ในที่สุด Toyota อังกฤษ โดยทาง Toyota Motor Manufacturing UK ได้ประกอบกระบะไฮโดรเจนไฟฟ้าอย่าง Toyota Hilux FCEV เป็นที่เรียบร้อยทั้งหมด 10 คัน
Toyota Hilux FCEV ประกอบที่เมือง Derbyshire และยังเป็นรถ PP หรือ Pre-Product ทั้ง 10 คันแบ่งเป็น 2 กลุ่มโดยกลุ่มแรก 5 คัน ใช้สำหรับการทดสอบการใช้งานจริงตามสภาพถนนทั่วโลกอย่างเข้มงวดเพื่อประเมินความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ฟังก์ชันการทำงาน และความทนทาน ส่วนกลุ่มที่ 2 อีก 5 คันนั้นใช้สำหรับโรดโชว์จัดแสดงแก่ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับและยังเข้าร่วมอีเวนท์ใหญ่อย่างงานมหกรรมกีฬาโลก Olympic 2024 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม และ Paralympic Games 2024 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 8 กันยายน ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ภายนอกหล่อเดิมตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมโครเมียม ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ รับกับกันชนหน้ากลมกลืมลงตัวพร้อมไฟตัดหมอกหน้า กระทะล้อสีดำขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 265/65R17 ไฟท้ายแบบ LED 3 Light Guiding ฝากระบะท้ายและกันชนหลังคงเดิม โดยนำพื้นฐานรุ่น Smart Cab แค็ปตอนครึ่งยกสูงขับเคลื่อนสี่ล้อ มาทั้งหมดโดยมีมิติตัวรถดังนี้ ความยาว 5,325 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,855 มิลลิเมตร ความสูง 1,810 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร ทางด้านพื้นที่กระบะภายใน มีตั้งแต่ความยาว 1,840 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,540 มิลลิเมตร และความสูงกระบะท้าย 480 มิลลิเมตร
ภายในเหมือนรุ่นปกติทั้ง ดีไซน์คอนโซลกลางโดยเฉพาะคอนโซลเกียร์ด้วยด้ามจับเกียร์ขนาดเล็ก เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold พวงมาลัยสามก้านปรับระดับได้ 4 ทิศทาง มาตรวัดความเร็ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับ Apple CarPlay Android Auto สะดวกสบายรองรับทุกความบันเทิง แผงคอนโซลหน้าดีไซน์เดิมพร้อมเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อม Full Mode ทิศทางลม 5 รูปแบบมอบความเย็นสบายทั้งคัน
ขุมพลังถอดเครื่องยนต์ดีเซลออกไปใส่ขุมพลังไฮโดรเจนที่ยกมาจาก Toyota Mirai เจเนอเรชันที่สองด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังมากถึง 185 แรงม้าที่ 6,940 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 0-3,267 รอบต่อนาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ผนวกกับถังไฮโดรเจนน้ำหนักถังๆละ 2.6 กิโลกรัม จำนวน 3 ถัง ซ่อนใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้งมากกว่า 600 กิโลเมตร (สเปกเดิมจากรุ่น Mirai วิ่งไกลสุด 647 กม.) โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที
กระบะพลังไฮโดรเจนคันนี้นี้ทาง Toyota Motor Manufacturing UK ได้รับความช่วยเหลือจากทีม R&D ของ Toyota Motor Europe พร้อมด้วยพันธมิตรไม่ว่าจะเป็น Ricardo บริษัทด้านวิศวกรรมที่คอยสนันสนุนทางด้านเทคนิคของเซลล์เชื้อเพลิงและโครงแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ ladder-frame chassis, ETL ที่ช่วยพัฒนาระบบควบคุมความร้อน, D2H พัฒนาทางด้านอุณหพลศาสตร์วิศวกรรมด้านอุณหภูมิและด้านความร้อน และ Thatcham Research พัฒนาด้านความปลอดภัยและการรับประกัน โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลอังกฤษ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางภาครัฐ Advanced Propulsion Center (APC) ที่มีนโยบายริเริ่มพัฒนายานยนต์ที่จำหน่ายในอังกฤษสามารถปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ด้วยเงินลงทุนวิจัยและพัฒนาถึง 11.3 ล้านปอนด์หรือราว 483 ล้านบาท จากยานยนต์ที่เป็นแนวคิดกลายเป็นต้นแบบและขายจริงในอนาคตเตรียมจะขายจริงในอนาคตแต่จะเป็นช่วงไหนนั้นต้องติดตาม
ที่มา Toyota
