ในที่สุด Mazda เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Mazda EZ-6 เกิดจากความร่วมมือพัฒนากับทาง CHANGAN จนก่อเกิดเป็นเก๋งสปอร์ตทรงเท่ตอบโจทย์ชาวจีน
Mazda EZ-6 มาด้วยกันถึง 7 รุ่นย่อยแบ่งเป็นอีวีล้วน EV 3 รุ่นย่อยและรุ่นอีวีขยายระยะทางที่ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟหรือ EREV 4 รุ่นย่อย
ยังคงเป็นเอกลักษณ์สไตล์ Mazda กับ กระจังหน้าทรงซิกเนเจอร์วิงคาดจะเป็นแบบทึบคาดเส้นทับชุดไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมขอบกระจังหน้าและตราโลโก้พร้อมกันชนหน้าชิ้นเดียวรองรับการออกแบบด้านหน้าอย่างลงตัว
ด้านข้างตัวรถบริเวณบังโคลนตกแต่งสปอร์ต คิ้วชายล่างโครเมียมใต้ขอบประตู ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังรถไฟท้าย LED ดีไซน์เพรียวแนวยาวแบบ Star Flame พร้อมสปอยเลอร์ที่สามารถยกปีกออกมาแบบอัตโนมัติ พร้อมตราโลโก้ Mazda ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R19 เก๋งลูกครึ่งญี่ปุ่น-จีน
คันนี้นำบอดี้ทั้งคันของ DEEPAL L07 (SL03) ตกแต่งใหม่ในสไตล์ Mazda จากพื้นฐานสถาปัตยกรรม CHANGAN ”EPA1” ในชื่อรหัสว่า ”J90A” โดยมีมิตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,921 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,485 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,895 มิลลิเมตร
- ช่องใส่ของใต้ฝากระโปรงหน้าในรุ่น EV 99 ลิตร
ยกพื้นฐานมาจาก DEEPAL L07 แต่ปรับงานดีไซน์ให้เข้ากับความเป็นรถญี่ปุ่น หรูหราด้วยเบาะนั่งสบาย 5 ที่นั่งหุ้มหนัง และหนัง NAPPA สามารถพับเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่ด้านท้าย 1,174 ลิตร กรณีพับเบาะและ 479 ลิตรกรณีไม่พับเบาะ และพื้นห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ
เบาะนั่งหุ้มหนังคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับพร้อมระบบความจำตำแหน่งเบาะ เลื่อนเข้าออกอัตโนมัติ พร้อมปุ่มดันหลังปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง มีระบบเป่าเย็นที่เบาะนั่งและพนักพิงศีรษะคู่หน้า มีช่องแอร์ (Electric Hidden Intelligent Air Ventilation)
พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอิสระ 2 โซน (Dual-zone Auto A/C) โหมดลมธรรมชาติ (Natural Wind Mode) มีแอร์ด้านหลังพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส (Rear touchscreen A/C Control Panel)
ชุดคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านปรับได้ 4 ฟังก์ชัน มาตรวัดดิจิทัล LCD ขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว เอนหาคนขับถึง 15 องศา รองรับ Apple CarPlay ไร้สาย พร้อมสั่งงานด้วยท่าทาง (Gesture Recognition)
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ออนไลน์ (Over The Air, OTA) ลำโพงจาก SONY 14 จุด มีจอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า -AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว พร้อมระบบนำทางแบบ AR พิเศษด้วยหลังคากระจก Sunroof ขนาดใหญ่ 1.9 ตารางเมตร ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 สี ที่ชาร์จมือถือไร้สายขนาด 50 W
ขุมพลังมีให้เลือกตั้งแต่ไฟฟ้าล้วนขับเคลื่อนล้อหลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW ในเวลา 7.5 ชั่วโมงและชาร์จกระแสตรง DC 30-80%ได้ในเวลา 15 นาทีมีด้วยกันถึง 2 แบบเริ่มที่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ Lithium Ternary (NMC) 56.1 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
ขยับมาที่รุ่นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ Lithium Ternary (NMC) 68.8 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 600 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
มาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง ECO/COMFORT/SPORT/CUSTOMIZE พร้อมระบบการจัดการแบตเตอรี่ดิจิทัลแบบ iBC (iBC Digital Battery Management) ผสานการทำงานระหว่างการวิเคราะห์จากตัวรถและระบบคลาวด์แม่นยำในด้านการติดตามสุขภาพแบตเตอรี่ การเตือนภัยด้านความเสี่ยงและระบบจัดการชาร์จ
ยังมีขุมพลัง EREV หรือ Extended Range อีวีขยายระยะทางเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าให้เลือกด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส JL473QJ ให้กำลัง 98 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ใช้ในการปั่นไฟพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
สามารถชาร์จ AC และ DC ได้ 30-80% ภายใน 20 นาที และวิ่งไกลสุดเมื่อน้ำมัน 1 ถังและชาร์จหนึ่งครั้งรวมกัน 1,301 กิโลเมตร
โดยมี 2 รุ่นทั้งความจุแบตเตอรี่ขนาด 18.9 kWh วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 130 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และรุ่นความจุแบตเตอรี่ขนาด 28.4 kWh วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 200 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
ทุกรุ่นมาพร้อมรองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงล่างอิสระสี่ล้อด้วยด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และหลังอิสระมัลติลิงก์แบบ H-ARM ความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (Intelligent Driver Assistance System)
- เตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
- เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหลัง (FCTB)
- เตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง (RCW)
- เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTฺB)
- ตรวจจับป้ายจราจร (TSR)
- ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
- เตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- แจ้งเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
- ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (ACC)
- ควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน (ELK)
- จอดรถอัตโนมัติ (APA)
- จอดอัตโนมัติจากระยะไกล (RPA)
พร้อมความปลอดภัยมาตรฐานทั้ง ถุงลมนิรภัยรอบคัน เสริมแรงเบรก (BA) ป้องกันล้อล็อก (ABS) กระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัว (DSC) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA) เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าปรับสูง-ตํ่าได้เตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง
ล็อกเพื่อปองกันเด็กเปิดประตูจากในรถแบบไฟฟ้าเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Auto Hold กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาแบบ 3 มิติพร้อมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง
บันทึกวิดีโอการขับขี่รอบทิศทาง 360 องศาตรวจจับแรงดันลมยาง (TPMS) เซนเซอร์ชวยตรวจจับวัตถุด้านหน้าและหลังด้านละ 6 จุดสัญญาณป้องกันขโมยจุดยึดเบาะนังสําหรับเด็กแบบ ISOFIX
Mazda EZ-6 ผลิตที่โรงงานของ CHANGAN เมืองหนางจิงประเทศจีนพร้อมส่งมอบให้ชาวจีนตั้งแต่ 9-11 สัปดาห์หลังปิดรับจองในราคา Pre-Sale ตั้งแต่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยมีสีภายนอกถึง 8 สีในราคาในราคาเริ่มต้น 159,800-179,800 YUAN หรือราว 759,000-855,000 บาท สำหรับรุ่น EV ล้วนทางด้านรุ่นอีวีขยายระยะทางที่ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟหรือ EREV เริ่มต้น 139,800-169,800 YUAN หรือราว 664,000-805,000 บาท
ที่มา AUTOHOME
