More

    Honda HR-V e:HEV พี่บึ้งทรงสปอร์ตวิ่งไกลกว่า 800 กม.เริ่ม 8 แสนกว่า

    นอกจากจะเปิดตัวรุ่นท็อปสุด RS ไปแล้วสำหรับ Honda HR-V e:HEV ยังมีการเปิดตัวอีก 2 รุ่นย่อยสำหรับแฟนๆที่ชื่นชอบความคุ้มค่ากับรุ่นเริ่มต้น E และรุ่นรองท็อป EL เจาะสเปกว่าจุดไหนเปลี่ยนแปลงบ้างเริ่มที่

    ภายนอก Exterior

    กระจังหน้าหน้าใหม่ทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ใหม่สีเดียวกับตัวรถออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเส้นแนวนอนลดจำนวนเหลือ 8 เส้น จากเดิม 10 เส้น พร้อมตรา H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า กันชนหน้าออกแบบใหม่สปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศใหม่แนวรังผึ้งพร้อมคิ้วชายล่างสีเงินในรุ่น EL และสีดำล้วนในรุ่น E

    พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟหน้า LED พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ในรุ่น EL กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูหลังแบบซ่อนรูปติดเสา C ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมฝาท้ายแบบแฮนด์ฟรี ปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ในรุ่น EL เสาอากาศครีบฉลาม ไฟท้าย LED และ ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R17 มิติตัวรถดังนี้

    • ความยาว 4,347 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,790 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,590 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,367 กิโลกรัมในรุ่น E และ 1,371 กิโลกรัมในรุ่น EL
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 196 มิลลิเมตร
    • ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร

    ภายใน Interior

    Hondaเพิ่มเติมหลากหลายฟังก์ชันอาทิ ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย คอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่างมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว พร้อมใหม่! จอแสดงไฟเบรก ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง แบบ Type-C 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง

    ออปชันใหม่ที่เคยมีในรุ่น RS เพิ่มอย่างจุใจในรุ่น EL ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิพร้อมไฟส่องสว่าง ทางด้านรุ่น E เพิ่มทั้งแผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิดพร้อมไฟส่องสว่าง เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลังและลำโพง 6 จุดจากเดิม 4 จุด

    พร้อมออปชันเดิมคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมการตกแต่งด้วยโทนสีเข้มเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย ไฟในห้องโดยสารแบบ LED ทั้งด้านหน้า ด้านหลังและไฟส่องสว่างสัมภาะรท้าย พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังสีดำและรองรับ Honda CONNECT

    เบาะหนังดีไซน์สปอร์ตสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ตออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้น คงเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ทั้ง Utility Mode Long Mode และ Tall Mode

    สมรรถนะ Performance

    Hondaขุมพลังเป็นแบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มาพร้อมชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ตอบสนองทันใจ

    เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส LEB-H5 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ผสมผสานกันทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบต่อนาที

    ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตรต่อลิตรโดยน้ำมันหนึ่งถัง วิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตรด้วยน้ำมันเพียง 1 ถังพร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT พร้อม Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode  Normal Mode และ Sport Mode

    ความปลอดภัย Safety

    ความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ติดตั้งเป็นมาตรฐานทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่าง มีประสิทธิภาพโดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

    • เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
    • เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
    • เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

    Honda

    • ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
    • เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อมระบบ Auto Brake Hold
    • แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda Lane Watch)
    • ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
    • เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่
    • พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน
    • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
    • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งรอบคัน
    • ป้องกันล้อล็อก (ABS) ดิสก์เบรก 4 ล้อ
    • กระจายแรงเบรก (EBD)
    • ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist: VSA)
    • ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
    • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signa: ESS)

    Honda

    พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน- 27 พฤศจิกายน พร้อมทำการจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน –31 ธันวาคม รับฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท โดยมาพร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty)

    รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in” ขายรถคันเดิมเพื่อออก HR-V e:HEV รับเพิ่มบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ที่มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า เมื่อจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 – 28 กุมภาพันธ์ 2568

    Honda HR-V e:HEV มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานครบครันมาพร้อม 2 รุ่นย่อย ขยายฐานลูกค้าไปหลากหลายกลุ่ม เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นด้วยราคาดังนี้

    • รุ่น E ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว เพียง 89X,XXX บาท จำนวนจำกัด เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2567
    • รุ่น EL ราคาประมาณการ 1,0XX,XXX บาท

    พร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤศจิกายนและเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่บูทในงาน Motor Expo 2024 และโชว์รูมทั่วประเทศมาพร้อมสีภายนอกรถถึง 5 สี

    • สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) พร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน ในรุ่น EL
    • สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)
    • สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
    • สีขาวแพลทินัม (มุก)
    • สีดำคริสตัล (มุก)

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts