เป็นไปตามคาดเมื่อ Nissan เปิดตัว Nissan Navara รุ่นปรับปรุงใหม่ MY2024 ไม่ใช่รุ่นปรับโฉมตามที่สื่ออื่นๆนำเสนอและฟิลิปปินส์เปิดตัวก่อนใครในอาเซียน
หน้าเดิมไม่เปลี่ยนเริ่มที่กระจังหน้าแบบ Interlock โครเมียมโดดเด่นด้วยชื่อรุ่น Navara และตราโลโก้ Nissan เดิม พร้อมไฟหน้าแบบ Quad-eye LED 4 มีไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light รูปตัว C ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าทรงสปร์ตเสริม พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED มือจับประตู แร็คหลังคา บันไดข้าง มือจับประตูโครเมียม และได้ไฟท้าย LED light guide แบบเส้นเดียว กันชนหลังเพิ่มสเต็ปด้านท้ายรถสะดวกสบายในการใช้งานขึ้นลง ล้อและยางมีให้เลือกตั้งแต่ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65R17 ทั้งแบบ H/T และ A/T YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 ในรุ่น PRO4-X และขนาดใหญ่ปัดเงาขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 255/60 R18
พร้อมการตกแต่งตามบุคลิกกับ Nissan Navara Pro4X ด้วยชุดแต่งดำทั้งคันตั้งแต่ กระจังหน้าแบบ Interlock โทนดำโดดเด่นพร้อมตราโลโก้ Nissan สีส้มแดงกันชนหน้าทรงสปร์ตเสริมคิ้วชายล่างกันชนหน้าสีดำ ส้มแดง ล้ออัลลอยสีดำเข้มขนาด 17 นิ้ว คิ้วขอบล้อสีดำขลิบส้มแดง ดุดัน มือจับประตู แร็คหลังคา บันไดข้างตกแต่งด้วยสีดำ เสาอากาศครีบฉลาม
ภายในตามคาดด้วยการยกแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดจาก Nissan Terra รุ่น E ตกแต่งหนังสัมผัสดำเดินด้ายบริเวญคอนโซล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน มาตรวัดเรืองแสง TFT 7 นิ้วจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วจอใหญ่ พร้อม Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ฟังเพลงผ่าน Bluetooth, ระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) เชื่อม Apple CarPlay แบบไร้สาย Android Auto จุดช่องชาร์จ USB มี USB-A 3 จุด และ USB-C 2 จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ด้านหลัง
พร้อมเบานั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้าในด้านคนขับพร้อม QUOLE MODURE ช่วยสะท้อนความร้อนทุกตำแหน่ง ช่องแอร์ช่องหลัง เบาะนั่งหลังในรุ่น Double Cab เพิ่มที่พักแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งและหมอนรองศีรษะตรงกลาง เหนือกว่าคือความเงียบเมื่ออยู่ในห้องโดยสารด้วยกระจกหน้าและข้างตอนหน้าเป็นแบบเก็บเสียงหรือ Acoustic Glass
ดีเซลเทอร์โบแปรผันสำหรับฟิลิปปินส์ยังคงเดิมด้วยขนาด 2.5 ลิตร ในรหัส YD25DDTTI แรงสุด190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที และดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.5 ลิตร รุ่น YD25DDTI 163 แรงม้า ที่ 3600 รอบต่อนาที แรงบิด 403 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ทั้งแบบขับคเลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD Part-Time พร้อมล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า Electronic Rear Locking Differentialพร้อมช่วงล่างหลังแบบคอล์ยสปริง 5-link
ความปลอดภัยรอบคันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ 360 Safety Shield กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ทำงานคู่กับเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) เทคโนโลยีความปลอดภัยด้วยช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงหรือ Advance Driver Assistance System (ADAS) ทั้ง เทคโนโลยีเตือนเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
เตือนคนขับอัจฉริยะ (Intelligent Driver Alertness-IDA) เตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) ควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention) เตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) ตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) และเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam-AHB)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทุกรุ่นทั้งระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง (TSA) ป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (ABLS) จุดยึดที่นั่งเด็กสำหรับเบาะหลัง ISOFIX ในรุ่น Double Cab ล็อกความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และสัญญาณกะระยะการจอดด้านหลัง พิเศษรุ่น PRO4-X กับ PRO2-X ได้ถุงลมนิรภัย 6 จุด รุ่น PRO4-X ได้ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และจอมอนิเตอร์ระบบ Off-Road Meter
Nissan Navara MY2024 นำเข้าจากไทยประกอบที่โรงงานบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 22 เปิดขายแล้วที่ฟิลิปปินส์ 8 รุ่นย่อยในร่าง 4 ประตู Double Cab ทั้งรุ่น EL, VE Calibre, VL, Calibre-X และ PRO4-X ในราคาเริ่มต้น Php 1,115,000-Php 1,850,000 หรือราว 705,000-1,165,000 บาท ส่วนเมืองไทยเป็นไปได้สูงที่จะเปิดตัวภายในปีนี้คาดว่าเป็นช่วงกลางปีก่อนที่เจเนอเรเชันใหม่จะตามมา
ทีมาภาพ Nissan North EDSA – Autospeedygo