รุ่นรถของ ISUZU D-MAX ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและขายดีตรงใจคนสร้างตัวกับรุ่นตัวเตี้ยตั้งแต่รุ่น Spark ตอนเดียว SPACECAB และ Cab 4 สี่ประตู
ล่าสุด ISUZU พร้อมที่จะยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของไทยดีขึ้นด้วย ISUZU D-MAX เครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย EURO5 ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอร์เตอร์
กล่าวคือ ISUZU D-MAX มาตรฐานยูโร 5 สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue ต่างกับเทคโนโลยีบำบัดไอเสียอื่นๆที่ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสีย เช่น AdBlue ตลอดการใช้งาน เป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่ายแก่ผู้ใช้รถ
โดยใช้พื้นฐานของสองขุมพลังยอดนิยมทั้งดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS TURBO รุ่น 4JJ3-TCX E5 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีและดีเซลเทอร์โบแปรผัน VGS ขนาด 1.9 ลิตร รุ่น RZ4E-TC E5 ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic พร้อมระบบปิดการทำงานรถยนต์ชั่วคราวอัตโนมัติ Auto Start/Stop
ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐานและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time Terrain Commandในรุ่น Spark 4×4 ล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า Diff-Lock ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L ช่วงล่างแกร่งทนเกาะถนนเหนือชั้นเพื่อดุลยภาพในการขับขี่ทั้งขณะรถเปล่า และบรรทุกหนัก
ปรับใหญ่เริ่มที่ ฝากระโปรงจดกันชนหน้า กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวซ่อนรูป 2 ชั้น ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่แบบ 3-Dimension สีเงิน Silky Silver และ สีเทาเข้มDark Grey สอดรับกับไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน ในรุ่น Z และ LDA ส่วนรุ่น SDA ได้กระจังหน้าสีดำและสีเทา พร้อมไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์
ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ผสมผสานกันกับช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า LED ในรุ่น Z และไฟตัดหมอกหน้าในรุ่น LDA ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED ในรุ่น Z และ LDA กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ในรุ่น Z และ LDA
ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/70R16 ในรุ่น Z (สีเงินทูโทน) และ LDA (สีเงิน) ส่วนล้อและยางขนาดอื่นยังคงเดิมทั้งกระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 215/70R15 ในรุ่น SDA และ B และกระทะล้อขนาด ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205R16C ในรุ่น Spark 4×4 SDA
ภายในสะดวกสบายสไตล์พรีเมียมโดดเด่นด้วย “Miura” Design หรูหรามีมิติ ภายใต้แนวคิด High-Class & Sophisticated แผงคอนโซลหน้า Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ตามหลัก Usability Design เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทางด้วยโทนสีดำเงิน และดำ ชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน ในรุ่น Z
ส่วนรุ่น LDA กับรุ่น SDA ได้มาตรวัดความเร็วและรอบเครื่องขนาดใหญ่พร้อมจอแสดงข้อมูลดีไซน์ใหม่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทางแบบ Tilt & Telescopic ดีไซน์ใหม่ พร้อม Cruise Control ในรุ่น Z หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 8 นิ้วรองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay
ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID ในรุ่น Z และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ในทุกรุ่น ช่องเสียบชาร์จ Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง
