More

    Honda CL300 Vs Royal Enfield SCRAM 411 คู่ปรับหน้าใหม่สาย Scrambler

    สำหรับการเปรียบเทียบรถในครั้งนี้ก็มีอีก 2 รุ่นใหม่อย่าง Honda CL300 และ Royal Enfield SCRAM 411 ที่มาในสไตล์สแครมเบลอร์ พร้อมด้วยด้วยดีไซน์หล่อ เท่ห์ โดนใจ และสมรรถนะที่ตอบโจทย์ ไบค์เกอร์สายท่องเที่ยว และการผจญภัย แน่นอนว่าในพิกัด และสไตล์นี้ก็มีตัวเลือกที่ไม่มากนัก และก็คงมีหลายๆ คนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้ออยู่ เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นเราได้นำมาเทียบกันให้เห็นไปเลยว่าคันไหนจะเหมาะกับคุณ

    • มิติตัวรถและการดีไซน์
    • สมรรถนะเครื่องยนต์
    • ช่วงล่างและระบบเบรค
    • ราคา
    • เลือกคันไหนดี?

    มิติตัวรถและการดีไซน์

    Honda Cl300

    ด้านมิติตัวรถ Honda CL300 มีขนาดตัวอยู่ที่ 831 x 2,178 x 1,134 มม. ( กว้าง x ยาว x สูง)พร้อมดีไซน์ที่แอบแฝงความเป็นโมเดิร์นคลาสสิค ไม่ว่าจะเป็นเรือนไมล์ LCD ทรงกลมคลาสสิค ไฟหน้า LED แบบ 4 ดวง ในโคมไฟรูปทรงกลม ขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยว LED และ ไฟท้าย LED ทรงวงรี มองเห็นชัดทุกการขับขี่  และแฮนเดิลบาร์ยกสูง เบาะนั่งสไตล์ Scrambler มีความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 790 มม. พร้อม Rubber Pad ให้ความกระชับขณะขับขี่

    Royal Enfield SCRAM 411

    ถัดมาใน Royal Enfield SCRAM 411 มีมิติตัวรถขนาด 840 x 2210 x 1165 มม. ( กว้าง x ยาว x สูง) มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 194 กก. งานพาร์ทชิ้นส่วนและงานสี ทำออกมาได้เนี้ยบและดูดีมากๆ อีกทั้งยังได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่ในคลาสอย่าง Himalayan ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สองรุ่นนี้จะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยตัวรถจะมาพร้อม หน้าจอเรือนไมล์ทรงกลมแบบผสมผสานระหว่างดิจิตอล และอนาล็อก กับชุดไฟดวงกลมโตด้านหน้าที่มาพร้อมชุดครอบไฟด้านหน้าแบบใหม่ทำจากเหล็กหล่อขึ้นรูป พร้อมกับแฮนด์บาร์ทรงกว้างสไตล์รถวิบาก และเบาะนั่งแบบตอนเดียวไล่ระดับมีความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 795 มม.

    ด้านมิติตัวรถจะเห็นว่าทั้งสองรุ่นมีขนาดที่ไม่ต่างกันมากนัก จะแตกต่างกันเยอะก็ตรงที่น้ำหนัก กับดีไซน์ โดย CL300 จะมีความเป็นโมเดิร์นมากกว่าด้วยดีไซน์และสเปคที่ให้มาไม่ว่าจะเป็นชุดไฟ และเรือนไมล์ LED แต่ทางด้าน  SCRAM 411 จะมีดีไซน์ที่คงความเป็นคลาสสิคมากกว่า และจะมาพร้อมกับชุดไฟแบบหลอดไส้รอบคัน ซึ่งแน่นอนว่ามันสะดวกและมีความประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเมื่อต้องมีการเซอร์วิส

    สมรรถนะเครื่องยนต์

    Honda Cl300

    Honda CL300 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 286 cc. สูบเดี่ยว 4 จังหวะ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด เกียร์ 6 สปีด พร้อมสลิปเปอร์คลัตช์ และให้พละกำลัง 25.7 แรงม้าที่ 8,500 รอบ/นาที กับแรงบิด สูงสุดที่ 25.5 นิวตันเทตร ที่ 6,000 รอบ/นาที ขนาดความจุถังน้ำมัน 12 ลิตร  

    Royal Enfield SCRAM 411
    source: hepco-becker.de

    Royal Enfield SCRAM 411  เครื่องยนต์ 411 cc. สูบเดี่ยว 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ เคลื่อนผ่านชุดเกียร์ 5 สปีด และให้พละกำลัง 24.3 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิด สูงสุดที่ 32 นิวตันเทตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ขนาดความจุถังน้ำมัน 15 ลิตร และการ์ดอกล่างปกป้องเครื่องยนต์

