เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ LEXUS LBX หล่อหรูสไตล์เดียวกับรุ่นพี่ในค่ายมาพร้อมพลังไฮบริดพัฒนาใหม่ให้ความประหยัดดีเยี่ยม
ภายนอกดูดีตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สไตล์ Lexus แบบ Unified Spindle ส่วนบนแบบมีคิ้วเสริมไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL ในโคมเดียวกันรูปตัว L แบบสามมิติ พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Turning Lamps พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Turning Lamps ชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่แบบรังผึ้งรูปตัว Z ไฟหน้า LED พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
กระจกมองข้างดีไซน์ทรงสปูน ไฟท้าย LED แนวยาวรูปตัว U มีตราตัวอักษร Lexus ติดท้ายมาด้วย ลงตัวด้วยกันชนหลังทรงเท่ หลังคารถให้เลือกทั้งสีโมโนโทนและสีทูโทนดำพร้อมคิ้วโครเมียมส่วนบน ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60R17 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R18
ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน TNGA-B เดียวกันกับ Toyota Yaris Cross เวอร์ชันยุโรป ให้ความแข็งแกร่ง น้ำหนักเบา ด้วยมิติตัวรถที่สมส่วนตั้งแต่ความยาว 4,190 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,825 มิลลิเมตร ความสูง 1,550-1,560 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,580 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,280-1,340 กิโลกรัม ระยะต่ำสุดจากพื้น 220 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
ภายในหรูหราลักชัวรีนั่งสบาย 5 ที่นั่ง พรั่งพร้อมด้วยการตกแต่งสไตล์ LEXUS ตั้งแต่ชุดคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายด้วยช่องแอร์แนวยาวตั้งแต่แผงประตูจนถึงคอนโซลหน้า มาตรวัดดิจิทัลแบบคริสตัลขนาดใหญ่ ทั้งแบบ 7 นิ้วและ 12.3 นิ้ว จอ HUD บนแผงคอนโซลหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านหุ้มหนัง หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ เหนือคอนโซลหน้า Head Up Display
จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 9.8 นิ้ว เป็นศูนย์รวมการทำงานของระบบความบันเทิงเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพงคุณภาพ 6 จุด ไฟส่องสว่างภายใน ambient illumination 64 สี ช่องเสียบ USB-C รวมกัน 5จุด หน้า 3 จุด หลัง 2 จุด พร้อม ช่องเสียบ DC 12 Volt ด้านหน้า ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ระบบไฟส่องสว่างภาย เบาะนั่งหรูด้วยวัสดุหุ้มกึ่งหนังแท้ด้วยโทนสีขาว ดำ ดำเข้ม น้ำตาล และสีเทาเข้มรวมถึงเบาะหลังที่มีช่องแอร์และปรับพับได้ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกมากและพื้นที่ด้านท้ายบรรทุกในกรณีไม่พับเบาะมากถึง 332 ลิตร และโทนสีภายในมีให้เลือกถึงสี่สี่ ในรุ่น PREMIUM สีแทน Saddle Tan สีดำ Black ส่วนรุ่น LUXURY สีน้ำตาลอ่อน Mauve และสีขาว Solis White
ขุมพลังยกมาจาก Toyota Yaris Cross เวอร์ชันทั่วโลกมากับเบนซิน Dynamic Force Hybrid M15A-FXE 1.5 ลิตร 90แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 120 นิวตันเมตรที่ 3,800-4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid System II (THS II) แรงดันไฟฟ้า 201.6 V 1NM 92 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Nickel Metal Hydrive 4.3 Ah ให้กำลังรวมถึง 134 แรงม้า แรงบิดรวม 185 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ให้ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.2 วินาทีให้อัตราสิ้นเปลือง 26.32 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมโหมดการขับขี่ ECO Normal และ EV
พร้อมความปลอดภัย LEXUS Safety System + ทั้ง ป้องกันก่อนการชน Pre-collision Safety System (PCS) ติดตามช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) สัญญาณเตือนด้านท้าย ขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ทุกย่านความเร็ว) Dynamic Radar Cruise Control (With full speed range) ตรวจสอบจุดอับสายตา Blind Spot Monitor (BSM) ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ Adaptive High-beam System (AHS) ไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
ช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA) ติดตามช่องทางการวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) กลอนประตูอัจฉริยะและความปลอดภัยเมื่อลงจากรถ E-Latch Door Handle with Safe Exit Assist (SEA) ลดแสงสะท้อนอัตโนมัติสำหรับกระจกมองหลังและกระจกข้าง Electro Chromic (EC) inside and outside rear view mirrors ช่วยจอดพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ Parking Assist system with Parking Support Brake (PKSB) กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด Back monitor เตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Warning
ถุงลมเสริมความปลอดภััย SRS รอบคัน 7 จุด ควบคุุมการทรงตัวของรถ (VSC) Vehicle Stability Control ป้องกันการลื่่นไถล (TRC) Traction Control เบรกแบบป้องกันล้อล็อก (ABS) Anti-lock Brake System กระจายแรงเบรกไฟฟ้า (EBD) Electronic Brake Force Distribution ระบบช่วยเบรก (BA) Brake Assist system ดิสก์เบรกสี่ล้อ ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control
LEXUS LBX โชว์ตัวจริงที่ Bangkok Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน มีสีภายนอกทั้ง สีขาว Sonic Quartz สีบอรนซ์เงิน Silver Metallic สีเทาลัมโบ Astro Gray Metallic สีเทาเข้ม Sonic Chrome สีดำ Black Mica สีแดง Red Spinel สีน้ำตาล Sonic Copper สีเหลือง Passionate Yellow และสีน้ำเงิน Deep Azure Mica Metallic ในราคาพิเศษถึงวันที่ 7 เมษายน
- รุ่น Luxury ราคา 2,190,000 บาท (ราคาปกติ 2,229,000 บาท)
- รุ่น Premium ราคา 2,350,000 บาท (ราคาปกติ 2,390,000 บาท)