พร้อมออปชันเดิม ระบบเสียงรอบทิศทางเลือกได้ตั้งแต่ 2 จุด, 6 จุด และ 8 จุด Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Semi Mode Control พร้อมช่องแอร์ด้านหลังในรุ่น Cab4 Z สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 และไฟส่องแผนที่พร้อมกล่องเก็บแว่นตาบนแผงหลังคาขึ้นรูป
มั่นใจทั้งระบบความปลอดภัยทั้งระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน BA กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับเบาะหลังในรุ่น 4 ประตู ระบบ BOS (Brake Override System) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ESS (Emergency Stop Signal) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และ Spark 4×4 ติดตั้งระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมทั้งระบบควบคุมการทรงตัว ESC ป้องกันการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) *ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) *ยกเว้นรุ่น Spark 4×4
กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ในรุ่น Cab4 Z
มีสีทั้งหมด 3 สี ตั้งแต่ สีเทาโอเพค (Islay Gray Opaque, สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) และสีขาวไซบิเรียนไวท์ Siberian White ราคาจำหน่ายดังนี้
Cab4 สี่ประตูขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐาน เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,000 บาท
- รุ่น 1.9 Z ราคา 890,000 บาท (เดิม 875,000 บาท)
- รุ่น 1.9 LDA Auto ราคา 864,000 บาท (เดิม 849,000 บาท)
- รุ่น 1.9 LDA ราคา 824,000 บาท (เดิม 809,000 บาท)
- รุ่น 1.9 SDA Auto ราคา 786,000 บาท (เดิม 771,000 บาท)
- รุ่น 1.9 SDA ราคา 746,000 บาท (เดิม 731,000 บาท)
– SPACECAB ตอนครึ่งขับเคลื่อนสองล้อมาตรฐาน เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,000-20,000 บาท
- รุ่น 1.9 LDA Auto ราคา 768,000 บาท (เดิม 753,000 บาท)
- รุ่น 1.9 LDA ราคา 728,000 บาท (เดิม 713,000 บาท)
- รุ่น 3.0 SDA ราคา 693,000 บาท (เดิม 673,000 บาท)
- รุ่น 1.9 SDA Auto ราคา 705,000 บาท (เดิม 690,000 บาท)
- รุ่น 1.9 SDA ราคา 665,000 บาท (เดิม 650,000 บาท)
– Spark ตอนเดียว เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,000-20,000 บาท
- รุ่น 3.0 S 4WD ราคา 747,000 บาท (เดิม 727,000 บาท)
- รุ่น 3.0 S ราคา 655,000 บาท (เดิม 635,000 บาท)
- รุ่น 1.9 S Auto ราคา 672,000 บาท (เดิม 657,000 บาท)
- รุ่น 1.9 S ราคา 632,000 บาท (เดิม 617,000 บาท)
- รุ่น 1.9 B ราคา 592,000 บาท (เดิม 577,000 บาท)
- รุ่น 1.9 B Flat Deck ราคา 689,000 บาท (เดิม 674,000 บาท)
- รุ่น 1.9 Cab Chassis Auto Refrigerator ราคา 595,000 บาท (เดิม 580,000 บาท)
- รุ่น 1.9 Cab Chassis Refrigerator ราคา 560,000 บาท (เดิม 545,000 บาท)
- รุ่น 1.9 Cab Chassis ราคา 555,000 บาท (เดิม 540,000 บาท)
พร้อมแคมเปญมอเตอร์โชว์ผ่นอนเริ่มต้น 5,xxx บาท/เดือน (สำหรับปีแรก) ในรุ่น Cab4 ผ่อนเริ่มต้น 4,xxx บาท/เดือน (สำหรับปีแรก) ในรุ่น SPACECAB และ Spark
แพ็กเกจอีซูซุสมาร์ทโพรเทคชั่น มูลค่าสูงสุด 11,000 บาท ขยายระยะเวลาคุ้มครองรถสูงสุดเป็น 7 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน) เฉพาะลูกค้าอีซูซุลิสซิ่งที่เป็นสมาชิก “อีซูซุ ยิ่งเข้า ยิ่งคุ้ม” และเป็นผู้ซื้อรถในฐานะ “เจ้าของคนแรก (First Owner)” และ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน) สำหรับลูกค้าทั่วไปของอีซูซุลิสซิ่ง
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี (Roadside Assistance) และ ผ่อนชำระตรงเวลาภายในระยะเวลา 6 งวดแรก รับคูปองสำหรับเข้าศูนย์บริการอีซูซุ มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 3 ใบ รวมมูลค่า 3,000 บาท บนแอพ my-ISUZU และรับส่วนลด 10,000 บาท ลูกค้าอีซูซุสมาชิก “ยิ่งเข้า ยิ่งคุ้ม” ระดับโกลด์ และ แพลตทินั่ม รับส่วนลดเพิ่ม 8,000 บาท สำหรับแคมเปญสุขยกบ้าน
* สีขาวมุก หรือ สีเมทาลิค เพิ่มเงิน 7,000 บาท