เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ Toyota Corolla Cross รุ่นปรับโฉมที่ขอแนะนำรุ่นท็อปขายดีนั่นคือ Toyota Corolla Cross Premium Series
รุ่นท็อป Premium Series ของ Toyota Corolla Cross มาด้วยกันถึงสองรุ่นย่อยทั้ง HEV Premium และรุ่น HEV Premium Luxury ด้วยหน้าตาใหม่ที่แรกของโลกที่ได้ใช้ก่อนใครในไทยเริ่มที่ ไฟหน้าแบบ LED ใหม่พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights LED แบบ Light Guiding พร้อมควบคุมการเปิด–ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ Follow-Me-Home พร้อมไฟเลี้ยววิ่งแบบ Sequential บนขอบไฟหน้า กระจังหน้าตัวเด่นมีช่องระบายอากาศดีไซน์รังผึ้งพร้อมโลโก้สามห่วง สีเดียวกับตัวรถ พร้อมการตกแต่งกระจังหน้าแบบสีเทากับโครเมียม รับกับกันชนหน้าสีทูโทนพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED อยู่ตำแหน่งเดียวกับช่องะระบายอากาศด้านล่างใต้ตำแหน่งป้ายทะเบียน
ไฟท้าย LED Light Guiding สีขาวแดง ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED กันชนหลังทรงสปอร์ต ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated ในรุ่น HEV Premium Luxury ติดตั้งราวหลังคา หลังคาพาโนรามิกมูนรูฟ แบบ Frameless และ ล้ออัลลอยลายหรูปัดเงาทูโทน ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R18 ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน TNGA มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,460 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,825 มิลลิเมตร ความสูง 1,620 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 161 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,385-1,430 กิโลกรัม และ ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
ภายในปรับใหม่ตั้งแต่จอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาดใหม่ 10.1 นิ้ว รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆแทนขนาด 9 นิ้ว พร้อมกับ Wi-Fi รองรับการไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ช่องเสียบ USB Type A และ Type C ไฟสร้างบรรยากาศภายในแบบ LED สว่างทั้งคัน มาตรวัดดิจิทัลใหม่ TFT ขนาด 12.3 นิ้วแบบเดียวกับ Corolla ALTIS MY2023 ที่ขายในไทยสามารถปรับแต่งได้หลากหลายสไตล์ปรับได้ตามความชอบกับหน้าจอ 4 สไตล์ Casual, Smart, Tough, Sporty และเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีแดงเข้ม Dark Rose และสีดำ ขึ้นกับสีภายนอก และ
พร้อมออปชันเดิมทั้ง พวงมาลัยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone ปรับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) พร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Entry) เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 487 ลิตรที่วางแก้วน้ำ ช่องต่อ USB Type Cสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury ติดตั้งกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย และม่านบังแดดปรับไฟฟ้าในตำแหน่งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
ขุมพลังสำหรับเวอร์ชันไทยยังคงเดิมเริ่มที่เบนซินไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE เพิ่มประสิทธิภาพไฮบริดเพื่อในการใช้เชื้อเพลิงที่ต่ำเพิ่มกำลังสูงถึง 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิด มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ไฮบริดชนิด นิกเกิลเมตัลไฮดราย ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์ (3 ชั่วโมง) เมื่อทำงานร่วมกันทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า มีโหมดการขับขี่ทั้ง EV, POWER, NORMAL และ ECO MODE ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ช่วงล่างยังเป็นแบบด้านหน้ามาแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง คอยล์สปริง และช็อคแอบซอร์บเบอร์ทั้งหน้าและหลัง กับ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)
ความปลอดภัย Toyota Safety Sense ให้หมด มีทั้ง All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist ระบบควบคุมและปรับลดอัตโนมัติ ได้ถึง 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, Lane Departure Alert with Steering Assist เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ, Pre-Collison system ระบบความปลอดภัยก่อนการชน, Automatic High Beams ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ ใหม่!! เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic view monitor) และช่วยเตือนขณะจอดรถพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB
พร้อมออปชันความปลอดภัยพื้นฐาน ในรุ่น HEV Premium Luxury ให้ทั้ง ใหม่! สัญญาณกะระยะการจอดรถ หน้าและหลังอย่างละ 4 จุด พร้อมกล้องวีดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์หน้า-หลัง ในรุ่น HEV Premium ให้สัญญาณกะระยะการจอดรถ หน้า 2 จุด หลัง 4 จุด ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับมุมมองขณะถอยหลัง Reverse Link
ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist Control สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน Emergency Brake Signal ป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System) ควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System) กระจายแรงเบรก EBD พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS กุญแจนิรภัย Immobilizer กล้องมองภาพด้านหลัง ถุงลมเสริมความปลอดภัยรอบคัน SRS 7 ตำแหน่ง และแจ้งเตือนลมยาง TPMS
พี่บึ้งสุดหล่อรุ่นท็อปมีสีภายนอก 5 สี ได้แก่สีเทาใหม่ Cement Gray Metallic, สีเทา Celestite Gray Metallic, สีขาวมุก Platinum White Pearl เพิ่มเงิน 10,000 บาท, สีบรอนซ์เงิน Metal Stream Metallic และสีดำ Attitude Black Mica ในราคาดังนี้
- รุ่น HEV Premium Luxury ราคา 1,204,000 บาท
- รุ่น HEV Premium ราคา 1,094,000 บาท