Honda N-VAN e: มินิคาร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ชาวญี่ปุ่นทุกอาชีพต่างสนใจและพร้อมนำมาเป็นคู่คิดทางธุรกิจพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคม
หลังเปิดราคาจำหน่ายไปทาง Honda จัดกรุ๊ปเทสยลโฉมจริงให้สื่อรถยนต์ชาวญี่ปุ่นได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงของ Honda N-VAN e:
ภายนอก Exterior
หล่อไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นก็คือกระจังหน้าที่เคยมีช่องระบายอากาศกลายเป็นทรงทึบๆสีเข้มๆแทน โดยมีช่องชาร์จด้านหน้าประกบกับไฟหน้าตราเพชรมัลติรีเฟลกเตอร์ ล้อกระทะสีดำขนาด 13 นิ้วพร้อมยางขนาดเล็ก 145/80R13 ประตูสไลด์สองข้างพร้อมดีไซน์แนวนอนสามเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและหลังคารถทรงสูงโล่งโปร่งสะดวกในการบรรทุกของเข้าออกดีขึ้น และปรับความสูงของตัวรถเตี้ยลงอีก 120 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
ภายในมีออปชันตามความจำเป็นทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้าน มาตรยวัดความเร็ว LCD ขนาด 7 นิ้ว คันเกียร์แบบกดปุ่ม Shift By Wire อยู่ในชุดแผงคอนโซล ช่องเสียชาร์จสมาร์ตโฟน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์แนวนอน เอกลักษณ์ที่ชวนอยากเป็นเจ้าของด้วยไม่มีเสา B มาคั่นกลางในฝั่งด้านซ้ายรวมถึงเบาะนั่งด้านหน้าฝั่งคนนั่ง และเบาะหลังตอนที่สองนั้นพับลงได้แบบแนวราบ เหลือเพียงส่วนของเบาะคนขับ พร้อมที่จะบรรทุกได้เต็มรูปแบบมาแบบโทนสีเทาและสีครีม
พร้อม Honda CONNECT สามารถตั้งค่าการชาร์จผ่านสมาร์ทโฟนได้ เช่น การตั้งค่าระบบปรับอากาศปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารก่อนเดินทาง, ตั้งเวลาชาร์จกันค่าไฟสูงกว่า และตั้งค่าปริมาณการชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดตั้งแต่ 80-100% ป้องกันการเสื่อมของแบตเตอรี่ในระยะยาว
สมรรถนะ Performance
เคลมว่าวิ่งไกลสุด 245 กิโลเมตรต่อการชารจ์หนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTC มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 29.6 kWh ให้พลัง 53 กับ 64 แรงม้า แรงบิด 162 นิวตันเมตร บิดเท่าไหร่ ยังมีโหมด ECON ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศและช่วยขยายระยะทางในการใช้งานมากขึ้น
ส่วนการชาร์จนั้นเป็นการชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6 kW ใช้เวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมง และชาร์จกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 50 kW ภายใน 30 นาที พร้อมแบตเตอรี่ขนาดบางเป็นพิเศษถูกติดตั้งไว้บริเวณใต้พื้นห้องโดยสารและยังจ่ายไฟให้อุปกรณ์ภายนอกสูงสุด 1,500 วัตต์ ติดตั้งระบบเซอร์โวเบรกแบบไฟฟ้า ช่วยในการชะลอความเร็ว และเบรกนุ่มนวลป้องกันไม่ให้สินค้าได้รับความเสียหายจากการตกกระแทก
ความปลอดภัย Safety
Honda Sensing มาครบไม่ว่าจะเป็น
- เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS)
- เตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ Leading vehicle start notification function
- ช่วยหักหลบคนเดินถนน Pedestrian Accident Reduction Steering
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM)
- บอกข้อมูลป้ายสัญญาณจราจร Traffic Sign Recognition System (TSR)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB)
- ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะเดินหน้า Erroneous start suppression function
- ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะถอยหลัง Erroneous rear start suppression function
- สัญญาณกะระยะการจอดด้านและหลัง Parking sensor system (front/rear)
- ช่วยยับยั้งการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงโดยไม่ตั้งใจ Sudden acceleration suppression function
Honda N-VAN e: ขายที่ญี่ปุ่นจริง 10 ตุลาคมและขายด้วยกัน 4 ทางเลือกตั้งแต่รุ่น 4 ที่นั่ง e:L4 กับรุ่น e:FUN เริ่มต้น 2,699,400-2,809,400 Yen หรือราว 631,000-659,000 บาท ส่วนรุ่น e:L2 มีเพียง 2 ที่นั่ง ฝั่งคนขับและหลังคนขับ 2,549,800-2,659,800 Yen หรือราว 599,000-625,000 บาทและ รุ่น e:G 1 ที่นั่งฝั่งคนขับ จำหน่ายเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรเท่านั้นเริ่ม 2,439,800-2,549,800 Yen หรือราว 575,000-599,000 บาท มีสีภายนอกทั้ง
- สีขาวมุก Platinum White Pearl
- สีเหลือง Autumn Yellow Pearl
- สีเขียว Botanical Green Pearl
- สีเทา Sonic Gray Pearl
- สีดำ Nighthawk Black Pearl
- สีทูโทนทั้ง สีเหลืองหลังคาดำ Autumn Yellow Pearl & Black, สีเขียวหลังคาดำ Botanical Green Pearl & Black และสีเทาหลังคาดำ Sonic Gray Pearl & Black
ที่มา Carwatch