เปิดราคาอย่างเป็นทางการ สำหรับ 2023 New Nissan Almera ใหม่ รุ่นปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 4 ปี วางจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท
ดีไซน์ภายนอก ใช้โฉมเดียวกับเวอร์ชันอเมริกาเพิ่มลุคโมเดิร์นให้กับด้านหน้าตั้งแต่กระจังหน้ารูปตัววี V-Motion ดีไซน์ใหม่เข้มแนวนอนแบบ Next Generation V-Motion ประกบกับไฟหน้า LED พร้อมไฟ LED signature ดีไซน์ใหม่ในโคมเดียวกันลงตัวด้วยกันชนหน้าชุดใหม่รับกับไฟตัดหมอกหน้า LED ล้ออัลลอยลายเดิมขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 195/65 R15 กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยวและไฟท้าย LED signature กันชนหลังยังคงใช้ดีไซน์เดิมและโลโก้ Nissan รูปแบบใหม่ติดตั้งทั้งกระจังหน้า ฝาท้าย และดุมล้อ เป็นครั้งแรกของค่ายที่ใช้โลโก้ใหม่
ดีไซน์ภายใน ยังคงเดิม แต่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตั้งแต่การตกแต่งที่แผงคอนโซลหน้าซึ่งเป็นรูปปีกที่สยายออกพร้อมวัสดุสีน้ำเงินเข้ม (ในรุ่น V และ VL) ตลอดแนวคอนโซลเพิ่มความเก๋ทันสมัยเสริมอารมณ์สปอร์ตให้กับห้องโดยสาร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัดสามก้านติดตั้ง Cruise Control ใหม่และปะโลโก้ Nissan เวอร์ชันใหม่มาด้วย จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุด NissanConnect รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay รวมทั้งยังสามารถใช้ระบบนำทางผ่าน Google Map ได้สบาย ๆ และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ เพิ่มความสุนทรีย์ในทุกการเดินทางด้วยลำโพงมากสุด 6 จุด
ฟีเจอร์ใหม่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger กุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่พร้อมปุ้มสั่งสตารท์รถยนต์ทันสมัย ความกว้างขวางนั่งสบายสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้าพรีเมียม QUOLE MODURE ไม่สะสมความร้อนแม้ในการเดินทางไกล มีพื้นที่เข่าทั้งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า และด้านหลังที่มีระยะห่างนั่งสบาย ส่วนที่เก็บสัมภาระทางด้านหลัง ออกแบบมาให้กว้างขวาง สามารถบรรจุของชิ้นใหญ่ เช่น ถุงกอล์ฟ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สบายตอบสนองความต้องการของคนที่มีไลฟ์สไตล์พร้อมกระจกมองหลังแบบไร้ขอบ เพิ่มทัศนวิสัยให้ดียิ่งขึ้น
NissanConnect Services เชื่อมต่อคุณกับรถเป็นหนึ่งเดียวกับเป็นแอปพลิเคชันอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมหรือสั่งการรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน รวมทั้งขอความช่วยเหลือได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ด้วยฟังก์ชัน SOS ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนท์นี้ที่มีไว้กับตัวรถ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจว่าจะมีผู้คอยช่วยเหลือตลอดเวลา เพียงกดปุ่ม SOS ภายในรถ ระบบจะติดต่อกับศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เพื่อประสานงานและส่งความช่วยเหลือไปอย่างรวดเร็ว
ระบบสั่งการระยะไกลต่าง ๆ ได้แก่
- ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู สั่งล็อก หรือปลดล็อกรถยนต์ระยะไกล
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล
- ระบบสั่งกะพริบไฟหน้า
- ระบบสั่งแตรระยะไกล ที่ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถได้สะดวกแม้ในลานจอดรถที่มีรถแน่นขนัด
- My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยค้นหาและนำทางไปยังรถได้ในทันที
ระบบแจ้งเตือนสถานะของรถ เช่น
- ตรวจเช็กได้ว่ารถล็อกหรือยัง หรือมีความผิดปกติกับรถหรือไม่
- การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดการบำรุงรักษาตามระยะ
- การเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด เป็นต้น
รวมทั้งยังสามารถดูระยะทางและระยะเวลาที่ใช้รถซึ่งดูได้ละเอียดระดับรายวัน รายเดือน หรือรายปีและยังช่วยดูแลความปลอดภัยของรถ เช่น เมื่อสัญญาณกันขโมยทำงาน แอปพลิเคชันนี้จะแจ้งไปยังเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถจัดการได้ทันท่วงที หรือเมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด แอปพลิเคชันจะแจ้งเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา
ขุมพลัง ความแรงยังคงเดิมกับเบนซินเทอร์โบ HRA0 1.0 ลิตร 100 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร 2,400-4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เสริมอารมณ์ของการขับขี่ด้วย D-Step Logic เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลให้อัตราเร่งต่อเนื่องทันใจ และระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นในอัตรา 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
เทคโนโลยีความปลอดภัย ใน 360° SAFETY SHIELD เพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ตอกย้ำจุดยืนในฐานะคอมแพคซีดานที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ อาทิเช่น
- เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS)
- เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA)
- เทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) จะส่งสัญญาณเตือนด้วยไฟกะพริบและการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ได้ตั้งใจ
- เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM)
- ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)
- เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
- เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
- เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้การปกป้องสูงสุด ได้แก่
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)
- ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุดทุกรุ่นย่อย
- เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC)
- เทคโนโลยีเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS)
- กระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution – EBD)
- เสริมแรงเบรก (Brake Assist)
Nissan Almera รุ่นปรับโฉมมีทั้งสีแบบสีเดียวทั้งคัน (ทุกรุ่น) และสีทูโทน (เฉพาะรุ่น VL)
- สีขาว สตอร์ม ไวท์ (Storm White): ทุกรุ่น
- สีแดง เรเดียนท์ เรด (Radiant Red): รุ่น VL, V, EL
- สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star): ทุกรุ่น
- สีเทา กัน เมทาลิค (Gun Metallic): ทุกรุ่น
- สีน้ำเงิน ไนท์ บลู (Night Blue): รุ่น VL, V และ EL
- สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล (Gray Sky Pearl): รุ่น VL และV
- สีทูโทนสำหรับรุ่น VL :
-
- สีเทา เกรย์ สกาย เพิร์ล หลังคาสีดำเงา
- สีเทา กัน เมทาลิค หลังคาสีดำเงา
- สีขาว สตอร์ม ไวท์ หลังคาสีดำเงา
-
โดยมีราคาจำหน่ายทั้ง 4 รุ่นย่อยดังนี้
- รุ่น E ราคา 549,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 34,000 บาท)
- รุ่น EL ราคา 589,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 24,000 บาท)
- รุ่น V ราคา 659,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 4,000 บาท)
- รุ่น VL ราคา 699,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 24,000 บาท)
ราคาตารางผ่อน – ดาวน์ 2023 NEW Nissan Almera