More

    เทคโนโลยียานยนต์ที่จะได้เห็นในปี 2030 -2040

    การอัพเดทเทรนด์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์เป็นสิ่งที่เราไม่ควรพลาด ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีการแข่งขันในธุรกิจอุตสาหกรรมรถยนต์กันอย่างสูง รถออกใหม่ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ใส่เต็มกันเป็นว่าเล่น แต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้คาดว่าโลกของยานยนต์จะเปลี่ยนไปให้ทุกคนได้ตื่นเต้นขึ้นทุกปี ด้วยพัฒนาการแบบก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้ ในโลกอนาคตอันใกล้นี้ ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นรถยนต์บินได้อย่างที่เค้าล่ำลือกันก็เป็นไปได้ ความท้าทายนี้เราต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าค่ายไหนจะสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ออกมาก่อนกัน มาดูกันว่านวัตกรรมต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จะมีอะไรบ้าง

    หมดยุคของการใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน กลายมาเป็นระบบไฟฟ้า 100% 

    ในปี 2030-2040 นี้ คาดว่าน่าจะ “หมดยุครถใช้น้ำมัน” กันทั้งโลกเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนี้หลายประเทศก็กำลังตื่นตัวกับผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพราะเป็นทรัพยากรที่หมุนเวียน ใช้งานได้ง่าย และมีส่วนสำคัญช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นปัญหาของภาวะโลกร้อน รวมทั้งยังลดมลพิษทางอากาศได้  แต่อย่างไรเราก็ต้องเตรียมพลังงานเชื้อเพลิงสำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ให้เพียงอีกด้วย การพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้วิ่งได้ไกลขึ้น ความจุแบตเตอรี่มากขึ้น วิ่งได้เร็วขึ้นในรถสปอร์ตต่างๆ ความปลอดภัยมากขึ้น น่าจะได้เห็นกันอย่างแน่นอน

    เนื่องจากต้นทุนในการผลิตแบตเตอรี่กำลังจะลดลง ทำให้ราคารถไฟฟ้าถูกลงกว่าราคาน้ำมัน จึงไม่แปลกที่ในอนาคตจะเต็มไปด้วยความทันสมัย และสะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มมูลค่าตัวรถ เราอาจจะได้เห็นการใช้ม่านตาในการเปิดรถ ระบนลายนิ้วมือสแกนเข้ารถ สตาร์ทเครื่องยนต์ ก็เป็นได้

    เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ 

    การพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ เพราะในความซับซ้อน ความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กันมากกว่าการใช้คนขับนั้น ต้องละเอียดและรอบครอบเป็นอย่างมาก ซึ่งเราคิดว่าเรื่องนี้ความสามารถของผู้คิดค้นนวัตกรรมนี้น่าจะอัจฉริยะมากพอที่จะสร้างรถยนต์ไร้คนขับออกสู่ท้องถนนได้ไม่ยาก

    ประโยชน์ของเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนี้

    1. ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
    ในปัจจุบันระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยรอบคัน เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ความปลอดภัยที่แต่ละค่ายให้มาต่างๆ ก็มากพอสำหรับการป้องกันอุบัติเหตุและดูแลความปลอดภัยให้กับตัวรถมากพอสมควรแล้ว แต่นักพัฒนาเค้ายังไม่หยุดกันเท่านี้ ยังคงคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมมากขึ้นไปอีกในอนาคต อันนี้ก็ต้องมารอดูกันว่าจะเป็นระบบเทคโนโลยีอะไรบ้าง

    2. รักษาสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน
    หากในอนาคตนี้ทั่วโลกหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น สิ่งแรกที่จะช่วยแวดล้อมของโลกเราได้จากภาวะโลกร้อนเลยก็คือ พลังงานสะอาด ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน นอกจากนั้นในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก็ยังเป็นมิตรต่อโลกและสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้งานได้จริง เมื่อเราสูดดมอากาศเข้าไป ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย

    3. ช่วยอำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น
    สำหรับเด็ก คนชรา หรือคนพิการ คงเป็นไปได้ยาก หากไม่มีรถยนต์อัตโนมัติเข้ามาช่วย ดังนั้น เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกสบาย ก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตของพวกเขาเป็นเรื่องง่ายกันเลยทีเดียว

    4. ลดความเสี่ยงในอุบัติเหตุ
    การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงนั้น จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมาก เพราะการใช้รถยนต์แบบระบบอัตโนมัติ รถจะเคลื่อนที่ได้เอง ไม่ต้องมากังวลกับอุบัติเหตุจากความประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

    5. ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องเชื้อเพลิง
    ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆอีกในอนาคตนี้ หากมีพลังงานทดแทนอย่างพลังงานไฟฟ้าเข้ามา ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเราถูกลงมาก

    ข้อเสียของเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ

    1. รถยนต์ราคาค่อนข้างสูง
    รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะต้องใช้การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ย่อมส่งผลราคาสูงมาก อย่างรถ Tesla Model ต่างๆ ของเจ้าพ่อโลกอนาคต Elon musk ที่มีราคาสูงถึง 2 ล้านกว่าบาท

    2. ระยะทางถูกจำกัด
    การเดินทางด้วยรถยนต์ระบบอัตโนมัติ จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงาน และรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นที่มีความจุแบตเตอรี่จำกัด ก็อาจจะเดินทางได้ไม่ไกลมากนัก จะต้องคอยหาสถานที่สำหรับชาร์ตแบตอยู่ตลอดเวลา หรือใช้งานแบบผิดวิธีก็อาจจะทำให้รถยนต์เกิดติดขัด และเสียหายได้เช่นกัน

    3. ความเหมาะสมเฉพาะบุคคล
    ในภาวะที่หลายๆคนจะต้องเดินทางไกล หรือต้องทำเวลาในการเดินทาง ตัวเลือกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอาจจะไม่ตอบโจทย์ของคุณที่จะต้องคอยหาแหล่งชาร์จ ชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางต่างๆ หรือระบบเทคโนโลยีที่ล้ำเกินไป เกินกว่าจะทำความเข้าใจได้

    4. ไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย
    รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ก็จริง แต่ด้านความปลอดภัยที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่า หากวันนึงขัดข้องขึ้นมาแล้วจะยังปลอดภัยอยู่มั้ย เพราะระบบการทำงานไฟฟ้าค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งหลายๆคนก็อาจจะยังไม่มั่นใจในจุดนี้สักเท่าไร อาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกมากเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่ก็ไม่แน่ระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นถึงความปลอดภัยที่แน่นอนก็เป็นไปได้


     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts