เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Mitsubishi Triton เจเนอเรชันที่ 6 ช่วงแรกจะขายทั้งแบบตอนเดียวและสี่ประตูขับเคลื่อนสี่ล้อและขับสองยกสูง
และจะมีรุ่นอื่นๆทยอยเปิดตัวในเร็วๆนี้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐาน ตัวถังตอนเดียว แค็ป และสี่ประตู, แค็ปยกสูง, สี่ประตูขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่น ULTRA Auto และรุ่นท็อปสุด Mitsubishi Triton Athlete สิ่งที่แตกต่างนั้นคือชุดแต่ง Athlete รอบคันไม่ว่าจะเป็น
- ชุดกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษร Mitsubishi บนขอบกระจังหน้า
- ไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้าพร้อมขอบตกแต่งสีดำเข้ม ชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ทั้งหมดอยู่ในชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจด้วยการ์ดเสริม
- ล้ออัลลอยสีดำเข้ม 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 พร้อมคิ้วขอบล้อสีดำ
- ราวหลังคาสีดำ กับสปอร์ตบาร์ทูโทนสีดำ/เงิน
- สปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H ที่เปิดประตูท้ายสีดำ
- กันชนหลังสีดำ
ภายในพิเศษด้วยสวิตช์ควบคุมต่างๆออกแบบให้มองเห็นได้อย่างโดดเด่นควบคุมได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือหนาทั้งพวงมาลัย ก้านจับ และมือจับเปิดประตูเน้นที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับได้อย่างกระชับมือล้วนออกแบบภายใต้แนวคิด Mitsubishi Touch
- โทนการตกแต่งสีดำ/ส้มในส่วนของชุดคอนโซลหน้าและแผงประตูวัสดุบุหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบาะนั่งทูโทนหุ้มกึ่งหนังแท้ ส้ม/เทาเข้ม
- เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังไฟฟ้า
- ที่วางแก้วใต้ช่องแอร์คอนโซหน้าซ้าย-ขวา
- ชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID 7 นิ้ว แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ
- แท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม
- จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้ว เชื่อมต่อทั้ง Android Auto Apple Carplay ไร้สาย มีระบบนำทางในตัว พ่วงลำโพง 6 จุด
- เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หมุนเวียนอากาศบนหลังคาตอนหลัง
- มือจับภายใน 8 จุด
ขุมพลังแรงสุดด้วยเทอร์โบคู่คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Twin Turbo Hyper Power Engine) ใหม่ 2.4 ลิตร 4N16 High Power ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง
ระบบ Super Select 4WD-II เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง) Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ) พร้อมควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ
มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค พร้อมความปลอดภัยดังนี้
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC)
- ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL)
- ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
- เตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
- สัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW)
- สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
- เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง
- เบรก ABS
- กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
- ลดกำลังเครื่องยนต์ (BOS)
- เสริมแรงเบรก (BA)
- ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
- ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)
- ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (AHB)
- ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน
- เซ็นเซอร์กะระยะการจอดหน้าและหลัง
Mitsubishi Triton Athlete เจเนอเรชันที่ 6 มีสีภายนอกดังนี้ สีส้ม Yamabuki Orange Metallic, สีขาวมุก White Diamond และสีดำ Jet Black Mica โดยเตรียมขายเร็วๆนี้คาดปลายปีนี้ได้พบกัน