หลังจากเปิดตัวที่เมืองจีนไปได้ไม่นาน GWM TANK 700 Hi4-T ด้วยเทคโนโลยีออฟโรดสุดล้ำสมัยสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มรถออฟโรดระดับพรีเมียมรุ่นเรือธง
ล่าสุด GWM ประเทศไทยนำพรีเมียมออฟโรดคันนี้มาโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2024 ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์คาดเป็นการโชว์ดักคอเรียกความสนใจจากชาวไทย
เด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแนวนอน 3 เส้นโลโก้ TANK ที่ลงตัวรับเส้นสายที่นูนขึ้นของฝากระโปรงไฟหน้า Intelligent LED ดีไซน์โดดเด่นด้วยระบบอัจฉริยะอาทิระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติและฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า LED
ด้านข้างตกแต่งดีไซน์เหลี่ยม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ปรับ-พับด้วยระบบไฟฟ้าทรงสปูน ที่เปิดประตูแบบดึงก้าน หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ราวหลังคา ด้านหลังมาพร้อมประตูท้ายเปิดบานเดียวใหญ่แบบ horizontal พร้อมระบบดูดไฟฟ้าช่วยผ่อนแรง
ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้ายพร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว ไฟท้าย Vertical LED ดีไซน์แนวนอน มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED ให้ความสว่างชัดเจนเพื่อความปลอดภัยและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 27 5/50 R20 และ 22 นิ้วพร้อมยาง 275/50R22
ด้วยขนาดที่ยาวกว่า 5 เมตร และกว้างมากกว่า 2 เมตร ทำให้พร้อมกับการผจญภัยทุกรูปแบบตัวรถขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถตั้งแต่
- ความยาว 5,090 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 2,061 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,952 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 249-282 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 3,110-3,180 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร
ภายในถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่อย่างหรูหราและเหนือระดับ 5 ที่นั่ง เบาะนั่ง Light Cloud ทำจาก หนัง BADER NAPPA จากเยอรมนีมุมกว้างพิเศษออกแบบให้เข้ากับสรีระของร่างกายเพื่อสร้างความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ราวกับนั่งบนปุยเมฆ
เบาะด้านหน้าสามารถปรับระดับได้ถึง 156 องศา และ 141 องศาสำหรับเบาะด้านหลัง ที่วางขาสามารถปรับได้ 2 ทิศทาง ที่ดันหลังปรับได้ 4 ทิศทาง ระบบระบายอากาศของเบาะปรับได้ 3 ระดับ พร้อมระบบปรับอากาศ 9 ระดับเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และ Welcome Seat เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ
พร้อมออปชันอื่นๆทั้งมาตรวัดความเร็ว LCD 12.3 นิ้ว จอกลาง 16.2 นิ้วรองรับระบบความบันเทิงทั้ง Apple CarPlay Android Auto MP5 Bluetooth ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า HUD จอแสดงการทำงานเบาะหลังขนาด 7 นิ้วที่ท้าวแขนเบาะหลัง และจอนาฬิกาอนาล็อกทรงกลมขนาด 1.39 นิ้ว
พร้อมลำโพง 16 ตัวที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ Hi-Fi (High Fidelity) ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ก้าวไปอีกขั้น ผ่านทุกรายละเอียดที่สร้างสรรค์ไว้อย่างประณีตในทุกแง่มุมจาก Harman Kardon นอกจากนี้ ยังมีระบบเก็บเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยการผนึกประตูข้างถึง 3 ชั้น และประตูด้านหลังถึง 2 ชั้น
พร้อมกับกระจกที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกหนา 5 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบลดเสียงของ Harman Kardon ทำให้ห้องโดยสารเงียบแม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูงถึง 199 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ตาม
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับไฟฟ้าปรับแบบ 4 ทิศทาง กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหากุญแจ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่วยให้การชาร์จ Smart Phone สะดวกและรวดเร็ว และอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA)
ทรงพลังด้วยเบนซินเทอร์โบปลั๊กอินไฮบริด V6 ขนาด 3.0 ลิตร รหัส E30Z ให้กำลัง 360 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า P2 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตรและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไตรภาค (NMC) ขนาด 37.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวมสูงสุด 524 แรงม้า แรงบิดรวม 800 นิวตันเมตร (850 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Limited Edition)
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาไม่ถึง 5 วินาที วิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 0.4 ชั่วโมงและชาร์จกระแสสลับ AC 6.5 ชั่วโมง รองรับ V2L (Vehicle-to-load) ถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของรถไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ รองรับการจ่ายโหลดสูงสุด 3.3 kW ประหยัด 33.67 กิโลเมตรต่อลิตร ตามมาตฐาน WLTC
พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีโหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกเส้นทางมากถึง 12 โหมด และสามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 970 มิลลิเมตร จึงสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางและทุกสถานการณ์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9HAT
มีมุม approach angle หรือมุมเงย 32-37.8 องศา และมุม departure angle หรือมุมจาก 32-37.6 องศา และลุยน้ำได้ 900 มิลลิเมตร ความปลอดภัยรอบคันด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่
GWM TANK 700 Hi4-T เผยโฉมจริงที่งาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี