ในที่สุด BMW ได้ฤกษ์ดีใช้เวทีงาน Motor Expo เปิดตัวเอสยูวีเจนใหม่ไว้มาต่อกรกับคู่แข่งตัวเอ้อย่าง Mercedes-Benz GLC กับ BMW X3 เจนใหม่
BMW X3 เจนใหม่นี้เป็นเจเนอเรชันที่ 4 รหัส G45 ที่เปิดตัวต่างประเทศไปตั้งแต่กลางปีนี้ ใหม่หมดทั้งคันแต่ยังคงเป็นเอกลักษณ์สไตล์ค่ายใบพัดฟ้าขาว
เริ่มที่ภายนอกกับกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ มีชุดไฟ LED เรืองแสงล้อมกรอบกระจังหน้าไส้ในของกระจังหน้ามาในแนวตั้งและแนวทแยงในชุดเดียวกันในรุ่นปกติพร้อมไฟหน้า LED Adaptive โคมใหม่ดูดีสปอร์ตขึ้นพร้อมไฟ DRL LED รูปตัวแอลในโคมเดียวกันรับกับกันชนหน้าขนาดใหญ่ขอบกันชนหน้าซ้ายขวามาในแนวรูปตัวแอล
ด้านข้างเท่ด้วยสเกิร์ตและแนวหลังคาที่ทอดยาวไปด้านท้ายรถ ซุ้มล้อหลังขนาดใหญ่ส่งให้ช่วงท้ายรถดูกว้างขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่กระจกหลังถูกล้อมกรอบด้วยสปอยเลอร์บนหลังคาและที่บังลมด้านข้าง ราวหลังคาดีไซน์บิ๊วอินกลมกลืนกับหลังคารถ ที่เปิดประตูที่หวนกลับมาใช้แบบยกก้านแทนดึงก้าน กระจกมองช้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงเท่ ชุดไฟท้าย LED รูปตัวทีแนวนอนแบบแยกติดตราโลโก้ตรงกลาง พร้อมกันชนหลังทูโทนเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังกับท่อไอเสีย 4 ท่อ Quad หลังคารถแบบ Panoramic Glass Sunroof พร้อมชุดแต่ง M Lights Shadowline
ในรุ่น X3 20d xDrive M Sport Pro ใหม่ ซ่อนปลายท่อไอเสียไว้ในกันชนท้าย มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้วในดีไซน์ Double spoke แบบสลับสีพร้อมยางหน้า 255/45 R20 และยางหลัง 285/40 R20 ส่วนรุ่น X3 M50 xDrive ขับเน้นความสปอร์ตอย่างเต็มพิกัดด้วยชุดท่อไอเสียคู่ทั้งด้านซ้ายและขวา พร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Star spoke แบบสลับสี รัดด้วยยางหน้า 255/40ZR21 และยางหลัง 285/35ZR21 ตัวรถยังคงใช้แพลตฟอร์ม CLAR ใหญ่ขึ้นทุกมิติตั้งแต่
- ความยาว 4,755 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,920 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,660 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,865 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,855-1,980 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 216 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร
ภายในแน่นอนว่าตามยุคสมัยด้วยคอนโซลหน้าดีไซน์ล้ำใส่จอสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รวมทั้งจอมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และจอสัมผัส 14.9 นิ้ว มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบลอยตัว ระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 9 หรือ iDrive 9 พร้อม Quick Select จอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้าหรือ BMW Head-up Display มีแถบไฟ BMW Interaction Bar ในบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูสี่บาน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด
คันเกียร์ที่มาในดีไซน์ใหม่ ส่วนไฟในห้องโดยสารก็ได้รับการออกแบบมาในโทนสีที่ตัดกันอย่างลงตัวบนพื้นผิวคอนโซลหน้ารถและบานประตูเบาะนั่งสไตล์สปอร์ตที่ปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า วัสดุหุ้มเบาะด้วยวัสดุหนัง VEGANZA ในรุ่น X3 20d xDrive M Sport Pro มาทั้งโทนภายในสีน้ำตาล Espresso Brown และสีดำ Black
ส่วนรุ่น X3 M50 xDrive เป็นครั้งแรกที่นำหนัง BMW Individual leather Merino มาใช้กับเบาะในรุ่น X3 ด้วยโทนสีดำเทา Black/Atlas Grey เช่นเดียวกับแผงควบคุมด้านหน้าในชุดแต่ง Luxury ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรุ่นนี้ด้วยพื้นผิวแบบถักจากวัสดุรีไซเคิลในลุคสุดเรียบหรู ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 มีพื้นที่วางของด้านท้าย 570–1,700 ลิตร เพิ่มการขนของได้ดั่งใจต้องการ
มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซนกระจกลดเสียงรบกวน ฟังก์ชัน Comfort Access ระบบเปิดประตูท้ายอัตโนมัติ พับกระจกมองข้างแบบไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย และระบบ BMW Live Cockpit Professional
ด้านขุมพลังแน่นอนว่ามาครบในตระกูล Twin PowerTurbo ทั้งเบนซินและดีเซลเริ่มที่ตระกูล M Performance ใช้บริการขุมพลังเบนซิน M TwinPower Turbo รหัส S58B30A ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง 380 แรงม้าที่ 5,200-6,250 รอบต่อนาที แรงบิด 540 นิวตันเมตรที่ 1,900-4,800 รอบต่อนาที
พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 18 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบพละกำลังรวมสูงสุด 398 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 580 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.6 วินาที ในรุ่น X3 M50 xDrive
มีดีเซลเทอร์โบเป็นอีกทางเลือกด้วยขนาด 2.0 ลิตร รหัส B47D20B ให้กำลัง 197 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 11 แรงม้า แรงบิด 25 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบพละกำลังรวมสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 400 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.7 วินาที ในรุ่น X3 20d xDrive M Sport Pro
ทั้ง 2 รุ่นยังพร้อมเติมความแรงให้การตอบสนองที่ฉับไวยิ่งกว่าเมื่อกดคันเร่งด้วยระบบ Sport Boost โดยทั้งสองรุ่นนำระบบ mild hybrid 48V มาทำงานคู่กับเครื่องยนต์หลักเพื่อให้ส่งกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้นไปพร้อมกันพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic พร้อม Gearshift Paddles มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive
ยกระดับทั้งความคล่องตัวเสถียรภาพขณะเข้าโค้งความสะดวกสบายในการเดินทางไกล ด้วยตัวถังที่แข็งแกร่งกว่ารุ่นก่อนหน้า ฐานล้อหลังที่กว้างขึ้น ปรับแต่งทุกส่วนประกอบและระบบควบคุมอย่างละเอียด พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ มาแบบ Adaptive Suspension ในรุ่น X3 20d xDrive M Sport Pro และ แบบ Adaptive M Suspension ในรุ่น X3 M50 xDrive ความปลอดภัยครบครันทั้ง
- ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection)
- ความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
- ควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว
- ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional (Driving Assistant Professional) ในรุ่น X3 M50 xDrive
- ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Plus (Driving Assistant Plus) ในรุ่น X3 20d xDrive M Sport Pro
- ช่วยนำเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus)
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน
- เตือนการชนด้านหน้า
- เตือนการออกนอกเลน
- ช่วยจำกัดความเร็ว
- เตือนการเปลี่ยนเลน
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง และถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสาร ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) คาร์ซีทแบบ ISOFIX ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ตรวจวัดลมยางและชุดปะยางฉุกเฉิน
ด้วยความลงตัวผสมผสานของดีไซน์จากเพื่อนร่วมค่ายอย่าง BMW X1 และ BMW 5 Series จนมาเป็น BMW X3 เจนใหม่ สำหรับเมืองไทยเปิดตัวและขายที่งาน Motor Expo 2024 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมนี้ ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
จับตาเปิดตัวครั้งนี้จะเป็นรถประกอบในประเทศพร้อมขายหรือไม่ต้องติดตามมีสีภายนอก 5 สีทั้ง สีขาว Alpine White, สีดำ Black Sapphire Metallic, สีเทา Brooklyn Grey Metallic สีน้ำเงิน Tanzanite Blue Metallic และสีเทาพิเศษเฉพาะรุ่น X3 M50 xDrive อย่างสีเทา Dune Grey metallic