สาวกขาลุยทั่วโลกที่กำลังรอคอยการมาของ Toyota Land Cruiser เจเนอเรชันที่ 5 ในรหัส 250 ซึ่งจะมาแทนเจนที่แล้วรหัส 150 ที่แซยิดมายาวนานกว่า 14 ปี
จากรายงานคราวก่อนที่ว่า Toyota Land Cruiser Prado จะยกขุมพลังมาจาก Lexus GX เจนที่ 3 มาตั้งแต่ V6 เบนซินเทอร์โบ 3.5 ลิตร และดีเซลเทอร์โบคู่ 3.3 ลิตร มานั้นล่าสุดทางสื่อรถยนต์ต่างประเทศได้รับเอกสารภายในของค่าย Toyota ที่ระบุว่าจะมีทั้งขุมพลังสี่สูบทั้งเบนซินและดีเซลเริ่มที่ ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Full-Time ที่เลือกโหมดลุย Multi-Terrain Select ได้ถึง 5 โหมด (MUD & SAND,LOOSEROCK, MOGUL, ROCK & DIRTและ ROCK) พร้อมโหมดการขับขี่ทางเรียบถึง 5 โมหด (Normal, Eco, Comfort, Sport S, และ Sport S+) เพืองท้ายแบบ Torsen limited-slip differentialและ Multi-Terrain Monitor หน้าจอแสดงสถานะการลุย
ทางด้านเบนซินมีทั้งแบบ Full Hybrid ด้วย Dynamic Force Hybrid Engine 2.4 ลิตร T24A-FTS 279 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 429 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยให้กำลังรวม 372 แรงม้า แรงบิด 406 นิวตันเมตรพร้อมขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Vectoring AWD
ทิ้งท้ายด้วยเบนซินยอดนิยมที่ยกมาจากเจนที่แล้วขนาด 2.7 ลิตร Dual VVT-I 2TR-FE 163 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 246 นิวตันเมตรที่ 3,900 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Full-Time ที่เลือกโหมดลุย Multi-Terrain Select และโหมดการขับขี่สำหรับทางเรียบถึง 5 โหมด ตามลำดับ ระบบเพืองท้าย Torsen limited-slip differential แบบเดียวกับรุ่นดีเซล 2.8ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นสเปกที่กล่าวมานั้นจะขายในญี่ปุ่น
แต่ความเห็นส่วนตัวของทาง Car2Day เชื่อว่าสเปกทั่วโลกไม่ว่าจะออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง เอเชียและบางประเทศยกเว้นอเมริกาอาจได้เบนซินเทอร์โบคู่ 3.5 เทอร์โบคู่ V6 V35A-FTS 415 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,600 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT พร้อมขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Vectoring AWD ประดับบารมีคู่กับเบนซิน 2.7, Hybrid 2.4 และดีเซล 2.8 ด้วย
ด้านดีไซน์ภายนอกพื้นฐานของ Lexus GX เจเนอเรชันที่ 3 มาผสมกับความคลาสสิกของ 40 Series เข้าไว้ด้วยกันอย่างเช่นดีไซน์ของกระจังหน้าพร้อมตราตัวอักษร Toyota และไฟหน้า LED ทันสมัย กระจกมองข้างแนวตั้ง แบบทรงสปูน ราวหลังคา Built In เสาอากาศครีบฉลาม หลังคาซันรูฟที่เลือกได้ทั้งแบบธรรมดาและพาโนรามิกบานใหญ่ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60R18 และ 265/70R18 ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/55R20 และใหญ่สุด 22 นิ้ว พร้อมยาง 265/50R22
โดยยังใช้พื้นฐาน TNGA-F body-on-frame พร้อมตัวรถที่ขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับเจนที่แล้วโดยยาวกว่าเดิม 10 มม. กว้างกว่าเดิม 229 มม.สูงกว่าเดิม 45 มม. ฐานล้อยาวกว่า 60 มม.
ภายในต้องเป็นแนวสามตอนเจ็ดที่นั่งสามารถปรับและพับได้ตามความต้องการขนของได้อย่างจุใจโดยเบาะตอนที่สองพับได้แบบ 40/60 และตอนที่สามพับได้แบบ 50/50 ด้วยระบบไฟฟ้ามาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาดใหญ่ 7 กับ 12.3 นิ้ว ข้างบนมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Head Up Display มีจอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว รองรับความบันเทิงไร้สาย Apple Carplay และ Android Auto พร้อมช่องแอร์ใต้จอสัมผัส แถมมีลำโพงคุณภาพ 10 และ 21 จุดรอบคันมีทีเสียบชาร์จ USB-C และที่ชาร์จมือถือไร้สายโดยช่องเสียบ USB มีทั้งหมด 6 จุด ที่วางแก้ว 13 จุด หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold
โดย Toyota Land Cruiser เจเนอเรชันที่ 5 รหัส 250 เปิดไลน์การผลิตช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ญี่ปุ่น ทางด้านอเมริกาและออสเตรเลียจะเปิดตัวในปี 2024 แต่การเปิดตัวภายในปีนี้ที่ญี่ปุ่นคาดเร็วๆนี้พบกัน
ที่มาภาพเรนเดอร์ Whichcar