เซียนหุ้นจาก บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ให้ราคาเป้าหมายที่ระดับ 10.40 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 เติบโตโดดเด่น พุ่งทะยาน 308% รับอานิสงส์ค่าการตลาดน้ำมันสดใส-ยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้น-ธุรกิจ Non-Oil หนุน พร้อมปรับเพิ่มกำไรปี 67 เป็น 1.2 พันล้านบาท และปี 68 เป็น 1.45 พันล้านบาท ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ชู PTG เป็นตัวเลือกหุ้นพลังงานที่งบ Q2/67 แข็งแกร่ง และรับประโยชน์จากการปรับฐานของราคาน้ำมันดิบช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แนะนำ “เก็งกำ ไร” ให้ราคาเหมาะสม 9.90 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) โดยคาดการณ์แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 ของ PTG ไว้ที่ 453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308% เทียบ YoY,และเพิ่มขึ้น 76% เทียบ QoQ รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าการตลาดน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.72 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 8% เทียบ YoY และเพิ่มขึ้น 11% เทียบ QoQ พร้อมคาดการณ์อัตรากำไรขึ้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จาก 21.4% เป็น 22.3% เนื่องจากยอดขายจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยสูงขึ้นตามจำนวนสาขาที่มากขึ้น
ดังนั้นจึงพิจารณาปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี 2567 ขึ้นอีก 8% เป็น 1.2 พันล้านบาท และปรับประมาณการกำไรทั้งปี 2568 เพิ่มขึ้น 9% เป็น 1.45 พันล้านบาท จากสมมติฐานปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 10.40 บาทต่อหุ้น
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ โดยประเมินกำไรปกติ Q2/67 อยู่ที่ 420 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 63% เทียบ QoQ และเพิ่มขึ้น 278% เทียบ YoY แม้คาดว่า 1.จะมีค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้น 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบ QoQ โดยค่าใช้จ่ายต่อลิตรขยับขึ้นเป็น 1.7 บาท/ลิตร (เทียบ 1.6 บาท/ลิตรในช่วงที่ผ่านมา) เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างขยายธุรกิจ Non-Oil และทำการตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการยังเติบโตได้ดี เมื่อเทียบ QoQ และ YoY จาก 2. ปริมาณขายน้ำมันและ LPG ที่คาดจะทำ ได้ 1.7 พันล้านลิตร และ 172 ล้านลิตร ทรงตัวเมื่อเทียบ QoQ แต่เพิ่มขึ้น 12% เทียบYoY ตามลำดับ จากการขยายสาขา และอุปสงค์ในประเทศฟื้นตัว 3. อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจน้ำมันคาดทำได้ 1.72 บาท/ลิตร (เพิ่มขึ้น11% เทียบ QoQ และเพิ่มขึ้น 8% เทียบ YoY) 4. กำไรขั้นต้นธุรกิจ Non-oil คาดเติบโตเพิ่มขึ้น 6% เทียบ QoQ และ เพิ่มขึ้น 42% เทียบ YoY และ 5.ส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นเป็น 40 ล้านบาท (vs ขาดทุนใน Q1/2567) จากการฟื้นตัวของธุรกิจน้ำมันปาล์ม ธุรกิจเรือน้ำมัน และธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q3/2567 คาดชะลอตัวเมื่อเทียบ QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลเพราะเป็น Low Season ของธุรกิจน้ำมันในช่วงฤดูฝน โดยที่ผ่านมาปริมาณขายน้ำมัน Q3 จะลดลง 5-15% เทียบ QoQ แต่ผลการดำเนินงานจะสามารถ กลับมาเติบโตอีกครั้งช่วง Q4/2567 จากกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยว หาก Q2/2567 เป็นไปตามคาดกำไรสุทธิ 1H2567 จะคิดเป็น 62% ของประมาณการทั้งปี
นอกจากนี้ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 1.1 พันล้านบาท (+17% เทียบ YoY) โดยรับแรงหนุนจาก 1.ยอดขายน้ำมันได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน – การท่องเที่ยว 2.เป้าหมายขยาย Touchpoint ทั้งธุรกิจน้ำมัน และ Non-Oil และ 3.กลยุทธ์ปรับปรุงสถานีให้ตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น และเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติม
แนะนำ “เก็งกำไร” เป็นตัวเลือกหุ้นพลังงานที่งบ Q2/2567ยังแข็งแกร่ง เมื่อเทียบ QoQ และ YoY รวมทั้งยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับฐานของราคาน้ำมันดิบในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ราคาเหมาะสม 9.90 บาท