เปิดราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ Nissan X-Trail รุ่นปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในร่างเจนที่ 4 หลังแนะนำตัวให้ชาวอเมริกันได้รู้จักกันไปก่อนหน้านี้
ภายนอก
Nissan X-Trail ปรับโฉมในรหัสตัวถัง T33 เช่นเดิมเริ่มที่ด้านหน้าปรับในส่วนชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่รวมถึงชุดกระจังหน้ารูปตัววี V-motion ขนาดใหญ่เติมเส้นโครเมียมแนวนอน 5 ชั้น ถึงจะซับซ้อนแต่ก็หรูหรา พร้อมไฟหน้า multi-level LED ดีไซน์เรียวอยู่ด้านล่างพร้อมไฟ Adaptive LED ให้เลือก ขยับขึ้นไปเป็นไฟ DRL อยู่บนสุดและไฟเลี้ยวอยู่ในชุดเดียวกัน ด้านท้ายมีการปรับแค่กันชนหลังส่วนชุดไฟท้าย LED สไตล์บูมเมอแรงโคมเดิมเพิ่มการมองเห็นได้ชัดขึ้น ราวหลังคาสีเงินขนาดใหญ่ หลังคารถ คิ้วขอบล้อและกระจกมองข้างทรงสปูนตกแต่งสีดำเงาให้เลือกในรุ่นสีทูโทน ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติพร้อมระบบแฮนด์ฟรี
เสริมหล่อกับเสาอากาศครีบฉลาม ล้ออัลลอยลายใหม่ที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60R18 มิติตัวรถคงเดิมตั้งแต่ความยาว 4,681 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,840 มิลลิเมตร ความสูง 1,730 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,706 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ภายใน
เพิ่มความทันสมัยด้วยระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์รองรับ Android Auto แบบไร้สายในรุ่น SL และ Platinum กับแบบเสียบสายในรุ่น S และ SV ด้าน Apple CarPlay ยังไร้สายเช่นเดิม อัปเดตออนไลน์ over-the-air ให้ทันสมัยตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นระบบความบันเทิง ระบบต่างๆที่เกี่ยวเนื่องในชุดจอสัมผัส 12.3 นิ้ว Nissan Connect และยังมีขนาด 8 นิ้วให้เลือก บนชุดแผงคอนโซลหน้าแนวลักชัวรี่สีทูโทนพร้อมมาตรวัดดิจิตอล Full LCD ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมลำโพงคุณภาพ 4 กับ 6 และ 10 จุดจาก Bose จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าสี head-up display 10.8 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแยกโซน 3 Zone ซ้าย-ขวา และด้านหลัง คอนโซลเกียร์ทรงใหญ่โตจับกระชับ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ NAPPA สีแทนกับเบาะกึ่งหนังแท้สีดำมาพร้อมกันเหงื่อกันความชื้นซึมไปในเบาะแบบ Tailor Fit™ และ Cell-Cloth® และยังมีเบาะผ้าให้เลือก มีทั้งแบบ 2 ตอน 5 ที่นั่ง โดยที่นั่งตอน 2 สามารถเลื่อนและพับเก็บแบบ 60:40 ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย-ขวา ช่องเชื่อมต่อ USB type C ทั้งแบบ 2 จุดด้านหน้าและเพิ่มอีก 2 จุดด้านหลังในรุ่น SV ขึ้นไป
ขุมพลัง
เดิมเบนซิน VC Turbo ขนาด 1.5 ลิตร รหัส KR15DDT มาพร้อมอัตราส่วนกำลังอัดตั้งแต่ 8:1-14:1 ให้กำลังมากสุด 204 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 2,800-4,000 รอบต่อนาทีคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ Intelligent All Wheel Drive
ความปลอดภัย
Nissan Safety Shield 360 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อยทั้ง
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor
- เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning
- เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking
- เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย Rear Automatic Emergency Brake
- ช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection
- ตรวจสอบจุดอับสายตา Blind Spot Warning
- ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert
- เตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
- เบรกหลังอัตโนมัติ Rear Automatic Braking
- ขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT Assist
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control พร้อมดึงกลับเข้าเลนอัตโนมัติ Lane-Keeping Assist
Nissan X-Trail หรือ Nissan Rouge ขายที่สหรัฐอเมริกามีสีภายนอกรถได้แก่ สีน้ำเงิน Deep Ocean Blue Pearl, สีครีม Baja Storm, สีขาว Everest White Pearl และสีทูโทนพร้อมหลังคาสีดำตัดกัน สี่เกรดความหรูทั้งรุ่น S, SV, SL, และ Platinum ทั้งหมด 8 รุ่นย่อยในราคาเริ่มต้น $28,320-$40,100 หรือราว 999,000- 1,409,000 บาท
ที่มา Nissan USA