    ในจุดนี้จะเห็นว่าทั้งสองรุ่นมีคาแรคเตอร์เครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน โดยในส่วนของแรงบิด แรงม้า และอัตราทดเกียร์ CL300 จะให้มาเหนือกว่า แต่ตามสเปคที่ให้มาช่วงรอบต้น SCRAM 411 สามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน และยังได้เปรียบในเรื่องของความจุน้ำมันที่มากกว่าคู่เปรียบถึง 3 ลิตร

    ช่วงล่างและระบบเบรค

    Honda CL300

    CL300 มาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาด 41 มม. และหลังสวิงอาร์มแบบสปริงคู่ ซับแรงกระแทกได้ดี ส่วนระบบเบรคจะมาพร้อมกับระบบ ABS แบบ Dual Channel ทำงานร่วมกับดิสก์เบรคเดี่ยวด้านหน้า กับคาลิปเปอร์ Nissin แบบ 2 พอต และดิสก์เบรคเดี่ยวด้านหลัง กับคาลิปเปอร์ Nissin แบบ 1 พอต และตัวรถจะมาพร้อมกับล้อแม็กหน้าขนาด19 นิ้ว รัดด้วยยางหน้าขนาด 110/80 และ ล้อหลังขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยางขนาด 150/70 มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 170 กก.

    Royal Enfield SCRAM 411
    source : bikewale.com/

    SCRAM 411 มาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาด 41 มม. มีระยะยุบอยู่ที่ 190 มม. และโช้คอัพหลังเดี่ยว ให้ระยะยุบ 180 มม. ซับแรงกระแทกได้อย่างอยู่มือ ส่วนระบบเบรกดิสก์หน้าขนาด 300 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ BYBRE แบบ 2 ลูกสูบ และ เบรกดิสก์หลังขนาด 240 มม. พร้อมคาลิปเปอร์  BYBRE แบบ 1 ลูกสูบ กับระบบ ABS แบบ Dual Channel และตัวรถจะมาพร้อมกับล้อซี่ลวดหน้าขนาด19 นิ้ว รัดด้วยยางหน้าขนาด 100/90 และ ล้อหลังขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยางขนาด 120/90 มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 194 กก.

    ด้านสมรรถนะช่วงล่างที่ด้านระบบเบรก และโช้คอัพหน้าสเปคไม่ต่างกันมากนัก แต่จะแตกต่างกันในส่วนของระบบกันสั่นสะเทือนหลัง ตัวโช้คอัพหลังเดี่ยวของ SCRAM411 บวกกับน้ำหนักตัวที่มากกว่า 20 กก. ส่งผลให้ตัวรถมีความนิ่งหนึบมากกว่าของ CL300 ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า และในส่วนของล้อซี่ลวดของ SCRAM411 จะสามารถช่วยซับพอร์ตการขับขี่ในทางฝุ่นได้ดีกว่า ส่วนในทางดำ CL300 จะมีความโดดเด่นมากกว่า และกันสะเทือนหลังสวิงอาร์มแบบสปริงคู่จะให้คาแรคเตอร์นุ่มนวลมากกว่า

    ราคา

    Honda CL300

    Honda CL300 มีทั้งหมด 3 สี คือ Candy Energy, Orange Pearl Cadet Gray และ Pearl Himalayas White  ราคาแนะนำที่ 149,900 บาท

    Royal Enfield SCRAM 411

    Royal Enfield SCRAM 411  มีทั้งหมด 7 สี คือ Graphite Yellow, Graphite Red, Graphite Blue, Skyline Blue, Blazing Black, White Flame และ Silver Spirit ราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 175,900 บาท

    เลือกคันไหนดี?

          สุดท้ายถ้าให้จะต้องตัดสินใจเลือกสักคันหนึ่งระหว่าง Honda และ Royal Enfield จะเลือกคันไหนดี? ต้องบอกเลยว่าถ้าชอบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบคลาสสิคย้อนยุค กับคาแรคเตอร์เครื่องยนต์ที่นุ่มนวลก็คงต้องเป็น Royal Enfield SCRAM 411 แต่ถ้าชื่นชอบความโมเดิร์นคลาสสิคที่แอบแฝงความทันสมัย และคาแรคเตอร์เครื่องยนต์ที่จัดจ้านก็คงต้องไปทาง Honda CL300 แต่สุดท้ายนี้เราขอแนะนำให้คุณไปสัมผัสฟีลลิ่งได้ด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการใกล้บ้านคุณจะดีกว่า ว่าชอบฟีลลิ่งขับขี่แบบไหนเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นนั่นเอง

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts