเบาะ มีที่วางแก้ว และ ข้างล่างมีที่เลื่อนสำหรับวางเครื่องดื่มขวดใหญ่และที่วางแก้ว 2 ใบได้ โดยตัวเบาะหุ้มวัสดุผ้าขนสัตว์ผสม หรือวัสดุเบาะ Nordico โดยวัสดุหุ้มเบาะนี้ทำจากวัสดุรีไซเคิลเช่นขวดน้ำเปล่า PET
พร้อมออปชันเดิมๆทั้ง คอนโซลหน้าดีไซน์ เรียบง่ายแต่คลาสสิกด้วยคอนโซลหน้ารูปตัวทียาวด้วยแผงช่องแอร์แนวนอนซ้าย-ขวา จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 14.5 นิ้วรองรับ Apple CarPlay ไร้สาย, Android Auto แบบ Android Automotive OS แสดงการนำทาง สื่อ และการควบคุมโทรศัพท์ ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ และ รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G โดยใช้ชิปจาก ชิป NVIDIA DRIVE Orin และ Snapdragon®
แถมมีจอแสดงข้อมูล HUD บนแผงคอนโซลหน้ามาอีก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ใหม่ แผงคอนโซลกลาง รวมถึงมีจอมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลบอกทั้งความเร็ว เส้นทางการขับขี่ ข้อมูลการจราจร ลำโพง B&W Bowers & Wilkins 25 ตัว รองรับ DOLBY ATMOS พร้อมไฟ Ambient Light ผ่านลายไม้
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ให้ความจุแบต lithium-ion ขนาดใหญ่ 111 kWh แรงสุด 517 แรงม้า แรงบิด 910 นิวตันเมตร โดยวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 650 กม. ตามมาตรฐาน CLTC สามารถชาร์จกระแสตรง DC 10-80 % ภายใน 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 250 kW และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW
พร้อมระบบ LiDAR หรือ Light Detection and Ranging ระบบตรวจจับวัดระยะทางของวัตถุและคนเดิน โดยการใช้แสงเลเซอร์ไปกระทบกับวัตถุแล้วคำนวณระยะทางด้วยระยะเวลาทำงานได้เร็ว ประกอบด้วย รวมถึงกล้องแปดตัว เรดาร์ 5 ตัว เซนเซอร์อัลตราโซนิก 16 ตัว และเซนเซอร์ของระบบ LiDAR ตรวจจับคนเดินถนนด้วยระยะไกลสูงสุด 250 ม.
ระบบ Driver Understanding ตรวจจับรูปแบบการมองเห็นและพฤติกรรมการขับที่ประกอบด้วย กล้องที่ซ่อนภายในสองตัวและพวงมาลัยแบบ Capacitive คอยตรวจจับสัญญาณความเครียด ง่วงซึมหลับใน ความว้าวุ่น ฯลฯ อาจมีผลต่อการขับขี่จนเกิดอุบัติเหตุได้ โดยจะเริ่มจากการเตือนจนถึงเพิ่มระดับจนถึงขั้นสูงตามสถานการณ์นั้นๆ ถ้าผู้ขับขี่ไม่สามารถขับรถต่อได้ จะเปิดไฟฉุกเฉินและพารถไปจอดข้างทางอย่างปลอดภัย โดยเตรียมที่จะขายจีนและทั่วโลกเร็วๆนี้
ที่มา Volvo
