หลังจากที่ไทยเปิดวันประกาศราคาและส่งมอบเป็นช่วงเดือนหน้าเป็นต้นไปสำหรับ BYD Dolphin โลมาน้อยหัวใจไฟฟ้าที่กำลังเริ่มนิยมมากขึ้น
ส่วนออสเตรเลียเป็นประเทศรายล่าสุดต่อจากไทยที่เปิดตัวตามหลังโดยเจ้าโลมาน้อยคันนี้ปรับหน้าตาปรับมาดให้ดูดีมีสีสันขึ้นตั้งแต่ไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime แบบ LED กับกระจังหน้าทรงทึบติดตราตัวอักษร BYD ที่จับประตูดีไซน์ยกก้าน กระจกมองข้างมทรงสปูนปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Heated Mirror สำหรับหลังคาแบบ Panoramic Roof จัดมาให้ในรุ่นท็อป ไฟท้าย LED ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ล้อและยางขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60 R16 และขนาดใหญ่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/50 R17
ตัวรถสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม BYD e-platform 3.0 กับมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,290 มม. ความกว้าง 1,770 มม. ความสูง 1,550 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. น้ำหนักรถ 1,506-1,658 กก.
ภายในที่กว้างสบายแบบ 5 ที่นั่ง ใช้สีทูโทนเช่นเดียวกับตัวถังภายนอกดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย มาพร้อม Bucket Seat ทรงสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มือจับเปิดประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมาจอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด มาตรวัดดิจิทัล 5 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และคนนั่งปรับธรรมดาแบบสี่ทิศทาง เบาะหลังสามารถพับได้ในอัตราส่วน 40:60 มีพื้นที่มากถึง 1,310 ลิตรในกรณีพับเบาะแต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 345 ลิตร
ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ permanent magnet synchronous motor มีความจุแบตเตอรี่ 44.9 kWh แรงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 340 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 12.3 วินาที การชาร์จผ่านไฟ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW 0-100% ภายใน 7.5 ชม. ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาทีในรุ่น Dynamic
และอีกรุ่นกับรุ่นท็อปสุด Premium ใช้ความจุแบตใหญ่ขึ้นเป็น 60.48 kWh ซึ่งความจุแบตเทียบเท่ากับ BYD ATTO 3 แรงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7 วินาที วิ่งไกลสุด 427 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) ชาร์จผ่านไฟ DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 kW ในรูปแบบ Fast Charging
พร้อมความปลอดภัยครบครันทั้ง ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่, ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ, เตือนก่อนเปิดประตู, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ช่วยเบรกอัตโนมัติ, เตือนเมื่อรถออกจากเลน,ตรวจวัดแรงดันลมยาง, ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, เตือนการชนด้านหน้า, เตือนการชนด้านหลัง, เตือนจุดอับสายตา, ช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ช่วยควบคุมเมื่อรถออกจากเลน, ช่วยควบคุมรถฉุกเฉินเมื่อรถออกจากเลน, เตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน, ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรก และถุงลมนิรภัย 6 จุด
พร้อมกันนี้ยังแนะนำรุ่น Sport ที่มาพร้อมชุดแต่งรอบคันตั้งแต่สเกริ์ตหน้า, ด้านข้าง, ด้านหลัง ล้อและยางออกแบบพิเศษเพื่อรุ่นและอื่นๆมีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คัน โดยขายจริงปีหน้า BYD Dolphin ขายที่ออสเตรเลียด้วยกันถึงสามรุ่นย่อยตั้งแต่รุ่น Dynamic, Premium และ Sport ในราคารวมค่า On-Road เริ่มต้น $38,890-49,990 หรือราว 919,000- 1,181,000 บาท โดยส่งมอบตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2023
ที่มา Carexpert