เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ขับรถสีแดง มักจะเจอกับปัญหานกชอบมาขี้ใส่รถอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะย้ายที่ไปจอดตรงไหน นกก็จะตามมาขี้ใส่ทุกครั้ง จนเกิดเป็นข้อสงสัยว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือจริง ๆ แล้ว นกชอบขี้ใส่รถสีแดงมากที่สุด วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกัน
จากการศึกษาวิจัยของ Halfords บริษัทประดับยนต์ของอังกฤษ ซึ่งบันทึกจำนวนครั้งที่นกถ่ายอุจจาระในรถยนต์ประมาณ 1,140 คัน ใน 5 เมืองของอังกฤษ พบว่า รถสีแดงมีโอกาสถูกนกขี้ใส่รถมากที่สุดถึง 18% รองลงมาคือสีน้ำเงิน 14% สีดำ 11% สีขาว 7% สีเทา 3% และรถสีเขียวมีโอกาสถูกนกขี้ใส่น้อยที่สุดเพียง 1%
สาเหตุที่นกชอบขี้ใส่รถสีแดงมากที่สุด นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีทฤษฎีที่เป็นไปได้หลายประการ
- สีสันของรถ : นกชอบขี้ใส่รถสีแดงมากที่สุด เพราะนกอาจมองว่ารถสีแดงเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้ง่าย จึงมีโอกาสถูกนกขี้ใส่มากกว่าสีอื่น ๆ
- การสะท้อนแสงของรถ : แสงสะท้อนจากรถสีแดงอาจทำให้นกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหารหรือแหล่งน้ำ
อย่างไรก็ตาม การที่นกชอบขี้ใส่รถสีแดงนั้น ไม่ได้หมายความว่ารถสีอื่น ๆ จะปลอดภัยจากขี้นกเสมอไป นกอาจขี้ใส่รถสีอื่น ๆ ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อม พฤติกรรมของนก และโชคชะตาของผู้ขับขี่
ขี้นก ทำให้สีรถด่างได้ ต้องรีบล้าง!
ขี้นกมีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง ซึ่งสามารถทำลายชั้นเคลือบผิวสีรถได้ หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ บริเวณที่ขี้นกกระเด็นใส่จะกลายเป็นรอยด่างหม่น ๆ สีรถจุดนั้นจะดูเก่าลง และอาจทำให้สีรถลอกได้ นอกจากนี้ขี้นกยังอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หากสัมผัสกับขี้นกโดยตรง
วิธีป้องกัน ขี้นก
- ไม่จอดรถใต้ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือสายไฟ : นกมักชอบเกาะพักอาศัยตามต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือสายไฟ หากเราจอดรถอยู่ใกล้สิ่งเหล่านี้ นกอาจบินมาขี้ใส่รถได้
- ติดอุปกรณ์ไล่นก : มีอุปกรณ์ไล่นกหลายชนิด เช่น หัวฉีดน้ำ นกหวีด แผ่นสะท้อนแสง แผ่นสะท้อนรังสีอินฟราเรด เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยไล่นกไม่ให้มาเกาะหรือบินใกล้รถ
- เคลือบแก้วรถเพื่อความสบายใจ : การเคลือบแก้ว ทำให้ขี้นกเกาะติดได้ยากขึ้น และหากขี้นกตกใส่รถ ก็สามารถเช็ดออกได้ง่ายกว่ารถที่ไม่ได้เคลือบแก้ว แต่ก็ควรรีบไปล้างรถอยู่ดี เพราะหากทิ้งไว้นานก็ทำให้สีด่างได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
แชร์เทคนิค “ขับรถหน้าฝน” ให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง
แนะนำ 6 ข้อควรรู้ สำหรับมือใหม่ ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day