ครั้งแรกของ Mitsubishi Motors เปิดตัวยานยนต์พลังงานทางเลือกหรือ xEV ตอบสนองความต้องการสำหรับคนยุคใหม่กับ Mitsubishi XPANDER HEV
หน้าตาเดิมเพิ่มเติมด้วยตราสัญลักษณ์ HEV ที่กระจังหน้าและดานท้าย กับตราสัญลักษณ์ Hybrid EV ที่ใต้กระจกมองข้างทรงสปูน และล้ออัลลอยทูโทนเพิ่มขลิบสีน้ำเงินขนาด 17 นิ้ว 205/55 R17 นอกนั้นเดิมทั้ง ไฟหน้าเป็นแบบ LED รูปตัว T Sideways-T แบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อม ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED ที่อยู่บนไฟหน้า หน้าตาสไตล์ Advance Dynamic Shield แถมยกระดับมาในแบบรถเอสยูวี ไฟตัดหมอกหน้าทรงกลม รับกับกระจังหน้าสีเข้มติดตราทรีไดมอนด์ ไฟท้ายปรับดีไซน์ขาวแดงแบบ LED ชุดกันชนออกแบบดูสปอร์ตกว่าเดิมด้วยชุดเสริมกันขนหน้า-หลังลงตัวแบบ 3 มิติช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
มิติตัวรถในส่วนความสูงจากใต้ท้องรถลดลงเป็น 205 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าและหลังปรับยาวขึ้น 75 มิลลิเมตร และ 45 มิลลิเมตร ส่วนอย่างอื่นเช่นเดิมตั้งแต่ความยาว 4,595 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,750 มิลลิเมตร ความสูง 1,750 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมันลดลงเหลือ 40 ลิตร
ภายในเดิมๆด้วยกระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ พร้อมภายในประณีตด้วยดีไซน์แบบ Horizontal Axis กว้างขวางโปร่งสบายด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์จับกระชับมือยิ่งขึ้นช่วยเพิ่มควำมมั่นใจขณะขับขี่ เบาะนั่งออกแบบใหม่ที่มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard โทนสีภายในมาในแบบ สีน้ำตาล-ดำ หรูหรายิ่งขึ้นด้วยด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มและมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน แผงประตูข้างพร้อมช่องเก็บของทั้งคอนโซลกลาง มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ที่พักแขนสามารถเก็บขวดน้ำได้ถึง 600 มิลลิเมตร มีช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะตอนที่สองแบบ Type-A และ Type-C
พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC 12 โวลต์เครื่องปรับอากาศดิจิตอลพร้อมฟังก์ชัน Max Cool และมีแยกส่วนสำหรับด้านหลัง เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold หน้าจอสัมผัส 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold ใหม่!!มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ความชัดสูงพร้อมแสดงผลการจ่ายไฟและชาร์จไฟของระบบไฮบริด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ใหม่ และหัวเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่ Electric Shift แบบ Shift-by-Wire
ขุมพลังใหม่แบบ Mitsubishi e:Motion กับเบนซินใหม่ MIVEC ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A92 95 แรงม้าที่ 5,100 รอบต่อนาที แรงบิด 134 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร พ่วงแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนตอบสนองด้วยอัตราเร่งรวดเร็วและทรงพลังเน้นทั้งความเงียบที่มากขึ้นและประหยัด พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด 7 DRIVE MODE ปรับโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับทุกจุดหมายอย่างไร้กังวลท้ัง NORMAL (ถนนทั่วไป), WET (ถนนเปียก), GRAVEL (ถนนลูกรัง), TARMAC (ถนนลาดยาง), MUD (ถนนโคลน),CHARGE (โหมดการชาร์จ), EV PRIORITY (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%)
เพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่และเพิ่มระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวา ออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC) ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับแม่นยำ ปลอดภัยกว่าด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่นช่วงล่างหนึบมั่นใจด้านหน้ามีติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้คเพิ่มความแข็งแกร่งด้านหลัง เพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่
พร้อมความปลอดภัยครบครันไม่ว่าจะเป็น ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ป้องกันการลื่นไถล (TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) กระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) เสริมแรงเบรก (BA) ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า กล้องมองภาพด้านหลัง และใหม่!! ดิกส์เบรกสี่ล้อ
Mitsubishi XPANDER HEV รุ่น GT ประกอบในประเทศไทย มีสีตัวถังมีให้เลือก 4 สี คือ สีขาว (White Diamond) สีเงิน (Blade Silver) สีเทา (Graphite Gray) และสีดำ (Jet Black Mica) ในราคาพิเศษถึง 7 เมษายนเพียง 912,000 บาท (ราคาปกติ 933,000 บาท) พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ตร้า แคร์ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านสามารถครอบครองและขับขี่รถทั้งสองรุ่นใหม่นี้โดยไม่ต้องกังวล ได้แก่
- การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- แพ็กเกจบำรุงรักษานาน 5 ปี
- ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็คระยะตลอด 5 ปี
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี
- พร้อมกับประกันภัยชั้น 1 ฟรีหนึ่งปี
เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด บริษัทฯ จึงขยายการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฮบริด ยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางและขยายการรับประกันพิเศษสำหรับแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริดในปีที่ 6-10 โดยไม่จำกัดระยะทาง